รีวิวหนัง คิวชู แล้วพรุ่งนี้เราคงจะรู้กัน | เที่ยวญี่ปุ่นด้วยเงิน 999 เยน

หนังไทยสไตล์เรียลิตี้ เมื่อเอ๊ะ ละอองฟอง เปิดบริการนำทัวร์พา แดน วรเวช ท่องทั่วเกาะคิวชู

ได้เวลาหันมาดูหนังไทยกันบ้าง คราวนี้เป็นหนังไทยที่ค่อนข้างจะแหวกแนวไปจากหนังไทยเรื่องอื่นๆ นิดหน่อย นี่คงเป็นหนังไทยไม่กี่เรื่องที่เน้นความเป็นเรียลิตี้ ดำเนินเรื่องจากภาพการถ่ายทำชีวิตจริงๆ ชื่อไทยคือ ‘Kyushu The Movie’ หรือในชื่อไทย ‘คิวชู แล้วพรุ่งนี้..เราคงจะรู้กัน!!’ กับการถ่ายทอดเรื่องราวชายหนุ่มเพียงสองคนที่ดั้นด้นใช้ชีวิตในญี่ปุ่น 30 วันด้วยเงินเพียงนิดเดียว และมุ่งหวังจะเปิดคอนเสิร์ตของตัวเอง

ภาพจากหนัง ‘คิวชู แล้วพรุ่งนี้เราคงจะรู้กัน’

นี่คือหนังที่ตัดต่อจากฟุตเทจของการเดินทางท่องไปในดินแดนอาทิตย์อุทัยในลักษณะเที่ยวไป ทำงานไป พักไป และเล่นดนตรีไป โดยมีสองหนุ่มอย่าง แดน วรเวช ดานุวงศ์ (หรือ แดน D2B) กับ เอ๊ะ ละอองฟอง พร้อมทีมงานที่ไม่เปิดเผยตัวคอยเก็บภาพบ้าง บางทีสองหนุ่มก็ถ่ายกันเลยบ้าง อะไรแบบนี้

เหมือนจะเป็นหนังพาเที่ยวญี่ปุ่นกลายๆ เนอะ


เรื่องย่อหนัง ‘คิวชู แล้วพรุ่งนี้..เราคงจะรู้กัน!!’

นี่คือเรื่องเล่าของการเดินทางของคน 2 คนบนเกาะคิวชู ที่ไม่ได้ไปเพียงเยี่ยมเยือนในฐานะนักท่องเที่ยว หากแต่ไปในฐานะของคนที่มีจุดหมายมากกว่านั้น พวกเขาใช้เวลาอยู่ในเกาะ ร่อนเร่ไปตามเมืองต่างๆ เพื่อตระเวนเล่นดนตรีตามที่ต่างๆ และขายซีดีของวงนาม SanQ

‘คิวชู…แล้วพรุ่งนี้เราคงจะรู้กัน KYUSHU THE MOVIE’ by SanQ Band [OFFICIAL TRAILER]

พวกเขาอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 30 วัน อยู่ที่นั่นด้วยวิถีแบบฮิปสเตอร์ ใช้เงินในจำนวนที่น้อยที่สุด เมื่อเงินหมดอย่างรวดเร็ว หนทางที่จะทำได้ที่นั่นคือทำงานแลกกับได้ที่พักหลับนอน บางครั้งพวกเขาพักอยู่ในร้านอาหาร ก็เลยได้โอกาสที่จะนำเอาเพลงของตัวเองออกมาเล่นเพื่อร่วมสร้างความครื้นเครงให้กับลูกค้าของร้าน

คล้ายไปท่องเที่ยว แต่เป็นการท่องเที่ยวแบบเข้าถึงวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น

นอกเหนือไปกว่านั้น พวกเขายังนำเอาความเป็นไทยไปแลกเปลี่ยนวางไว้ที่นั่นด้วย และปิดท้ายด้วยโปรเจ็กต์ที่พวกเขาตั้งใจเอาไว้ว่าจะไปถึงจุดนั้น


รีวิวหนัง ‘คิวชู แล้วพรุ่งนี้..เราคงจะรู้กัน!!’

ถือเป็นหนังไทยที่ถ่ายทำด้วยสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร เพราะมันคือเรียลิตี้ชีวิตของชายหนุ่มสองคนบนแผ่นดินญี่ปุ่น เรื่องราวการใช้ชีวิตที่นั่นแบบไม่ต้องมีบท โดยมีดนตรีเป็นแกนที่จะพาพวกเขาไปยังที่ต่างๆ พาผู้ชมไปรู้จักกับญี่ปุ่นในจุดที่ไม่มีนักท่องเที่ยวไทยคนไหนได้ไป

จนบางทีก็สงสัยว่า คนญี่ปุ่นเขาให้ที่พักแลกกับการทำงานให้กันด้วยหรือ?

โปสเตอร์ ‘คิวชู แล้วพรุ่งนี้เราคงจะรู้กัน’

สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจาก ‘คิวชู แล้วพรุ่งนี้เราคงจะรู้กัน’ ก็คงจะเป็นด้านการถ่ายภาพ ด้วยทัศนียภาพของญี่ปุ่นนั่นค่อนข้างสะอาด สวยงามเป็นระเบียบ แถมยังแปลกตาไปจากที่เราเห็นในบ้านตัวเองมากพออยู่แล้ว ทีมงานเล่นใช้โดรนเพื่อถ่ายทำให้มุมสูง เคลื่อนกล้องขึ้นลงเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม

มันจึงเป็นหนังที่คนใฝ่ฝันจะไปเที่ยวญี่ปุ่นคงจะฟินกันไม่มากก็น้อย

ด้วยวิธีการตัดต่อที่ต่อเนื่องไม่มีทิ้งช่วงให้นิ่ง ทำให้หนังดูไม่น่าเบื่อดี โดยเฉพาะเมื่อทั้งแดนและเอ๊ะต่างก็มีมุกฮารับส่งกันได้ด้วยดี สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมได้มากพอดู โดยเฉพาะแฟนแดนน่าจะฟินที่จะได้เห็นกล้ามท้องของแดนที่เปลือยกายท่อนบนโชว์เต็มจอ

สองหนุ่มดูจะติดทะลึ่งอยู่นิดหน่อย แต่ก็เรียลดี

สถานการณ์อันน่าตื่นเต้น กับภารกิจที่น่าติดตามในเส้นทาง 7 จังหวัด บนเกาะคิวชู กำลังจะเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับ Mission Inspiration ของแดนและเอ๊ะ ที่จะพาเราไปรู้จักและร่วมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่นที่ไม่ใช่ดินแดน แต่จะแน่นแฟ้นกัน อย่างฉันมิตร ผ่านการดำเนินชีวิตของทั้งสองคนนี้ เพื่อบอกเล่าเรื่องราว วิถี การใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ ทัศนคติ สถานที่ วัฒนธรรม และเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ…โดยมิได้นัดหมาย!!

ไม่จำเป็นต้องถึงวินาที ทันที่ที่แดนและเอ๊ะก้าวเท้าเหยียบแผ่นดินคิวชู นั่นก็นับว่าเป็นการเริ่มต้น “ภารกิจแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม 30 วัน กับ 999CDs” โดยสมบูรณ์ แล้วอะไรคือ 999CDs น่ะหรือ? อธิบายให้เข้าใจได้…ไม่ยาก!!

ภาพจากหนัง ‘คิวชู แล้วพรุ่งนี้เราคงจะรู้กัน’

เราได้เห็นญี่ปุ่นในแง่มุมอื่นบ้าง เมื่อเดินเข้าไปพักอยู่ในบ้าน ร้าน โรงอาบน้ำ นอกเหนือไปจากการเดินท่องไปเยือนยังที่ต่างๆ แบบนักท่องเที่ยว ‘คิวชู แล้วพรุ่งนี้..เราคงจะรู้กัน!!’ จะอบอวลด้วยเพลงต่างๆ จากวง SanQ ที่ดังอยู่ทั้งเรื่อง ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก แต่หนังกลับมีปัญหาด้านการสื่อสารให้คนดูเข้าใจว่า พวกเขาเดินทางมาอยู่ เที่ยว พัก ร้องเพลง บนเกาคิวชูด้วยเหตุผลอันใด

เมื่อหนังเดินทางมาถึงจุดสุดท้าย คนดูอย่างเรายังไม่อินเท่าไหร่ว่านี่คือจุดหมายของพวกเขาแล้วหรือ เป็นจุดหมายที่น่าพอใจแล้วงั้นเหรอ สุดท้าย นายแพทเลยไม่อินโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงท้ายของหนัง

การตัดต่อที่ดูรวบรัดเกินไป ทำให้หนังดูลื่นไหลไม่น่าเบื่อก็จริง แต่หนังยังมีจุดอ่อนที่การเล่าเรื่องที่จะทำให้คนดูเข้าใจ ปิดท้าย หนังยังหยิบเอาช็อตสวยๆ ของญี่ปุ่นผ่านการถ่ายด้วยโดรนมาแถม

…ประกอบไปกับมิวสิกวิดีโอ


ชื่อภาพยนตร์: คิวชู แล้วพรุ่งนี้..เราคงจะรู้กัน!! / Kyushu The Movie
ผู้กำกับภาพยนตร์:
ผู้เขียนบทภาพยนตร์:
นักแสดงนำ: แดน วรเวช ดานุวงศ์ (แดน D2B), พงศ์จักร พิษฐานพร (เอ๊ะ ละอองฟอง)
ความยาว: นาที
แนว/ประเภท: Reality
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 24 ธันวาคม 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย:

คิวชู แล้วพรุ่งนี้..เราคงจะรู้กัน!!

Kyushu The Movie - 4

4

Kyushu The Movie

เมื่อหนังเดินทางมาถึงจุดสุดท้าย คนดูอย่างเรายังไม่อินเท่าไหร่ว่านี่คือจุดหมายของพวกเขาแล้วหรือ เป็นจุดหมายที่น่าพอใจแล้วงั้นเหรอ สุดท้าย นายแพทเลยไม่อินโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงท้ายของหนัง การตัดต่อที่ดูรวบรัดเกินไป ทำให้หนังดูลื่นไหลไม่น่าเบื่อก็จริง แต่หนังยังมีจุดอ่อนที่การเล่าเรื่องที่จะทำให้คนดูเข้าใจ ปิดท้าย หนังยังหยิบเอาช็อตสวยๆ ของญี่ปุ่นผ่านการถ่ายด้วยโดรนมาแถมประกอบไปกับมิวสิกวิดีโอ

User Rating: 4.45 ( 1 votes)
Exit mobile version