รีวิวหนัง TRON: Legacy ล่าข้ามอนาคต | Daft Punk เรืองแสง

ไปดูมาสดๆ ร้อนๆ ครับสำหรับภาพยนตร์เรื่องใหม่ของผู้กำกับฯ Joseph Kosinski ที่หลายๆ คนรอคอย กับภาพยนตร์ไซไฟสีสันสุดจ๊าบ ที่เขาว่าสร้างต่อจาก TRON ที่เคยสร้างไว้ในปี 1982 ซึ่งผมไม่เคยดูภาคนั้น เกิดไม่ทันและไม่ทันได้ตามไปหามาดูก่อนเข้าโรง

ก่อนหน้าที่ผมจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ‘TRON: Legacy ทรอน ล่าข้ามอนาคต’ ผมได้ฟังเพลงประกอบที่ทำโดย Daft Punk ศิลปินแนวอิเล็กทรอนิกส์ที่ผมชื่นชอบไปบ้างแล้ว แม้ว่าจะยังสร้างความประทับใจได้ไม่มากพอ แต่ก็คิดว่ายังไงก็จะขอไปพิสูจน์ในโรงอีกที

ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีส่วนผสมของความเป็น Sci-Fi ผสานเข้ากับความเป็น Fantasy ไม่พอยังใส่ความเป็น Action เข้าไปผสมหน่อยๆ ด้วย แน่นอนว่า ผมไม่คาดหวังในฉากแอ็คชั่น สิ่งที่ผมสนใจว่า เพลงประกอบของ Daft Punk ในหนังจะเป็นยังไง กลมกลืนแค่ไหนกับงานภาพมากกว่า

เรื่องราวเนื้อหาของตัวหนัง อาจจะไม่ได้มีอะไรใหม่หรือลึกซึ้งอะไรมากนัก มันคือหนังไซไฟจินตนาการ ที่พูดถึงเรื่องราวของครอบครัวธุรกิจทำเกม ของพ่อ Kevin Flynn (ซึ่งแสดงโดย Jeff Bridges คนเดิมกับที่แสดงไว้ในภาคแรก) กับลูก Sam Flynn (Garrett Hedlund) ครอบครัวที่เป็นเจ้าของเกมดังอย่าง TRON ที่ผู้เป็นพ่อคือผู้สร้างผู้ออกแบบโลกใหม่ในเกมนาม “เดอะกริด (The Grid)”

แล้ววันหนึ่งในช่วงที่แซมยังเป็นเด็ก พ่อที่เคยสัญญาจะพาเขาไปยังศูนย์เกมด้วยกัน ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ จวบจนวันที่แซมเติบโตเข้าสู่วัย 27 เขาก็ยังไม่พร้อมจะรับสืบทอด แต่เขากลับได้พบกับโลกที่พอสร้างไว้อย่างไม่ตั้งใจนัก โลกที่เขาไม่เคยรู้ว่ามันมีจริง เคยได้สัมผัสเพียงโมเดลของแคแรคเตอร์บางตัวในเกมแค่นั้น

เต็มไปด้วยการต่อสู้ มันคือโลกที่อันตราย…

ในโลกนั้น เขาได้พบกับตัวละครที่หน้าตาเหมือนพ่อ แต่…เขาไม่ใช่พ่อ แถมไม่ได้เป็นมิตรกับเขาด้วยซ้ำ อย่างที่พ่อบอกไว้ พ่อได้สร้างอีกตัวตนหนึ่งไว้ในโลกแห่งนั้น สิ่งที่เห็น คือ ฉากของโลกดิจิตอล 3 มิติ ฉากมืดๆ ทึมๆ แต่ใส่สีสันเรืองแสงของสีฟ้า เหลือง ส้ม แดง เข้าไป กลายเป็นฉากที่ดูล้ำสมัย ประกอบเข้ากับเสียงเพลงประกอบที่เต็มไปด้วยเสียงสังเคราะห์จากฝีมือของ Daft Punk เจ้าของเพลง “One More Time” เพลงนั้นนั่นไป

จุดที่ดีที่สุดของหนังอยู่ตรงนี้นี่แหละ ฉาก CG สุดล้ำกับเพลงประกอบสุดอลังการ ประกอบเข้ากันอย่างลงตัว

หลายคน อาจจะคาดหวังว่าจะได้พบกับฉากแอ็คชั่น 3 มิติสุดเร้าใจ หนังมีให้แต่ไม่ได้มากเต็มเรื่อง บางฉาก(ในโลกจริง)ก็เป็นภาพ 2 มิติ หากคาดหวังเรื่องนั้น ท่านอาจจะออกมาอย่างผิดหวังได้ ขณะที่พล็อตเรื่องก็อาจจะไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งหรือใหม่สดมากนัก ด้วยความที่หยิบเอาหนังดังในอดีตขึ้นมาปัดฝุ่น ซึ่งสำหรับตัวผมเองก็ไม่ได้รู้สึกว่า พล็อตจะแย่อะไรมากนัก บางฉากอาจจะดูเข้าข่ายความเป็นดราม่าด้วยซ้ำ แต่อาศัยว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันที่สร้างงานภาพให้เจ๋งกว่าได้ หากคุณชื่นชอบในผลงานของ Daft Punk เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็น่าจะชื่นชอบหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยากเย็น

เหมือนอย่างผม ที่ฟังเพลงประกอบมาก่อน พอเข้าโรงไปชม พบว่า แม้การดำเนินเรื่องบางส่วนอาจจะเนือยๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงหาวง่วงแต่อย่างใด เพลิดเพลินไปกับฉากต่างๆ ทั้งในและนอกเดอะกริดจนจบเรื่องเลยเชียว

ชื่อภาพยนตร์: TRON: Legacy / ทรอน ล่าข้ามโลกอนาคต
ผู้กำกับภาพยนตร์: Joseph Kosinski
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Edward Kitsis & Adam Horowitz (screenplay), Edward Kitsis/Adam Horowitz/Brian Klugman & Lee Sternthal (story), Steven Lisberger & Bonnie MacBird (characters)
ประเภท/แนว : Sci-Fi, Fantasy, Action
นักแสดงนำ : Jeff Bridges, Garrett Hedlund, Bruce Boxleitner, Michael Sheen, Olivia Wilde, Beau Garrett, John Hurt
สตูดิโอ/ผู้สร้าง : Walts Disney Pictures
ความยาวหนัง : 127 นาที
เรท : USA – PG, ไทย ท (ทั่วไป)
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย : 23 ธันวาคม 2553