เที่ยวภูสอยดาว ตอนที่ 1 | เจอกันดอกไม้(ไฟ)

พักผ่้อนกันพอสมควรแล้วละมั้ง ห่างหายจากการอัพบล็อกไปหลายวันแล้ว หลังจากไปเยือนแดนเหนือมาหลายวัน กลับมาก็พักผ่อนจากความอ่อนล้าที่ยังไม่จางหายไปสักที จนในที่สุดก็รู้สึกว่า ยังไงก็คงรอไม่ได้แล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเขียนถึงมันเสียแล้วละครับ

คงเขียนไปเรื่อยๆ เป็นตอนๆ ขุดคุ้ยความทรงจำออกมาเป็นตัวอักษรให้ได้อ่านกัน ชอบก็บอก ไม่ชอบก็บอกนะครับ เอ้า เริ่มกันเลยละกัน….

——————————-

ปกติ กลุ่มของเพื่อนๆ สมัยเรียนมหา’ลัยของผม มักจะรวมตัวกันนัดไปเที่ยวที่โน่นที่นี่กันทุกปี ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นช่วงปลายๆ ปี อย่างช่วงวันหยุดปิยมหาราช ไม่ก็วันวันรัฐธรรมนูญ ปีนี้ ทุกอย่างมันลงตัวที่วันรัฐธรรมนูญ ความอดอยากห่างหายจากการเที่ยว ทำให้ทุกคนรอคอยวันนี้กันมาก แม้จะมีงานคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ขวางอยู่ ก็ตัดใจทำเป็นไม่สน

พฤ.06.12.2550 | 19:00 น.

ค่ำของคืนวันพฤหัสบดีที่ 6 พวกเรา 6 ใน 9 คน ปุ๊ก วอง วิ พี่ถิตย์ ส้ม และผม นัดเจอกันที่จุฬาฯ จัดการขนสัมภาระส่วนตัวมากองรวมกัน และยกเอาข้าวของที่ต้องใช้ยังชีพบนลานสนภูสอยดาวมาเก็บในรถตู้ ปุ๊กไปอีกตึกหนึ่ง เพื่อปริ๊นต์แผนที่ พวกเรากะว่าจะดูพลุดอกไม้ไฟกันก่อนจึงค่อยออกเดินทาง…

เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัว เสียงดอกไม้ไฟดังขึ้น ทุกคนหันไปมอง พลุดอกไม่ไฟลูกใหญ่ที่ถูกจุดขึ้นแถวราชกรีฑาสโมสร แต่พวกเราเห็นมันไม่ชัด เลยพากันรีบเดินข้ามสะพานลอยไปยังฝั่งหอประชุมฯ

เมื่อเดินมาถึงแถวสระน้ำ ก็พบผู้คนยืน-นั่งถ่ายภาพดอกไม้ไฟกันเพียบ งานนี้ ขอแจมเสียหน่อย แต่ดันลืมเอาขาตั้งกล้องติดมือมาเสียได้ ไม่้เป็นไร ใช้มือเปล่าๆ นี่แหละ ถ่ายเอา ผลที่ได้ก็เลยเป็นแบบนี้

ด้วยความที่ใช้มือล้วนๆ ถึงแม้จะถ่ายได้จังหวะยังไง ก็ยังพบว่า มันก็มักจะกลายเป็นเส้นที่หงิกๆ งอๆ แบบนี้ แต่ก็พบว่าบางภาพก็สวยโอเคเลยละ ดูกันไปเรื่อยๆ แล้วกัน

วิธีการถ่ายของผมก็คือ “มั่วๆ เอา” จริงๆ นะครับ ผมลองเปลี่ยนโหมดการถ่ายไปเรื่อยๆ จนพบวิธีที่ทำให้ได้ภาพดอกไม้ไฟเท่าที่มือเปล่าๆ จะทำได้ เห็นหลายคน ยกกล้องขึ้นมาถ่ายเหมือนกัน ส่วนวิ ถ่ายภาพนิ่งไม่ได้ ก็เลยถ่ายภาพเคลื่อนไหวมันซะเลย

แต่ผมยังตั้งหน้าตั้งตาถ่ายภาพนิ่งแบบมั่วๆ ของผมต่อไป…

การถ่ายดอกไม้ไฟนั้น ผมว่า มันขึ้นอยู่จังหวะนั่นเอง บางทีก็ได้ภาพดอกไม้ไฟที่กำลังชูช่อบานสะพรั่ง แต่บางที การได้ภาพดอกที่กำลังโรยราก็อาจสวยไปอีกแบบ

การถ่ายภาพดอกไม้ไฟ มีคนบอกว่า ให้ถ่ายลูกแรกๆ เพราะมันจะไม่มีควันสีขาวมาปะปน ภาพจะสวยงามกว่า

ทั้งหมดนี่ ผมไม่ได้ retouch อะไรมากมาย นอกจาก crop ในบางรูป, resize และจัดการ sharpen มันนิดหน่อยเท่านั้น…

นี่คือ การถ่ายภาพดอกไม้ไฟเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยนะครับเนี่ย เหอๆ

—————————————-

หลังจากดอกไม้ไฟลูกสุดท้ายดับลง พวกเราก็เดินเท้าไปหาข้าวกินแถวสามย่าน เติมอาหารใส่ท้องในมื้อเย็น+ค่ำ เป็นที่เรียบร้อย ก็แวะเข้าร้าน 7-eleven ก่อนจะรู้ตัวว่า ต้องเตรียมรองเท้าแตะไปด้วย รองเท้าในเซเว่นมีให้เลือกน้อยมาก แถมเบอร์ก็เล็กไปเสียอีก จึงออกมาหาซื้อจากร้านใกล้เคียง จนได้ขนาดที่พอใส่ได้ ในราคา 40 บาท…

เอาละ น่าจะได้เวลาของการออกเดินทางแล้วละมั้ง

ทุกคนเดินกลับมาที่รถตู้ นั่งกันให้เรียบร้อย ก่อนที่รถตู้ของพี่เวียงจะเคลื่อนตัวออก และมุ่งหน้าจากจุฬาฯ ไปเกษตรฯ เพื่อรับอีก 3 คน ตรี เปิ้ล และบัง

—————————————-

22:00 น.

หลังจากเปิดดูแผนที่เพื่อนัดแนะเส้นทางกับพี่เวียง ประมาณสี่ทุ่ม พวกเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าขึ้นเหนือ หลายคนพยายามเก็บเกี่ยวช่วงเวลาพักผ่อนกันเต็มที่ แต่ผมซึ่งมีปัญหากับการนอนบนรถกลับได้นอนน้อยมากๆ น่าอิจฉาเพื่อนๆ จริงๆ

—————————————-

(ติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ)

Exit mobile version