เที่ยวภูสอยดาว ตอนที่ 2 | น้ำตกภูสอยดาว

ศ.07.12.2550 | ประมาณ 05.00 น.

เข้าสู่วันใหม่ในรถตู้ของพี่เวียง ซึ่งขับรถผ่านหลายจังหวัดมาจนถึงตลาดแห่งหนึ่งใน อ.ชาติตระการ ใน จ.พิษณุโลก พวกเราแวะเพื่อซื้อของสดไปทำเป็นอาหารบนภู เสร็จแล้วจึงออกเดินทางต่อ มุ่งหน้าสู่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ที่อยู่แถวรอยต่อของจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดอุตรดิตถ์


ทางที่คดเคี้ยวและลาดชันสร้างความลำบากให้กับพี่เวียงไม่น้อย แต่ก็พาพวกเราผ่านหมู่บ้านต่างๆ มากมายมาจนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เราเลี้ยวเข้าไปอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ผลปรากฏว่า ต้องกลับออกมา เพราะไม่ใช่ที่ที่เราจะใช้ขึ้นภู

08.00 น.

เพียงกิโลเมตรเศษ เรามาถึงที่ Visitor Center หรือ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จนได้

ที่นี่ พวกเราต้องชั่งน้ำหนักสัมภาระทั้งหมดที่จะให้ลูกหาบแบกขึ้นไปบนลานสนสามใบ ซึ่งพบว่า ของทั้งหมดหนักถึง 168 กิโลกรัม..

เมื่อคิดเป็นเงินแ้ล้ว กิโลกรัมละ 15 บาท เป็นเงินถึง 2,520 บาท!

เล่นเอาพี่เวียงบ่นเลย ว่าค่าลูกหาบแพงกว่าค่าจ้างขับรถของแกเสียอีก เอาน่า กินให้หมดก็แล้วกันที่ซื้อๆ กันมาเนี่ย เวลาลงจะได้แบกกลับน้อย เสียตังค์น้อยๆ หน่อย

ที่นี่มีห้องน้ำสะอาดๆ ไว้ให้พวกเรา อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน และหนัก-เบากันได้ตามอัธยาศัย น้ำเย็นเจี๊ยบเพราะเป็นหน้าหนาว เป็นการเตือนกันไว้เนิ่นๆ ว่า ขึ้นไปบนโน้น เอ็งหนาวแน่ๆ

พวกเราเดินลงไปกินข้าวเช้ากันตรงร้านข้างล่าง ที่อยู่ในอ้อมกอดของโค้งรูปตัวยู ในนี้มีร้านข้าวอยู่ 3 ร้าน เมื่อถึงเวลาตักข้าวใส่ปาก เสียงคุยก็เงียบลงทันที ช่วงเวลานี้ ข้าวและกับที่แสนเอร็ออร่อยก็ถูกป้อนลงสู่ปากอย่างต่อเนื่อง ตุนเป็นพลังงานเอาไว้ใช้เดินขึ้นภู พร้อมสั่งข้าวใส่ถุงเอาไว้กินกลางทางด้วย ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียว


09.23 น.

พวกเรา 9 สหายพร้อมเดินทางขึ้นสู่ลานสนกันแล้ว บางคนเดินตัวเปล่า หอบหิ้วเพียงถุงข้าวกลางวัน และน้ำเปล่า แต่ผมนี่ แบกกล้อง, ขาตั้งกล้องและน้ำเปล่าแทน ส่วนข้าวถุง ฝากให้พี่ถิตย์ช่วยเป็นลูกหาบให้ชั่วคราว

น้ำตกภูสอยดาว คือ ด่านแรกที่เราจะได้พบ เป็นเส้นทางที่สบายๆ เสียงน้ำไหลผ่านโขดหิน บรรยากาศเย็นๆ ชื้นๆ พาให้เราตายใจ ว่าไม่หนักหนาสาหัสนัก (แต่ที่ไหนได้ เหอๆ)

น้ำตกนี้ มีไหลทั้งปี แต่หน้าฝนจะมากหน่อย จนน้ำเป็นสีโคลนเลยเชียวละ ขณะที่หน้าหนาว น้ำใสเย็นเจี๊ยบ ตัวน้ำตกไม่สูงชัน อาจไม่สวยงามอะไรนัก แต่พอประกอบเข้ากับป่า พาให้เพลินใจยิ่งนัก

ในช่วงนี้ พวกเรายังมีความสุขกับการเดินป่าสลับการถ่ายรูปอยู่

ตามทางเดิน จะมีป้ายบอกระยะทางที่เหลือไว้ให้ บางคนว่า เป็นป้ายตัดกำลังใจ แต่ผมว่า เป็นป้ายให้กำลังใจเสียมากกว่า ยิ่งตัวเลขลดลงเท่าไร ก็แสดงว่า ยิ่งใกล้จุดหมายไปเท่านั้น ป้ายแรกที่เราเจอ คือ

“ลานสนภูสอยดาว 6.5 กม. “

นอกจาก เราจะได้ผจญภัยในป่าและน้ำตกกันแล้ว เรายังต้องผจญกับป้ายหลอก ที่พาเราวกเวียนขึ้นๆ ลงๆ และต้องเดินในระยะทางที่ไกลขึ้น ตกลงที่ให้เราไป มันคือทางอ้อม ไม่ใช่ทางลัดใช่ไหมครับนั่น?

ทางเดินที่ไม่ลาดชันมากนัก ประกอบกับบรรยากาศรอบข้างที่แสนดี ทำให้เราเดินอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ผ่าน 1 กิโลเมตรแรกไปได้อย่างไม่รู้ตัว

ก่อนจะพบกับหนทางอันแสนสาหัสที่รออยู่เบื้องหน้า…


(โปรดติดตามต่อไปนะจ๊ะ)

Exit mobile version