เวลาผ่านมานานหลายเดือนแล้ว การออกไปเปิดหูเปิดตานอกกรุงเพิ่งจะเริ่มได้อีกครั้ง การอดอู้อยู่แต่ในเมืองใหญ่ทำให้ความเครียดเพิ่มสูง แต่นี่ไม่ใช่ทริปใหญ่ที่จะทำอะไรได้มากนัก แต่ก็ดีกว่าจะอยู่ในที่เดิมๆ วันนี้ เลยลองเดินทางสู่ที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยไป (ไม่น่าเชื่อนะ) ขับรถไปกันเอง ไม่มีเวลาหาข้อมูลมาก เอาเท่าที่หาได้ ใช้เท่าที่มี จุดมุ่งหมายครั้งนี้คือ “กาญจนบุรี”
และถ้าคุณอยากอ่าน อ่านหน้านี้ ผมจะเล่าให้อ่านกันครับ
เริ่มต้นด้วยการตื่นนอนตอนสายโด่งเพราะนอนดึก ซึ่งแน่นอนว่า ไม่ต้องทำอะไรมากนอกดื่มกาแฟแล้วไปอาบน้ำ เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทาง มีเพียงไอแพดก็เพียงพอแล้วที่จะไปที่ไหนสักแห่งในประเทศนี้
ออกเดินทางกันตอนพระอาทิตย์ส่องแดดที่เริ่มแรงมาให้แล้ว ผ่านถนนราชวิถี ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนเข้าสู่ถนนบรมราชชนนี แล้วก็ถนนเพชรเกษม แวะพักบ้าง เติมน้ำมัน เติมแก๊ส เข้าห้องน้ำตามประสา กว่าจะเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรีก็ล่วงมาถึงบ่ายโมง
สิ่งที่เราทำได้ก่อนเลยก็คือ การเช็คอินเข้าที่พัก ซึ่งก็มีไว้เพียง “พัก” เท่านั้น
พักผ่อนได้ไม่กี่อึดใจ ความหิวที่เกาะกุมอยู่นานแล้วก็ผลักดันให้ก้าวออกไปหาอะไรทาน (ซึ่งจะรวมไว้เขียนในบนหน้า) ที่ ร้านคีรีธารา ร้านอยู่ริมแม่น้ำไม่ไกลจากที่พักเท่าใดนัก ที่นั่นเราได้นั่งมองดูสายน้ำและสะพานอย่างกึ่งใกล้กึ่งไกล ก่อนที่เมฆฝนและลมจะพัดผ่านมา
ยังไม่เห็นทีท่าว่าฝนจะตก เห็นแต่ลมที่พัดแรง เราจึงไปหาขนมทานกันก่อน ผ่านถนนแสงชูโตเข้าเมืองไปจอดอยู่หน้า ร้านอบอุ่นเฮ้าส์ ร้านสวยๆ ที่ได้มาเยือนแล้วประทับใจ
เย็นย่ำแล้ว อาจยังพอมีเวลาเหลือนิดหน่อย จึงกลับไปที่สะพานข้ามแม่น้ำแควอีกครั้ง ตอนเย็นคนจะเยอะกว่าตอนบ่ายพอสมควร ทั้งนี้ก็เพราะไร้แดดนั่นเอง
เดินจากฝั่งหนึ่ง ไปยังอีกฝั่ง ยิ่งเดินไกลไป คนยิ่งน้อยลงจนพอจะถ่ายอะไรที่ไม่มีคนได้บ้าง
การอยู่บนสะพานและต้องถ่ายสะพาน บางทีอาจจะไม่ค่อยเห็นสะพานเท่าไหร่ เราจึงลงไปที่โป๊ะข้างล่าง เห็นคนมาตกปลากันอยู่กลุ่มหนึ่ง แสงใกล้หมดแล้ว จึงรีบเก็บภาพและกลับออกมา
นี่คือครั้งแรก ที่ได้มาเยือนสะพานประวัติศาสตร์แห่งนี้
วันแรกของการมาเยือนเมืองกาญจน์ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่ ฟ้าฝนไม่เป็นใจไปบ้าง แต่พรุ่งนี้ยังมี
แล้วเราจะมาเจอกันในบทถัดๆ ไป ^ ^
———————————————–
[กาญจนบุรี (1) | สะพานข้ามแม่น้ำแคว] [กาญจนบุรี (3) | ถ้ำกระแซ น้ำตกไทรโยคน้อย ต้นจามจุรียักษ์ วัดถ้ำเสือ]
