รีวิว Maze Runner The Scorch Trials | สมรภูมิมอดไหม้ คำถามที่ยังไม่ได้ตอบ

ภาคแรกทำเอาไว้ได้น่าสนใจ ‘The Maze Runner’ เสียงตอบรับออกมาค่อนข้างดี มีผู้คนทั้งที่เป็นแฟนหนังสือและไม่ใช่ให้ความสนใจกันล้มหลาม จนหนังสร้างรายได้เกินคาดในไทย หลังจากผ่านไป 1 ปีเต็ม ภาคที่สองก็กลับมาสู่จอภาพยนตร์ในบ้านเราอีกครั้ง ในชื่อยาวๆ อย่าง ‘Maze Runner The Scorch Trials’ หนังจากหนังสือดังอีกเรื่องที่กำลังไปได้ดีในรูปแบบภาพยนตร์

ในภาคแรกนั้น เราได้พบกับการฝ่าฟันของเด็กกลุ่มหนึ่งที่ติดอยู่ในเขาวงกตและพยายามจะหาหนทางออกอยู่นาน จนมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่ง และนำพาพลพรรคาบางส่วนออกมาได้ในที่สุด ก่อนจะได้พบว่าเรื่องเซอร์ไพรส์ของโลกภายนอกที่พวกเขาเฝ้าค้นหาทางออกมาเจอเสียนาน มันไม่ได้น่าอภิรมย์ที่พวกเขาคิด หรืออย่างน้อยพวกเขาก็อาจไม่ได้คิด

แต่ไม่ได้คาดว่าจะเจอกับสิ่งเหล่านั้นอยู่ดี

เรื่องย่อ ของ ‘Maze Runner The Scorch Trials’

ดูเหมือน โทมัส (Dylan O’Brien) เด็กหนุ่มที่พาเพื่อนรอดมาจากวงกตมฤตยูในภาคแรก จะยังจำอะไรไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งนั่นก็ทำให้คนดูที่ยังไม่รู้เรื่องทั้งหมดยังคงงุนงงสงสัยกับเงื่อนงำที่ถูกเปิดเผยขึ้นมาเพิ่มเติมแต่ก็ยังไม่ทั้งหมด

เขาออกมาก็เพื่อพบว่า ยังมีที่อื่นๆ ที่เขามองว่ามันอันตรายและพร้อมจะชิ่งหนีออกไปให้ไกลที่สุด เพื่อตามหาดินแดนที่ช่วยคุ้มครองเขากับเพื่อน กับชมกลุ่มที่ได้ยินข่าวว่าพร้อมจะดูแลคนอย่างพวกเขา โทมัส กับกลุ่มเพื่อน ทั้ง มินโฮ (Ki Hong Lee), เทเรซา (Kaya Scodelario), นิวท์ (Thomas Brodie-Sangster) ร้วมวินสตัน, ฟรายแพน และเพื่อนใหม่ อาริส (Jacob Lofland) ออกตามหาดินแห่งนั้นพร้อมๆ กันไปกับการหลบหนีการตามล่าของพวกวิคเก็ด (WCKD) ที่อ้างเสมอว่า กำลังทดลองเพื่อสร้างยาต้านไวรัสที่กำลังระบาดและกวาดล้างมนุษยชาติอยู่ในตอนนี้

ในครั้งนี้ พวกเขาได้พบกลุ่มคนกลุ่มใหม่ๆ ที่พร้อมจะฝ่าฟันไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทั้ง ฮอร์เฮ และเบรนดา (Rosa Salazar) ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งการตามไรท์อาร์ม แม้ว่าโทมัสเองจะไม่เคยมีอะไรในหัวว่าจะต้องทำอะไรหรือมีแผนยังไงในหัวเลยก็ตาม

วิจารณ์หนัง รีวิวหนัง ‘เมซ รันเนอร์ สมรภูมิมอดไหม้’

หนังเริ่มต้นด้วยจุดที่ต่อกับภาคที่แล้วแบบผิวๆ แต่ก็พอให้หลายคนที่เริ่มลืมเลือนภาคก่อนได้มีเวลาทบทวนบ้าง ก่อนจะเข้าเรื่องทันทีด้วยภาพของการเดินทางไปยังดินแดนแห่งใหม่ที่มีแต่ความไม่ชอบมาพากล หลายคนถูกเรียกตัวไปทุกวันและไม่เคยได้กลับมา ความสงสัยทวีเพิ่มขึ้นมาอีกเมื่อตัวเอกได้พบกับข้อมูลใหม่จากเพื่อนคนใหม่ เขาได้พบเห็นการทดลองที่ทำให้รู้บางอย่างอย่างครึ่งๆ กลางๆ

สิ่งที่เขารู้ทำให้เขารู้สึกเหมือนตกอยู่ในอันตราย สิ่งที่สัญชาตญาณบอกคือให้เขาหนีไปให้ไกลที่สุดแม้ไม่รู้ว่าข้างนอกจะมีอะไร ความหวังที่รอคอยหานั้นจะมีอยู่จริงหรือไม่ ความรู้สึกระหว่างดูหนังคือ มันเป็นการค้นหา พบเจอสัญญาณ แล้วก็วิ่งหนีไป ทำในสิ่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก

เรื่องราวจึงเดินไปในแบบลุ้นตื่นเต้นแล้วพักหายใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นวิ่งและลุ้นต่อ

โดยรวม มันอาจจะไม่อลังการหรือแปลกใหม่ อาจจะไม่มีอะไรว้าวมากนอกเหนือไปจากฉากของเมืองที่คุ้นเคยแต่รกร้างว่างเปล่าและเต็มไปด้วยฝุ่นทราย แต่ด้วยลักษณะของเรื่องในแบบแอ็คชั่นเกือบจะนันสต๊อป ทำให้หนังดูสนุกไปแทบจะตลอดเรื่อง

ตัวละครหลักต้องทำภารกิจทั้งวิ่งหนีฝ่ายวิคเค็ดที่ตามล่าตัวพวกเขา ต้องวิ่งหนีหรือฆ่าพวกติดเชื้อทั้งหลาย ต้องค้นหากลุ่มคนที่เป็นความหวัง โดยมีเรื่องราวดราม่าแทรกซึมเข้ามานิดหน่อย ก่อนจะดำเนินไปถึงช่วงพีคในตอนท้าย ซึ่งก็ทำได้ดีพอสมควรทีเดียว

ก่อนที่หลังจะจบลงอย่างค้างคา พาให้อยากดูภาคต่อไปเดี๋ยวนั้นเลย

ชื่อภาพยนตร์: Maze Runner: The Scorch Trials / เมซ รันเนอร์ สมรภูมิมอดไหม้
ผู้กำกับภาพยนตร์: Wes Ball
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: T.S. Nowlin (screenplay), James Dashner (novel)
นักแสดงนำ: Dylan O’Brien, Kaya Scodelario, Thomas Brodie-Sangster, Ki Hong Lee, Jacob Lofland, Rosa Salazar, Katherine McNamara
ความยาว: 131 นาที
แนว/ประเภท: Action, Sci-Fi, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/น15+, MPAA/PG-13
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 17 กันยายน 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Gotham Group, TSG Entertainment, Temple Hill Entertainment