"เพลง" จากของซื้อของขาย กลายเป็น ของขอของแจก
คุณเคยโพสต์ข้อความขอเพลงจากใครๆ ในบอร์ดโน้นบอร์ดนี้บ้างมั้ย?
ผมเดาว่า ต้องมีคนเคยครับ มันเป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้วในสังคมไทย โดยที่จะรู้ตัวหรือไม่ก็แล้วแต่ “เพลง” คือศิลปะอย่างหนึ่ง ถูกมั้ยครับ เป็นศิลปะที่เกี่ยวพันกับเรื่องพาณิชย์กันจนแยกไม่ออก ส่วนใหญ่ คนทำเพลงออกมาก็เพื่อขายหาเลี้ยงชีพ
เพลงจึงต้องมีลิขสิทธิ์ เพลงจึงมีการซื้อขาย …
แต่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันสิ มันเกิดอะไรกันขึ้นหนอ… “ขอเพลง…หน่อยสิครับ” “อยากได้เพลง…จังเลย ใครมีบ้าง” “ช่วยหาเพลง…ให้หน่อยสิคะ” … และอีกสารพัด
หลายเว็บก็เริ่มเปิดบริการให้เข้ามาขอ มาแจกเพลงกันได้ตามสบาย เพลงออกใหม่ หรือออกนานแล้ว
อืมมม บางคนอาจจะบอกว่า “ก็..มันก็เรื่องธรรมดา”
แต่สำหรับบางคน อาจจะกำลังรู้สึกห่อเหี่ยวหัวใจ โดยเฉพาะคนทำเพลง หลายคนไม่รู้ว่า กว่าแต่ละเพลงจะเสร็จสิ้นออกมาและได้เป็นเพลงที่สมบูรณ์พอจะขายได้ ต้องผ่านกระบวนการต่างๆ มามากมาย และหลายๆ ขั้นตอนใช้เงินลงไปไม่ใช่น้อยๆ รวมเข้าต้นทุนชีวิตอย่าง ฝีมือการเล่นดนตรีที่ฝึกฝนมาหลายปี ฝีมือการแต่งเพลง ฝีมือการร้องที่ฝึกปรือมาหลายปี ต้นทุนเหล่านี้ คนอาจมองไม่เห็น แต่มูลค่ามันสูงเกินคาดเดา
การที่จะมีเพลงดีๆ ออกมาสักเพลงหนึ่ง จึงมีต้นทุนมากพอ ที่จะต้องจ่ายไปก่อนจะถูกนำมาออกจำหน่าย
แต่ปรากฏว่า ต้องมาเจอถ้อยคำ “ขอ” และ “แจก” ตามเว็บต่างๆ …
มันคงบั่นทอนกำลังใจในการทำเพลงของคนดนตรีลงไปอย่างมากมาย หลายคนหยุดทำเพลงไปแล้ว ไม่ก็เปลี่ยนไปทำเพลงที่ทำรายได้ทันทีอย่าง เพลงโฆษณา เพลงสปอต เพลงไตเติ้ล แทนแล้ว และถ้าเป็นเช่นต่อไปเรื่อยๆ ประเทศไทยก็คงจะไม่มีเพลงใหม่ๆ ออกมาให้ฟังกันอีก จนกว่าจะทนกันไม่ไหวกันไปข้างและต้องออกมาทำเพลง อุดหนุนเพลงกันใหม่นั่นแหละ
——————————-
ก็อยากจะฝากบอกกันนิดนึงนะครับว่า หลังจากโหลดๆ ขอๆ แจกๆ กันไปแล้ว หากชื่นชอบผลงานของพวกเขา ก็ช่วยๆ กันซื้อและอุดหนุนผลงานแบบถูกต้องลิขสิทธิ์กันบ้าง เพื่อเกื้อหนุนให้พวกเขายังมีเงินไปทำงานต่อได้ …
…ก่อนที่จะไม่มีเพลงไทยให้ฟัง
ให้เห็นอีกบางมุมนะครับ
1. ซื้อแผ่น MP3 พวก Vampire ซื้อไม่ได้ขอ แต่ตังค์ใครได้
2. โหลดผ่าน bit อาจไปทางเดียวกับหัวข้อนี้
3. ซื้อ MP3/WMA แบบถูกกฎหมาย
ขอเอาข้อ 3. มาคุยให้ฟังนะครับ (ว่าจะเขียนลงบล็อกอยู่..ไว้วันหลัง) สมมติว่า คุณเป็นคนเคารพลิขสิทธิ์ ซื้อเพลง mp3/wma ผ่านเว็บอย่าง Trueword/music ราคาเพลงละ 32 บาท (รวมภาษี) เล่นได้กับเครื่องที่รองรับ DRM เท่านั้น เขียนลงแผ่นได้ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ราคาต่อเพลงแพงกว่าซื้อ CD Audio แถมเล่นได้อย่างจำกัดจำเขี่ย แต่ข้อดีคือ ไม่ต้องซื้อทั้งอัลบัม ..เห็นอะไรไหม?
ไม่ได้คิดแย้งนะครับ เพียงยกให้เห็นอีกด้าน และก็รับกันตรงๆ และครับหาบางเพลงจากบิตเหมือนกัน ซื้อซีดีก็นานๆครั้งเฉพาะที่อยากได้จริงๆ
ประเด็นที่คุณ n-blue ยกมาก็เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นจริง แต่บางอย่างก็ยังเป็นแค่ข้อสันนิษฐาน ยังไม่มีใครพิสูจน์ (ข้อ 1) จริงๆ ผมไม่ได้มองไปถึงค่ายใหญ่นะครับ ผมมองไปที่ค่ายเล็กมากกว่า เพราะเงินมันวิ่งไปถึงคนทำเพลงโดยตรงมากกว่า
ข้อ 3 สำหรับเมืองไทยยังเป็นปัญหาอยู่เพราะคนขายใจคับแคบ จำกัดการใช้งานคนซื้อ แต่จะโทษแต่คนขายทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะรูปแบบอื่นๆ อย่างซีดีก็ยังมีขายอยู่ มีปกมีเครดิตมีเนื้อมาให้พร้อมสรรพ แต่ไม่ซื้อกัน
อย่างไรก็ตาม บางสิ่งที่ยกมาก็ยังคงเป็นข้ออ้างของการไม่ซื้อของจริงอยู่ดี
ผมว่า ราคาต่อเพลงที่นำ มาขาย ไม่ค่อยเหมาะสมกับประเทศเรานัก
ราคาเพลงละ 32 บาท ประมาณ1 dollar ซึ่ง ราคานี้ เท่ากับราคาที่ขายกันบน iTunes Music Store
ซึ่งอันที่จริง เค้าขายกันราคานี้ได้เพราะ ค่าครองชีพ บ้านเค้าสูงกว่าบ้านเรา
ในบ้านเรา ควรจะลดราคาลงมา กว่านี้จะได้ขายดี เหมือนใน iTunes Music Store
ไม่ใช่ข้ออ้างน๊า 😀
ของแบบนี้มันอยู่ที่สามัญสำนึกอะค่ะ
ไม่รู้คำนี้แรงไปไหม แต่ว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
สำหรับฉัน ไม่เคยโพสท์ขอเพลง
แต่ก็พร้อมจะให้เพลงที่เราแนะนำแล้วมีคนชอบในกรณีที่เพลงนั้นหายากในไทย ซึ่งถ้าเพลงที่ถูกขอมีขายในไทยแบบราคาปกติ ฉันก็จะไม่ให้นา
อย่างไรก็ตาม เพลงไทยฉันว่าไม่ควรจะมาละเมิดกันแบบนี้เลย เพราะคุณก็หาซื้อกันได้ง่ายๆนะ แต่อย่างว่าแหละคนเรามักมีข้ออ้างให้กับการกระทำของตัวเองเสมอแหละ
จริงหรอครับที่ธุรกิจเพลงจะไปไม่รอดเพราะ mp3/wma ??? ผมว่าถ้าไปไม่รอดแล้วที่ america ทำไมมันรอดละครับ??
เพราะว่าเรื่องแบบนี้ มันอยู่ที่คนเป็นคุมธุรกิจครับว่าจะมองวิกฤตเป็นโอกาสหรือจะเน้นกับอุดมการเดิมๆ ?
ทำไม Concert ถึงมีคนไปมากขึ้น ??
ทำไมเครื่องประดับของนักร้องมีคนซื้อมากขึ้น ??
ฯลฯ
ยังมีอีกมุมที่ดีอยู่นะครับ 🙂 เพราะมันช่วยประชาสัมพันธุ์แล้วทำให้คนรู้จักได้อย่างรวดเร็วดู Retrospect เป็นตัวอย่างครับ
ขอตอบประเด็นเดียวนะครับ ธุรกิจเพลงไม่ได้ไปไม่รอดเพราะ mp3 ครับ แต่ไปไม่รอดเพราะคนต่างหาก
หลายประเด็นกำลังถูกแยกย่อย เอาไว้วันหลัง ผมจะมาเขียนมุมมองของผมเพิ่มเติมนะครับ
ผมไม่เึคยคิดว่า “เพลง” หรือผลงานจากศิลปินนี่เป็นของซื้อของขายเลยครับ ส่วนเรื่องการซื้อ mp3 ที่ถูกต้องจากศิลปินนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราเสียตังค์ไปเพื่อค่าไฟล์ราคาเท่านั้นเท่านี้ แต่หมายความเราได้สนับสนุนเค้าโดยตรงที่สุดเท่านั้นเองครับ