รีวิวแอนิเมชัน

Appleseed | มนุษย์ กับ ความอยู่รอด

ทุกวันนี้ ผมรู้สึกว่า แอนิเมชันที่ฉายตามโรงเริ่มไม่มีอะไรน่าสนใจ คนทำยังคงเล่นอยู่กับอะไรเดิมๆ จากแมลง ก็เปลี่ยนเป็นปลา จากปลาก็มาเล่นกับเพนกวิน (จากนั้น ก็เพนกวินกันใหญ่ แถมบางทียังกลับมาเล่นปลาอีก) เปลี่ยนมาเล่นกับหนู แล้วก็ไปเล่นกับผึ้งอีก เนื้อหาสาระมีประเด็นเดียว เพราะเน้นให้เด็กดู สีสันสดใส แต่นั่นล่ะ ผมก็เลยเริ่มหมดความสนใจไปทุกที วันนี้ ก็เลยหยิบอะนิเมะมาดูดีกว่า ‘Appleseed’

Appleseed
Appleseed

นี่คืออะนิเมะจากญี่ปุ่น เรื่องราวที่ค่อนข้างซับซ้อน มีปมขัดแย้งหลายปม และแฝงไว้ด้วยปรัชญา นี่คือจุดเด่นของอะนิเมะ ซึ่งต่างจากแอนิเมชั่นฝั่งฮอลลีหวูดและยุโรปอย่างชัดเจน สำหรับของคนไทย ก็เชื่อว่า ไม่ต่างอะไรกับฝั่งฮอลลีหวูดและยุโรป เน้นทำให้เด็กดูเหมือนกัน

‘Appleseed’ ก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับโลกในอนาคต หลังเกิดสงครามล้างโลก เหลือดินแดนสุดท้ายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นดินแดนที่สงบสุข เรียกกันว่ายูโทเปีย (Utopia) ของมนุษยชาติเลยทีเดียว แต่ประชากรของที่นี่ ไม่ได้มีแต่มนุษย์เท่านั้น แต่ประชากรอีกครึ่ง เป็นไบโอรอยด์ (Bioroid) ที่เรียกว่าตัวเองเป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่มีวิวัฒนาการสูงกว่า ไบโอรอยด์ ที่เป็นมนุษย์ที่เกิดจากยีนของมนุษย์กับเครื่องจักรผสมกัน เป็นพวกที่ไม่มีอารมณ์ และความรู้สึกทางเพศ

…สืบพันธุ์ไม่ได้

แต่ความขัดแย้งย่อมเกิดขึ้น ฝ่ายทหารเป็นมนุษย์ที่ไม่ไว้วางใจในไบโอรอยด์ และไม่ยินยอมอย่างยิ่งที่จะให้ไบโอรอยด์มีอำนาจปกครองตน ขณะที่ฝ่ายบริหารเป็นไบโอรอยด์ ที่หวังจะรักษาสมดุลของยูโทเปียเอาไว้ให้ได้ พวกเขาคิดค้นระบบรักษาสมดุล มีศูนย์กลางอยู่ที่ตึกทาร์ทารัส และไดดาลัส ที่นั่นมี “ไกอะ” กลไกอัจฉริยะที่คอยถกเถียงกับผู้เฒ่าทั้งหก เพื่อการตัดสินใจสำคัญๆ ต่อนครโอลิมปัส (Olympus)

ไบโอรอยด์ทั้งหลายจำเป็นต้องเข้าไปรับดีเอ็นเอเพื่อฟื้นฟูตัวเองเป็นระยะ เพื่อไม่ให้แก่ตายไปก่อนอายุขัยที่ควรจะเป็น และพวกเขาก็กำลังเพาะพันธุ์ไบโอรอยด์รุ่นที่สามขึ้นมา ยังความไม่พอใจกับนายพลยูรานัส ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพโอลิมปัส

ความขัดแย้งระหว่างมนุษย์ และไบโอรอยด์ ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อเกิดการโจมตี D-Tank ที่ที่สร้างไบโอรอยด์รุ่นใหม่ ซึ่งได้ทำลายดีเอ็นเอสำหรับการยืดชีวิตไปด้วย

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไบโอรอยด์คิดจะเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองสามารถสืบพันธุ์ได้…


ข้อมูลเพิ่มเติม

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน

6 คอมเมนต์

  1. “เรื่องราวที่ค่อนข้างซับซ้อน มีปมขัดแย้งหลายปม และแฝงไว้ด้วยปรัชญา นี่คือจุดเด่นของอะนิเมะ ซึ่งต่างจากแอนิเมชั่นฝั่งฮอลลีหวูดและยุโรปอย่างชัดเจน สำหรับของคนไทย ก็เชื่อว่า ไม่ต่างอะไรกับฝั่งฮอลลีหวูดและยุโรป เน้นทำให้เด็กดูเหมือนกัน ” เหตุนี้แหละที่ทำให้ผมรัก Anime มากกว่า Animation จาก Hollywood

  2. อืม… ปกติผมก็ไม่ชอบดูแอนิเมชั่นของฝั่งฮอลีหวูดเสียด้วยสิ สงสัยจะเลยวัยเด็กมาแล้วมั้ง ชอบไอ้ที่คนเล่นจริงๆมากกว่า

    ถ้าเป็นแนวบู๊ๆวิทยาศาสตร์ (Action Sci-fi) เทือกนั้นจะพอดูได้ จินตนาการบรรเจิดดี

    Anime ของฝั่งเอเชียเรา ผมก็ไม่ค่อยได้ดู เพราะมันหาดูยากไปนิด แหะๆ

Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ