รีวิวหนัง Jujutsu Kaisen Zero | มหาเวทย์ผนึกมาร..ซีโร่!

แอนิเมชันจากญี่ปุ่นเป็นอะไรที่ผมไม่ค่อยได้หยิบมาเขียนถึงสักเท่าไหร่ จนคิดว่า ควรจะหยิบมาเขียนบ้าง ทำให้วันนี้ ผมพาตัวเองออกไปดูหนังอะนิเมะอย่าง ‘Jujutsu Kaisen Zero’ หรือชื่อไทย ‘มหาเวทย์ผนึกมาร: ซีโร่’ ในโรงภาพยนตร์ หนังที่สร้างมาจากมังงะเลื่องชื่อที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Shonen JUMP รายสัปดาห์ เคยกลายเป็นซีรีส์ แต่เวอร์ชันหนังมันดีตรงที่มันได้ดูในโรง ภาพใหญ่ ดนตรีกระหึ่ม นี่แหละอรรถรสของการดูหนังในโรงเลยล่ะ

ปฐมบทของ ‘มหาเวทย์ผนึกมาร’ มังงะผลงานของอาจารย์ Gege Akutami ที่มียอดขายกว่า 60 ล้านเล่ม เรื่องราวของความรักและคำสาป ที่เคยเป็นอะนิมะซีรีส์ที่ได้รับความนิยม [ซึ่งแน่นอน เวอร์ชันนั้นผมไม่ได้ดู โผล่มาก็ดูเวอร์ชันภาพยนตร์กันเลยทีเดียว] ก่อนจะกลายเป็นภาพยนตร์ที่กำกับโดยชาวเกาหลีอย่าง Park Seong Hu นั่นแหละครับผม

เรื่องย่อหนังแอนิเมชัน ‘Jujutsu Kaisen Zero’

จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนั้น มันมาจาก อคคทสึ ยูตะ (พากย์ญี่ปุ่นโดย Megumi Ogata) เด็กหนุ่มผู้ต้องคำสาป หลังจาก โอริโมโตะ ริกะ (พากย์ญี่ปุ่นโดย Kana Hanazawa,​ พากย์ไทยโดย กรณิศ เล้าสุบินประเสริฐ) เด็กสาวที่คบกันตายไปเพราะอุบัติเหตุ วิญญาณของริกะก็ผูกติดอยู่กับตัวเขาเรื่อยมา เธอจะมาในร่างของวิญญาณคำสาปที่จะคอยปกป้องยูตะในยามมีอันตราย แต่ตัวยูตะเองก็ไม่อาจควบคุมพฤติกรรมรุนแรงของเธอได้

ทั้งยูตะเองก็ต้องการจะถอนคำสาปให้กับริกะได้ในสักวัน

แล้ววันหนึ่ง ยูตะก็ได้กลายมาเป็นนักเรียนในโรงเรียนไสยเวทโดยการชี้นำของอาจารย์โกโจ (พากย์ญี่ปุ่นโดย Yuichi Nakamura) จุดประสงค์สำคัญก็เพื่อเรียนรู้ที่จะถอนคำสาปโดยไม่ให้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องได้รับอันตราย

หลังเก็บตัวมานาน การมาอยู่ที่นี่ก็ทำให้ยูตะได้พบกับเพื่อนใหม่ ไม่ว่าจะเป็น เซนอิง มาคิ (พากย์ญี่ปุ่นโดย Mikako Komatsu), อินุมากิ โทเงะ (พากย์ญี่ปุ่นโดย Koki Uchiyama, พากย์ไทยโดย กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) หนุ่มข้าวปั้นวาจาคำสาป, และแพนด้า (พากย์ญี่ปุ่นโดย Tomokazu Seki)

ในเรื่องนี้มีตัวร้ายอยู่นะ เขาคือ เกะโท สุงุรุ (พากย์ญี่ปุ่นโดย Takahiro Sakurai) นักสาปแช่งจอมวายร้ายที่หมายกำจัดผู้ไร้วิชาให้สิ้นซากและสร้างโลกที่มีแต่ผู้ใช้คุณไสย หลังก่อเหตุสังหารผู้คนอย่างโหดเหี้ยม เขาก็ถูกขับออกจากโรงเรียนไสยเวท และต่อมา เขาก็วางแผนสังหารโหดแบบวงกว้างโดยใช้เหล่าวิญญาณคำสาป หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “ขบวนแห่ราตรีร้อยอสูร” นั่นเอง

รีวิวหนังแอนิเมชัน ‘มหาเวทย์ผนึกมาร: ซีโร่’

แม้ว่านี่จะเป็นอะนิเมะที่กำกับโดยคนเกาหลี แต่ทีมงาน คนเขียนบท ก็ยังเป็นคนญี่ปุ่นอยู่ อาจมีบ้างที่การเล่าเรื่องอาจดูแตกต่างไป แต่โดยรวม มันก็ยังมีความเป็นแอนิเมชันญี่ปุ่นในแบบที่คุ้นเคย

เพียงการลำดับเรื่องอาจจะชวนสับสนและสงสัยไปบ้างสำหรับคนที่เพิ่งมาใหม่ จุดที่น่าสนใจ ก็คือ การเล่าเรื่องสลับกันไปมาระหว่างปัจจุบันที่ยูตะเข้าโรงเรียนไสยเวทแล้วต้องมาเจอเพื่อนใหม่ กับช่วงเวลาวันเก่าที่บอกเล่าที่มาของความรักของริกะกับยูตะ ก่อนจะเริ่มเฉลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำให้ริกะจึงกลายเป็นแบบนั้น จากนั้น เรื่องราวก็เดินไปแบบเส้นตรงมากขึ้น

จุดที่ผมว่าน่าสนใจสำหรับแอนิเมชันเรื่องนี้ก็คงจะเป็นพาร์ทแอคชันที่ทำภาพได้เท่ดี ผสมผสานกับเพลงและดนตรีประกอบที่ชวนให้ตื่นตา ในฐานะของคนที่ไม่ค่อยได้เสพอะนิเมะแนวนี้บ่อยๆ ถือว่า โอเคเลยแหละ

เป็นการเปิดตัวเองไปสู่โลกของมหาเวทย์ผนึกมารจริงๆ เพราะก่อนเข้าไปดูก็ได้อ่านเรื่องย่อและดูตัวอย่างมาบ้างนิดหน่อย แต่พอได้พบของจริง ก็รู้ได้ทันทีเลยว่า ที่เตรียมตัวมานั้นน่าจะยังไม่มากพอ เมื่อเจอกับของจริง เรื่องราวมันค่อนข้างมีรายละเอียดพอสมควรเลย จนกลายเป็นว่า ตามไม่ทันในหลายจุด

อย่างเช่น อินุมากิ โทเงะ หนุ่มข้าวปั้นวาจาคำสาปเนี่ย เขาเป็นคนที่ไม่พูดจาแบบคนทั่วไป จะตอบอะไรใช้ชื่ออาหารอย่าง แซลมอน ปลาตากแห้ง อะไรงิ เป็นคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นดี แต่ถ้าเพิ่งมาเจอก็อาจตามไม่ทันได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ รอบที่ดูเป็นรอบซับไทย ซึ่งก็พบว่ามีอะไรให้ต้องอ่านอยู่มากมาย บางทีก็ต้องอ่านข้อความที่อยู่ในภาพ ระหว่างนั้นตัวละครก็พูดไปด้วย ทำให้เกิดอาการอ่านไม่ทันอยู่หลายหน ประกอบกับซับไทยที่ใช้คำได้ดีแต่ค่อนข้างยาว นี่ก็เป็นอีกสาเหตุให้อ่านไม่ทันได้เช่นกัน

น่าสนใจอยู่ไม่น้อยที่ได้ชมแอนิเมชันญี่ปุ่นในโรงที่จอใหญ่แบบ IMAX แม้มันจะขึ้นไม่เต็มขนาดจอก็ตามที แต่เสียงมันก็กระหึ่มดี ชวนให้สนุกกับเรื่องราว นี่ก็คิดว่า ถ้าเป็นแฟนของมังงะหรือเคยดูอะนิเมะซีรีส์มาก่อนก็คงจะตามทันมากกว่านี้อีกหลายจุด และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะลองดูรอบพากย์ไทยอีกสักที

อ่อ หนังเรื่องมีฉากแถมตอนท้ายสุดด้วยนะครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง