รีวิวหนัง Avatar อวตาร | อลังการ มันช่างสุดยอดจริงๆ

อลังการงานสร้างจาก James Cameron ที่ตะลึงตาด้วยภาพ 3 มิติตะลึงตา

ใจจดใจจ่อรอคอยการเข้าโรงมาให้ตีตี๋วดูมาตั้งนาน เมื่อถึงวันที่เข้าโรงแล้วก็ต้องรออีกวันหนึ่ง เรียกได้ว่า แทบจะอดใจรอไม่ไหว หลังจากซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าถึงสองวัน ในที่สุด วันนี้ ก็ออกจากบ้านไปยังสยามพารากอน รับตั๋วแล้วเข้าไปดูหนังฟอร์มยักษ์ที่รอคอย ณ โรง Krungsri IMAX เสียที จะเรื่องอะไรซะอีก ก็ ‘Avatar’ ชื่อไทยก็ ‘อวตาร’ นั่นไง

ภาพจากหนัง ‘อวตาร’ ของ เจมส์ คาเมรอน

คนอย่าง James Cameron กลับมาทำหนังใหญ่ทั้งที ต้องฟอร์มยักษ์เท่านั้น และทุกครั้งที่กลับมาก็มักสร้างปรากฏการณ์เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ห่างหายจากวงการภาพยนตร์ไปทำจอแก้วอยู่พักใหญ่ เพื่อรอเวลาให้ทุกอย่างพร้อมสำหรับโปรเจ็กต์ใหม่ จึงกลับมาและใช้เวลาถึง 4 ปี ปลุกปั้นจนได้ที่ และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อได้รับความสนใจเป็นอย่างมากทีเดียว

เดินเท้าก้าวเข้าไปในโรงไอแม็กซ์ เมื่อ 20.30 น. ของคืนที่ผ่านมา คนเต็มโรงอย่างไม่ต้องสงสัย นี่คือ ภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องแรกในชีวิตที่ผมได้ดูในโรงใหญ่แห่งนี้ ด้วยราคาตั๋วระดับที่เรียกได้ว่าแพง ผมจึงเก็บมันไว้กับหนังที่สุดยอดเท่านั้น


รีวิวหนัง ‘Avatar’

‘อวตาร’ เป็นโปรเจกต์ที่ผุดขึ้นมาในหัว James Cameron ตั้งแต่ก่อนจะสร้างภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอย่าง ‘Titanic’ เสียอีก แต่ด้วยเทคโนโลยีการสร้างเทคนิคพิเศษของหนัง และโรงฉายในสมัยนั้นยังไม่รองรับเพียงพอ แกจึงรอและสร้างเทคโนโลยีการถ่ายหนังรูปแบบใหม่ขึ้นมาเอง ซึ่งมันคงจะปฏิวัติวงการภาพยนตร์ไปตลอดกาล

ตัวอย่างหนัง ‘อวตาร’

บนจอใหญ่ยักษ์ ไม่มีโฆษณาหรือตัวอย่างหนังใดๆ ให้ชมในขณะที่ผมเดินเข้าไป มันอาจมีแต่คงไม่กี่ตัวเท่านั้น ผมเดินเข้าไปถูกเวลาจริงๆ เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีสิ้นสุดเสียงลง ผมนั่งลงแล้วใส่แว่น 3 มิติ และพบกับ Avatar ภาพยนตร์ที่ผมรอคอยในทันที แต่อนิจจา…

Subtitile หายไปไหนฟะ!

ช่วงต้นเรื่องภาพและเสียงที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ไม่ได้มาพร้อม Subtitle เล่นงงกันเป็นแถบ ผ่านไปสัก 2 นาทีเศษ ซับก็มา และก็พบว่า ซับจางตามเคย

คงต้องบอกว่า ไม่ผิดหวังเลย ที่การรอคอยที่เนิ่นนานหลายเดือน ได้รับผลตอบแทนอย่างคุ้มค่า เทคนิคด้านภาพที่สุดยอดมากกว่าเรื่องใดๆ ที่เคยพบมา มันดูสมจริงว่าภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นจากการใช้คนแสดง (แต่ไม่เห็นคนในหนัง) อย่าง ‘Polar Express’ หรือ ‘Beowolf’ ภาพของฉากก็ดูสมจริงไม่แพ้กัน แถมป่าของแพนดอร่าสวยสด ดูไปก็ยิ้มไป ประสบการณ์นี้คงหามิได้จากหนังเรื่องไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มันเป็น 3 มิติ”

โปสเตอร์หนัง ‘Avatar’
credit: IMDb

เจค ซัลลี่ (Sam Worthington) นาวิกโยธินผู้พิการขา ได้รับมอบหมายภารกิจในโปรเจ็กต์ “อวตาร” แทนพี่ชายฝาแฝดที่เสียชีวิตไป บนแพนดอร่า ดาวเคราะห์ดวงที่อยู่ในจินตนาการบรรเจิดของคาเมรอน ภารกิจของเขาคือ การแฝงตัวเข้าไปอยู่หมู่มนุษย์ผู้มีเนื้อตัวสีฟ้าชนเผ่า “นาวี” เพื่อเรียนรู้ทุกอย่างและผลักดันให้เขาออกไปจากพื้นที่ เพื่ออะไรน่ะเหรอ?

เพื่อแร่ชนิดหนึ่งและผลประโยชน์มหาศาล ที่มนุษย์ผู้มีเนื้อตัวสีน้ำตาลอย่างพวกเราจะได้รับยังไงล่ะ

เจค ต้องเข้าไปในป่าบนดาวแพนดอร่า ด้วยการเชื่อมต่อกับร่าง Avatar ของชาวนาวี เข้าไปอาศัยอยู่ในป่าเขียวขจีในเวลากลางวัน แต่งดงามสุดๆ ในเวลากลางคืน ป่าที่งดงามแต่มีอันตรายแฝงอยู่ คาเมรอนให้เวลาเราทำความรู้จักกับป่าอย่างเนิ่นนาน พอๆ กับทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของความสัมพันธ์ของเจคกับเนย์ทิรี่ (Zoe Saldana) ลูกสาวหัวหน้าเผ่า นอกจากนี้ ความยาวของหนังที่ยาวถึง 165 นาที ยังทำให้เล่าเรื่องในจุดที่จะทำให้คนดูได้เต็มอิ่มกับทุกฉากที่เขาขนมาให้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งฉากต่อสู้เอาตัวรอดของเจค ฉากเรียนรู้ความเป็นชาวนาวี แต่ฉากอย่างว่า กลับน้อยไปนิด (อิอิ)

บทหนังถือว่าทำได้ดี ทำให้เราได้เห็นแง่มุมที่เป็นจริงของมนุษย์ (ซึ่งก็คงรู้กันว่า เป็นชนชาติใด) ผู้บุกรุกยึดครองดินแดนของชนชาติอื่น อ้างโน่นอ้างนี่ ทั้งที่แท้จริงก็เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ขณะที่ชาวแพนดอร่ามีชีวิตอยู่กับธรรมชาติ อยู่กับโลกที่แตกต่างออกไป แต่ก็พร้อมจะต่อสู้เพื่อบ้านและเพื่อนพ้องของตัวเอง

ดูหนังเรื่องนี้ ทำให้ผมรักความเป็นนาวี มากกว่าความเป็นมนุษย์เสียอีก

ถ้าถามว่า ควรจะดู ‘อวตาร’ ในรูปแบบไหน เพราะมันมีให้เลือกดูหลายแบบมาก ผมคงไม่ขอฟันธง แต่ถ้าอยากดูจะภาพใหญ่ๆ อลังการ 3 มิติ แนะนำ IMAX 3D ที่อาจจะต้องพบกับปัญหา “ซับหาย” และ “ซับจาง” (รวมทั้ง “ทรัพย์จาง”) บ้างนิดหน่อย แต่เมื่อดูแล้ว จะอยากดูซ้ำ คงต้องแนะนำโรง Digital 3D ที่บางคนเขาว่า คมชัดกว่า IMAX อีกต่างหาก

Stephen Lang นายทหารตัวร้ายใน ‘อวตาร’
credit: IMDb

เสริมอีกนิด บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมหนังถึงชื่อไทยว่า ‘อวตาร’

คำๆ นี้ เดิมถูกใช้ในทางศาสนา อย่างที่เราเคยได้ยินกัน พระนาราย์อวตาร หรือแบ่งภาคมาเกิดเป็นมนุษย์บ้าง สัตว์บ้าง กาลเวลาผ่านไป ฝรั่งหยิบคำนี้ไปใช้ ความหมายจึงหลากหลายขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้มีความหมายเฉพาะทางศาสนาอย่างเดียวอีกแล้ว ภาพ avatar ที่เราใช้ในเว็บบอร์ด ใน twitter นั่นก็คือ ภาพที่แทนตัวเรา เป็นเหมือนอีกร่างหนึ่งของเรานั่นเอง ในหนัง เจคเชื่อมโยงร่างกับร่างชาวนาวี เพื่อแฝงตัวเข้ากับชนเผ่านี้ จึงเรียกว่าเป็นร่าง Avatar นั่นเอง

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง


ภาพยนตร์ : Avatar/ อวตาร
กำกับการแสดง: James Cameron
ผู้แสดงนำ: Sam Worthington, Zoe Saldana, Sigourney Weaver, Michelle Rodriguez, Stephen Lang, Joel David Moore, Giovanni Ribisi, CCH Pounder, Dileep Rao, Matt Gerald, Laz Alonso, Peter Mensah, Wes Studi
ความยาว: 165 นาที
เรทภาพยนตร์: ไทย – ท (ทั่วไป), สากล – PG13

Exit mobile version