รีวิวหนัง Beirut เบรุตนรกแตก | เลบานอนย้อนยุคเจรจาต่อรอง

ผ่านเข้ามาสู่สัปดาห์ใหม่กันอีกแล้ว และก็เช่นเคยที่นายแพทจะต้องไปหนีจากโลกแห่งความจริงเพื่อไปเก็บความรู้สึกจากอีกโลกหนึ่งที่อยู่ในโรงภาพยนตร์มาฝากเช่นเคย กับเรื่องนี้ ‘Beirut เบรุตนรกแตก’ หนังดราม่าทริลเลอร์ที่เขียนบทโดย Tony Gilroy

มันเป็นเรื่องราวที่อาจจะดูไกลตัวสำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งจริงๆ แล้วผมก็ไม่ค่อยจะสนใจหรือศึกษาเรื่องราวความขัดแย้งในประเทศเลบานอน ประเทศเล็กๆ ริมทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนียน ใกล้ๆ กับจอร์แดน อิสราเอล ซีเรีย อะไรเทือกๆ นั้น

ดูหนังวันนี้ เหมือนได้มาเติมความรู้เกี่ยวกับย่านนี้ให้กับตัวเอง

เรื่องย่อหนัง ‘Beirut’

เรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อ 10 ปีก่อนที่ เมสัน สไกส์ (Jon Hamm) นักการทูตสหรัฐฯ ผู้ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเบรุต ได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น มีภรรยาสุดที่รัก และรับเลี้ยงเด็กปาเลสไตน์นามคารีมไว้ในบ้าน ก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นที่นั่น ทำให้ต้องสูญเสียภรรยาสุดที่รัก เขาจากมาโดยไม่เคยคิดจะกลับไปที่นั่นอีกเลย

จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง…

เขาถูกดึงตัวกลับมาที่เบรุตอีกครั้งด้วยภารกิจบางอย่าง โดยที่ไม่คาดคิด เขาได้รับรู้ภารกิจของการเดินทางมาครั้งนี้ของตัวเอง ได้รู้จักกับ แซนดี้ เคราเดอร์ (Rosamund Pike) ซีไอเอสาวที่มุ่งมั่นเพื่อภารกิจของชาติ สิ่งที่เขาต้องทำก็คือ การเจรจาต่อรองเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน คาล ไรลีย์ (Mark Pellegrino) เพื่อนที่เขาเคยสนิท

และหลงลืมไว้ที่เบรุตนี่แหละ

รีวิวหนัง ‘เบรุตนรกแตก’

หนังมีความย้อนยุคไปไกลถึงสมัยโรนัลด์ เรแกน โน่นเลยทีเดียว กับภารกิจของเมสันที่เก่งในด้านการเจรจาพาที ดังจะสังเกตได้จากช่วงแรกของหนัง งานเลี้ยงสังสรรค์ที่บ้านของเขา เขาเป็นตัวละครที่เจี้ยวแจ้วมากที่สุดแล้ว แต่ก็เป็นส่วนที่ทำให้เราเข้าใจภาพรวมของเบรุตและเลบานอนในแบบเข้าใจง่ายๆ

ถือเป็นการเปิดเรื่องที่ใช้ได้เลย

หนังค่อยๆ เล่าจากเรื่องราวเมื่อ 10 ปีก่อน ที่เมสันเคยอยู่ที่เบรุต และสูญเสียภรรยาไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น ความผูกพันเก็บเด็กน้อยมาเลี้ยง ก่อนที่จะเล่าเรื่องราวใน 10 ปีถัดมา ที่เขาต้องกลับมาเบรุตอีกครั้ง ดินแดนที่เขาไม่เคยอยากกลับมาเหยียบ เมื่อได้รับรู้ว่าเพื่อนรักถูกผู้ก่อการร้ายลักพาตัวไปกักขังในฐานะตัวประกัน

และเจ็บปวดกว่า เมื่อได้รู้ว่าคนที่ลักพาตัวเพื่อนเขาไป คือเด็กน้อยในวันนั้นนั่นเอง

หนังจึงมีความดราม่าอยู่ค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันก็มีแต่เรื่องของการเจรจาใช้ไหวพริบในการเอาชนะฝ่ายตรงข้ามด้วยมันสมอง อาจจะไม่ถึงน่าอึ้ง แต่ก็ชวนพอทึ่งได้พอประมาณ

แต่โดยรวม หนังดูเครียดขึ้งพอสมควร และการเร่งเร้าที่ยังไม่มากพอในบางจุด อาจจะทำให้คนดูที่นอนน้อยรู้สึกหลุดจากหนังไปเป็นช่วงๆ

สิ่งที่น่าชื่นชมอีกส่วนของหนัง คือ ฉากของเมืองเบรุตในมุมต่างๆ ที่ดูสมจริงมากๆ ทั้งๆ ที่เรื่องไปถ่ายทำกันที่ Tangier ประเทศโมร็อกโก เพราะออกมาดูเป็นเมืองที่ทรุดโทรมลงไปเพราะภัยของการก่อการร้าย การทำสงครามกลางเมือง

หนังไม่ได้เล่าถึงแค่ความสามารถในการเจรจาต่อรองของพระเอกเท่านั้น แต่เลือกจะหยิบประเด็นของความสัมพันธ์ระหว่างชนชาติ ระหว่างเพื่อน มาใส่ลงไปในตัวละครที่ต้องทำภารกิจตามที่ชาติสั่งอีกด้วย

ถือเป็นหนังเจรจาตัวประกันที่ทำได้ไม่เลวเรื่องนึงเลยครับ

ชื่อภาพยนตร์: Beirut / เบรุตนรกแตก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Brad Anderson
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Tony Gilroy
นักแสดงนำ: Rosamund Pike, Jon Hamm, Mark Pellegrino, Dean Norris, Shea Whigham, Douglas Hodge, Leïla Bekhti, Kate Fleetwood
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ความยาว: 109 นาที
แนว/ประเภท: Drama, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
ปี: 2018
เรท: ไทย/น15+, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย:
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Kasbah-Film Tanger, Radar Pictures, ShivHans Pictures