ภาพยนตร์รีวิว

รีวิวหนัง Monster Hunter มอนสเตอร์​ ฮันเตอร์ | อสุรกายยักษ์กับเหล่านักล่า

หนังจากเกม ที่มีมิลล่าเล่นกับโทนี่ จา เคมีเข้ากันดี มีแต่ฉากแอคชันเต็มเรื่อง

หนังจากเกมยังคงถูกสร้างกันมาอยู่เรื่อยๆ นัยว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างแน่นอน แต่บางเกมก็ไม่ได้จำเป็นมากนักที่คนมาดูจะต้องเคยเล่นเกมมาก่อนถึงจะรู้เรื่อง อย่างเช่นหนังเรื่อง ‘Monster Hunter’ (ที่ชื่อไทยไม่ต้องตั้งใหม่ เอาทับศัพท์ไปเลย ‘มอนสเตอร์​​ ฮันเตอร์’) เรื่องราวของโลกสองใบที่นางเอกจากโลกเราได้ก้าวข้ามไปสู่โลกใหม่แล้วเจอกับเหล่าสัตว์ประหลาด

มิลล่า โจโววิช ใน มอนสเตอร์ ฮันเตอร์
มิลล่า โจโววิช ใน ‘มอนสเตอร์ ฮันเตอร์’

ผลงานจากผู้กำกับอย่าง Paul W.S. Anderson ชายผู้สร้างมาแล้วทั้ง ‘Resident Evil’ หลายภาค, ‘Pompeii’, ‘The Three’ ‘Musketeers’ และ ‘Death Race’ ใครได้ดูผลงานของเขามาทุกเรื่องนี้ คงพอจะเข้าใจสไลต์ของผู้กำกับคนนี้ได้ดี ส่วนผมเองก็เช่นกัน ดูหนังของเขามาหลายเรื่อง และก็ไม่เคยได้เล่นเกมนี้มาก่อน เพราะฉะนั้น ก่อนดูหนังเรื่องนี้

ผมเก็บข้อมูลเข้าหัวเพียงแค่ตัวอย่างหนังเท่านั้น!


เรื่องย่อหนัง Monster Hunter

เพราะพายุฝุ่นฟ้าคะนองอันน่าหวาดหวั่นนั่นทีเดียวที่ทำให้ อาร์ทมีส (Milla Jovovich จากหนังเรื่อง ‘Resident Evil’ ทุกภาค, ‘The Fifth Element’ และ ‘The Fourth Kind’) สาวเท่สายทหารหัวหน้าทีมฟอลคอนที่ตามหาทีมบราโว่ที่หายไป จึงได้ก้าวข้ามไปยังโลกใหม่ (The New World) ที่ไม่คุ้นเคย

ที่นั่นเป็นดินแดนที่รกร้างไม่ต่างจากโลกที่เธอจากมา แต่ที่นั่นมีสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์อาศัยอยู่ (ซึ่งเราจะเรียกพวกมันว่า ‘มอนสเตอร์’ ก็แล้วกัน) สุดท้าย มอนสเตอร์ก็ได้สังหารลูกน้องของเธอไปจนหมด แต่ก็ทำให้เธอได้ทำความรู้จักกับชายหนุ่มผู้เก่งกาจและอยู่รอดได้ในโลกอันโหดร้ายเช่นนั้น

ตัวอย่างหนัง ‘มอนสเตอร์ ฮันเตอร์’ (ซับไทย)

เขาคือ ฮันเตอร์ (Tony Jaa/จา พนม จากหนังเรื่อง ‘องค์บาก’, ‘ต้มยำกุ้ง’ และ ‘xXx: Return of Xander Cage’) ที่พลัดพรากจากครอบครัวมาใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวเฝ้ารอวันจะได้รวมกลุ่มอีกครั้ง

คราวนี้ ทั้งสองคนจากคนละโลกจะต้องร่วมมือกันฝ่าฟันไปถึงยังป่าโอเอซิสเป้าหมาย ด้วยจุดประสงค์ของคนสองคนที่แตกต่างกัน


รีวิวหนัง ‘มอนสเตอร์​ ฮันเตอร์’

ผมไม่รู้หรอกว่า ลักษณะของเกมใน Capcom นั้นมันเป็นเยี่ยงไร น่าสนุกแค่ไหน แต่เราพูดถึงแค่เรื่องในหนังก็แล้วกันนะ มันเป็นหนังที่มีโครงเรื่องเบาบางมาก เรียกได้ว่า จะเล่าให้จบในเพียงย่อหน้าเดียวก็ย่อมจะทำได้ มันคือเรื่องของ ทหารหญิงที่บังเอิญข้ามไปยังโลกแห่งมอนสเตอร์ เจอกับฮันเตอร์ผู้เก่งกาจ และทั้งสองต้องฝ่าฟันไปยังป่าโอเอซิสให้ได้ แค่นั้นเอง

แต่พอล ดับเบิลยู อันเดอร์สัน เล่นเล่าเสียยาวยืด 90 นาทีได้เพราะอะไร?

เรื่องราวใน มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ นั้นจะเน้นหนักไปที่สองสามส่วนด้วยกัน

หนึ่งคือ ฉากแอคชันของมนุษย์กับเหล่าสัตว์ประหลาดชนิดต่างๆ

ที่ผู้ที่ทำหน้าที่ในการบอกชื่อของมันคือ จา พนม สัตว์ประหลาดแต่ละตัวมีลักษณะอันพิเศษที่จดจำได้ง่าย มีจุดเด่นและข้อด้อยที่แตกต่างกันไป และเป็นฮันเตอร์นี่แหละที่ดูจะรู้จุดอ่อนของทุกตัว หนังใช้ซีจีได้คุ้มและไม่กะหลั่ว ผลงานด้านเทคนิคการสร้างสัตว์ประหลาด และเอฟเฟกต์ต่างๆ ถือว่าเข้าที

กระนั้น จำนวนของมอนสเตอร์ก็ยังดูน้อยไปนิด เหมือนจะกั๊กไว้เล่นเล่าต่อภาคหน้า…

Tony Jaa หรือ จา พนม กับบทบาทโดดเด่นในหนังใหญ่ มอนสเตอร์ ฮันเตอร์
Tony Jaa หรือ จา พนม กับบทบาทโดดเด่นในหนังใหญ่ ‘Monster Hunter’

แต่จุดที่น่าปวดหัวกลับเป็นการตัดต่อฉากการต่อสู้ระหว่างมนุษย์นี่แหละ

ลีลาการตัดฉับของหนังเรื่องนี้ทำเอามองไม่ออกมองไม่ทันว่าตัวละครเขาออกท่าออกทางกันอย่างไรบ้าง ทำให้อาจมองไม่เห็นความเทพในเชิงการต่อสู้ของ จา พนม ได้มากพอไงล่ะ

Poster of Monster Hunter มอนสเตอร์ ฮันเตอร์ Thai Version
โปสเตอร์หนัง ‘Monster Hunter’ เวอร์ชันไทย

สองคือ ฉากความสัมพันธ์ของมิลล่ากับจา พนม

ถ้าถามว่าในเรื่องนี้ บทพูดของ จา พนม เป็นยังไงบ้าง ก็คงต้องบอกได้ว่า ผมไม่รู้เลยว่าเขาพูดอะไรหรอกครับ ภาษาอะไรที่เขาพูดผมก็ไม่รู้ มันเป็นภาษาของโลกใบนั้นที่ตัวมิลล่าเองก็ฟังไม่ออก สิ่งที่เราฟังออกจากปากเขาก็คือ ตอนที่เขาเอ่ยชื่อมอนสเตอร์แต่ละตัวนั่นแหละ

ทั้งสองมักสื่อสารกันด้วยสีหน้าท่าทาง ซึ่งจุดนี้ จา พนม ทำได้ดี ด้วยภาษาท่าทาง สีหน้า แววตา กลายเป็นโบ๊ะบ๊ะได้เรื่องจนคนดูฮาได้เรื่อยๆ เคมีระหว่าง มิลล่า กับ จา พนม ถือว่าเข้าทีและเข้ากันได้ดี แม้จะเล่นมุกช็อคโกแลตกันบ่อยไปนิด แต่หนังก็เพลินไปต่อได้ไม่น่าง่วงอย่างที่หวั่น

มังกรยักษ์ ในหนัง Monster Hunter มอนสเตอร์ ฮันเตอร์
มังกรยักษ์ ในหนัง ‘Monster Hunter’

โดยรวมของหนังเรื่องนี้ มันมีเนื้อเรื่องน้อยมากครับ แถมตัวละครช่วงกลางเรื่องนี่แทบจะเล่นกันสองตัว แถมจู่ๆ จะมีตัวเพิ่มก็ใส่เข้ามาไม่ต้องบอกต้องเล่าว่าพวกเขาชื่อเรียงเสียงไรกันบ้าง บอกเป็นนัยว่าไม่ต้องไปจดจำ ช่วงท้ายคือจัดกันมาโบ้มๆ ไปเลยกับฉากแอคชัน

จากนั้นก็เข้าสู่ฉากที่จะปูเข้าสู่ภาคถัดไป


ภาพยนตร์เรื่อง: Monster Hunter / มอนสเตอร์​ ฮันเตอร์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Paul W.S. Anderson
ผู้เขียนบท: Paul W.S. Anderson
นักแสดง: Milla Jovovich, Tony Jaa, T.I. 
ดนตรีประกอบ: Paul Haslinger
ความยาว: 99 นาที
ปี: 2020
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Fantasy
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/-, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 30 ธันวาคม 2020
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Constantin Film, Impact Pictures, Capcom Company

มอนสเตอร์​ ฮันเตอร์

บทและพล็อต - 6.5
การแสดง - 7.3
เพลง/ดนตรีประกอบ - 7
การดำเนินเรื่อง - 6.8
งานภาพ - 7

6.9

Monster Hunter

หนังจากเกมที่ใช้ตัวละครหลักเพียงสองตัวที่อยู่กันคนละโลกที่เกิดต้องมาร่วมต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ในโลกใบใหม่ เคมีของมิลล่า โจโววิช กับ โทนี่ จา ถือว่าเข้าที เล่นเอาขำไปหลายยก ขณะที่หนังให้เวลาส่วนใหญ่กับฉากแอคชันต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาด เป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ แต่ต้องปวดใจกับการต้องรอภาคต่อ

User Rating: 3.55 ( 2 votes)

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ