รีวิวหนัง Speak No Evil พักร้อนซ่อนตาย | การเดินทางไปชนบทอันสุดระทึก

ค่ายหนังบางค่ายประกาศตัวชัดเจนเลยว่าจะนำหนังแนวไหนหมวดใดเข้าฉายในบ้านเรา Night Edge Pictures ก็เช่นกัน เขาสนใจเฉพาะหนังแนวๆ ระทึกและสยองขวัญเท่านั้นที่จะนำมาให้คนไทยได้ชม แถมหนังของเขาก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะอเมริกา แต่หนังจากฝั่งยุโรปที่เราไม่ได้ค่อยได้เห็นฉายในโรง เขาก็นำมาด้วย อย่างเช่นเรื่องนี้ ‘Speak No Evil’ ชื่อไทย ‘พักร้อนซ่อนตาย’ หนังที่ว่าด้วยทริปพักร้อนของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง

เปิดเข้าไปดูข้อมูล พบว่าเป็นผลงานจากผู้กำกับนาม Christian Tafdrup ชายผู้ที่เกิดในเดนมาร์ก มีผลงานมาทั้งกำกับหนังและซีรีส์ แต่นี่คงเป็นผลงานชิ้นแรกที่นายแพทได้ดู หนังเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวด ดราม่า/สยองขวัญ/ระทึกขวัญ เป็นหนังที่เขาลงมือทั้งกำกับและเขียนบทเอง โดยเขียนบทร่วมกับ Mads Tafdrup ถ่ายทำทั้งใน อิตาลี เดนมาร์ก และฮอลแลนด์ ทุกอย่างตรงตามเนื้อเรื่องเป๊ะๆ

ว่าแล้ว เราก็ไปทำความรู้จักกับหนังด้วยเรื่องย่อกันก่อนนะครับ

เรื่องย่อหนัง ‘Speak No Evil’

เริ่มต้นเรื่องด้วย การที่ครอบครัวชาวเดนมาร์ก 3 พ่อแม่ลูกอย่าง บียอร์น (Morten Burian) ลูอิส (Sidsel Siem Koch) และแอกเนส (Liva Forsberg) ที่ไปเที่ยวทัสคานี, ประเทศอิตาลีด้วยกันในช่วงวันพักร้อน ทริปนั้น พวกเขาได้รู้จักกับสองสามีภรรยาชาวดัตช์อย่าง แพทริก (Fedja van Huet) และคาริน (Karina Smulders) เหมือนพวกเขาจะเริ่มสนิทกันพอประมาณแล้ว จนทำให้ครอบครัวชาวเดนมาร์ก ได้รับคำเชื้อเชิญจากครอบครัวชาวดัตช์ ให้ไปเที่ยวบ้านของพวกเขาที่อยู่แถวชนบทแห่งหนึ่งในเนเธอร์แลนด์

แม้จะยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง แต่ในที่สุดก็ตอบรับคำชวนนั้น ขับรถพาตัวเองไปจนถึงบ้านหลังนั้นจนได้

เมื่อเขาเดินทางไปถึงที่นั่น แม้จะเริ่มต้นด้วยการต้อนรับขับสู้ที่ดี แต่ก็เริ่มจะมองเห็นความแปลกประหลาดที่มากขึ้นทุกที และโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ครอบครัวชาวดัตช์ก็ค่อยๆ เปิดเผยตัวตน จากมิตรภาพที่น่าไว้วางใจ กลายมาเป็นตัวอันตรายที่จ้องเล่นงานพวกเขาอย่างเงียบๆ ทั้งยังมีเจตนาร้ายที่ไม่ต้องการให้พวกเขาได้กลับออกไปของที่นั่น

รีวิวหนัง ‘พักร้อนซ่อนตาย’

เอาเข้าจริง หนังเรื่องนี้ ถ้าไม่รู้อะไรไปก่อนดูเลย น่าจะเป็นการดีที่สุด แต่ไหนๆ ทุกคนก็เข้ามาอ่านกันแล้ว ก็น่าจะอนุมานได้ว่า อยากรู้บางอย่างเหมือนกันก่อนจะได้ดู ไม่ก็อาจจะดูมาก่อนแล้ว อยากหามุมมองเพิ่มเติม เช่นนั้น ผมจะเขียนตามสบายก็แล้วกันนะ

หนังเล่าเรื่องในแบบที่เข้าใจได้ง่ายมาก ดูเป็นขั้นเป็นตอนดี ทำให้เราได้เห็นว่า ครอบครัวชาวเดนมาร์กไปเที่ยวกันแล้วเจอกับครอบครัวชาวดัตช์ยังไง ไปไงมาไงถึงได้คำเชื้อเชิญจนในที่สุด ก็รับปากไปเยี่ยมเยือนและพักค้างคืนที่บ้านของพวกเขา ทั้งที่ในใจก็ยังคิดอยู่ว่า สนิทกันขนาดนั้นแล้วเหรอ แต่คงเพราะความที่มันเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งได้ฟังเสียงที่เห็นชอบ มันจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่ไม่คาดคิด

เรื่องราวที่มีความใกล้ตัวพอสมควร จากพล็อตที่เล่าเรื่องของครอบครัวที่ไปเที่ยวพักร้อนในแถบชนบทของเพื่อนใหม่ต่างชาติ ภาพของชนบทที่ดูน่าจะไม่มีอะไร ท่าทางของพวกเขาก็ดูอบอุ่นดี จึงวางใจไปอยู่กับเขาทั้งที่ยังไม่ได้รู้จักกันดีพอ ก่อนจะได้พบความจริงที่น่ากลัวและอันตราย

หนังเลือกจะใส่ดนตรีประกอบที่บ่งบอกความน่าหวาดกลัวมาตั้งแต่แรกเริ่มที่มันยังไม่มีอะไร ราวกับจะบอกเตือนตัวละครว่าพวกเขากำลังจะได้พบเจอสิ่งเลวร้าย หากยังก้าวต่อไปในเส้นทางนี้ ขณะที่ในมุมของคนดูก็อาจจะรู้สึกว่า พี่จะรีบย้ำเตือนไปไหน เหตุยังไม่เกิดเลย

ระหว่างทาง ผู้ชมจะได้นั่งดูด้วยความรู้สึกหลายสิ่งหลายอย่างปนเป ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกว่าครอบครัวชาวดัตช์ดูไม่ชอบพากลเอาเสียเลย พยายามลุ้นในใจว่า พวกเดนมาร์กจะไปทำไมว้า หรืออาจจะรู้สึกว่า ตัวละครลูกสาวนี่สร้างเรื่องให้พ่อแม่โดยแท้ ขณะเดียวกัน ตัวพ่อแม่เองก็อาจเป็นส่วนหนึ่งในทุกสิ่งเลยเถิดไปถึงบทลงเอยจนได้

ผู้ชมอย่างเราๆ จะรู้สึกกดดัน อึดอัด ไปตลอดทาง เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า เรื่องราวในช่วงสององก์แรกค่อนข้างเป็นไปในแบบทริลเลอร์ ก้ำกึ่งว่าจะเดินเชื่องช้าทว่ากลับไม่รู้สึกถึงคำว่าน่าเบื่อ ทุกอย่างพอจะมีคำอธิบายอยู่ในนั้น

หลายสิ่งที่วางทิ้งเป็นเศษขนมปังไว้อยู่แล้ว เหลือเพียงเวลาที่จะหยิบมาบอกเล่าถึงมันอีกครั้ง เมื่อหนังเดินมาถึงองก์สุดท้าย มันก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นหนังสยองขวัญขึ้นมาทันที เรื่องราวพาอึ้งและอาจถึงกับทำให้มีคนเผลอร้องอุทานออกมา และพอหนังจบลง มันทำให้นายแพทรู้สึกหดหู่และจิตตกไปชั่วขณะเลยทีเดียว

ตัวหนังเองมีหลายสิ่งที่อบอวลชวนฉุกคิดรวมอยู่ในนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาภายในครอบครัว การเลี้ยงดู การเลือกปฏิเสธคน ความไว้เนื้อเชื่อใจคนแปลกหน้า ความคิดที่ว่าไม่น่าจะมีอะไร ไว้ใจภาพลักษณ์คนชนบท ที่รวมๆ กันกลายเป็นเรื่องของการเลือกคบเพื่อนใหม่

เลยไม่น่าแปลกใจที่หนังจะได้รับคัดเลือกเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ ปี 2022 และน่าจะเป็นหนังที่ถูกใจคอหนังระทึกขวัญกันพอสมควร ลองออกไปหารสชาติที่แปลกใหม่ของหนังยุโรปกันดูนะครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง