ภาพยนตร์รีวิว

รีวิว The Outpost ฝ่ายุทธภูมิล้อมตาย | จากเรื่องจริงในสงครามอัฟกานิสถาน

สร้างขึ้นจากเรื่องจริงของกลุ่มทหารนับสิบที่โดนตาลีบันนับร้อยถล่มยิง หนังเรียลมาก

หนังจากเรื่องจริงบางครั้งก็ให้ความรู้สึกที่ไม่จริง หนังสงครามหลายครั้งก็ไม่ได้ความรู้สึกเหมือนเราได้อยู่ในสงครามจริงๆ การได้ดูจึงอาจซึมทราบในความผลพวงและความโหดร้ายของสงคราม แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกเหมือนเราไปพบเจอมันมาด้วยตัวเองจริงๆ วันนี้ มีหนังสงครามเรื่องหนึ่งที่ทำให้รู้สึกแบบนั้นได้ ‘ฝ่ายุทธภูมิล้อมตาย’ หรือ ‘The Outpost’ คือหนังเรื่องนั้นครับ

ในเรื่องนี้จะได้นักแสดงที่หลายคนรู้จักดีมาเล่นเป็นทหารหน้ามุ่ยๆ อาจจะทำให้ดูแปลกไปจากทุกที แต่ก็ไม่ต้องคิดมากเพราะการที่เราจะจำพวกเขาได้หรือไม่ มันไม่สำคัญ

สิ่งที่สำคัญก็คืออารมณ์และความรู้สึกที่เราจะได้ระหว่างดูต่างหากล่ะครับ


เรื่องย่อ ‘The Outpost’

จากเรื่องจริงของกลุ่มทหารอเมริกันที่ถูกส่งไปอยู่ในค่ายกลางหุบเขาในอัฟกานิสถาน ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ความยาว 123 นาที ถ่ายทอดความจริงที่เกิดขึ้นในค่ายแห่งนั้น

ค่ายของทหารกลุ่มเล็กๆ ที่มีจำนวนเพียง 54 นาย ค่ายที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อปฏิบัติภารกิจบริการ พวกเขาได้รับมอบหมายมาทั้งๆ ที่รู้ว่างานนี้เสี่ยงอันตรายมากมายเพียงใด

งานนี้มีนักแสดงอย่าง Scott Eastwood (จาก ‘Pacific Rim: Uprising’), Caleb Landry Jones (จาก ‘Three Billboards Outside Ebbing, Missouri’) และ Orlando Bloom (จาก ‘The Lords of the Rings’) ที่หลายคนรู้จักกันดีมาร่วมแสดงนำ

‘ฝ่ายุทธภูมิล้อมตาย’ ตัวอย่างหนัง (ซับไทย)

ด้วยที่ตั้งชัยภูมิที่อยู่ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบ มองไม่เห็นความได้เปรียบต่อศัตรูแม้สักนิด เป็นเหมือนภารกิจฆ่าตัวตายชัด และในที่สุด วันนั้นก็มาถึง เมื่อกลุ่มตาลีบันราวสี่ร้อยคนบุกจู่โจมจากทุกทาง กลุ่มทหารที่มีอยู่น้อยนิดจำต้องร่วมใจกัน

เพื่อเหลือรอดออกไปให้ได้มากที่สุด!


รีวิวหนัง ‘ฝ่ายุทธภูมิล้อมตาย’

เป็นหนังที่แทบจะไม่ต้องการสตอรี่หรือพล็อตเรื่องอะไรเลย นอกจากชีวิตประจำวันของเหล่าทหารอเมริกันในค่าย ภารกิจเล็กใหญ่ที่ต้องทำในแต่ละวัน บางอย่างก็ดูบ้าบอและพาตัวเองไปเสี่ยงตายด้วยซ้ำ

เสมือนไปรบจริง หลบกระสุนจริง เสี่ยงตายจริง

แต่สิ่งที่เป็นแนวคิดสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาน่าสนใจ น่าประทับใจ ก็คงเป็นการเล่าเรื่องให้มองเห็น เข้าใจชีวิตและความรู้สึกนึกคิดของเหล่าทหาร โดยที่ไม่ต้องเน้นเล่าให้เป็นเรื่องราว แค่มองเห็นชีวิตประจำวัน ได้ฟังคำสนทนาที่ยิงเข้าใส่กันน้ำไหลไฟดับก็พอจะเก็บเกี่ยวได้แล้วว่าพวกเขาเจออะไรมาบ้างและกำลังเผชิญกับอะไรในค่ายที่เป็นความผิดพลาดมาตั้งแต่เริ่มต้น

การจดจำตัวละครแต่ละตัวในนั้น อาจจะยากสักนิดนึง เพราะพวกเขามีเป็นสิบ ชื่อที่ขึ้นมาเพียงแว้บเดียว และการที่แต่ละคนแต่งตัวด้วยชุดทหารจนมองเหมือนๆ กันไปหมด แถมหน้าตาที่มอมแมมยิ่งทำให้จดจำยากขึ้นไปอีก แต่เรายังดูหนังด้วยความตื่นเต้นได้

เพราะเหตุรุนแรงมันสามารถจะเกิดได้ทุกวินาที

โปสเตอร์หนัง ฝ่ายุทธภูมิล้อมตาย เวอร์ชันไทย
โปสเตอร์หนัง ‘ฝ่ายุทธภูมิล้อมตาย’ เวอร์ชันไทย

หัวหน้าคนแล้วคนเล่าที่เข้ามาปฏิบัติงานกำกับดูแลพวกเขา แล้วก็เสียชีวิตไปเพราะถูกกระสุนยิงใส่ร่าง

หนังไม่ได้บอกอะไรมากนัก ว่าสถานะของทหารอเมริกันกับกลุ่มชาวบ้านแถบนั้นเป็นอย่างไร ดูมีความคลุมเคลืออยู่ไม่น้อย แต่สถานการณ์ช่วงครึ่งหลังที่กลุ่มตาลีบันบุกล้อมทุกทิศทาง ระดมยิงใส่ฐานที่มั่นหนึ่งเดียวของพวกเขา หนังจู่โจมเข้าใส่คนดูด้วยลีลาการเคลื่อนกล้องกึ่งแฮนด์เฮลด์ การถ่ายระยะใกล้ และลองเทค ประกอบกับเสียงปืน เสียงระเบิด ทั้งหมดเสมือนพาผู้คนให้เข้าร่วมอยู่ในเหตุการณ์จริง วิ่งหนีกระสุนกันจ้าละหวั่น เล็งเป้าเข้าหาศัตรูด้วยตาตัวเอง ตัดสินใจออกไปช่วยเหลือเพื่อนทหารด้วยความกล้าหาญ

ครึ่งหลังของเรื่องเล่นเอานั่งไม่ติดที่ ใจเต้นระรัวตลอดเวลา นี่แหละสิ่งที่หนังทำให้เรารู้สึก

ไม่ได้ตั้งใจอวย แถมด่าเสียด้วยซ้ำ

จากเรื่องจริงของทหารอเมริกัน 54 นาย ที่ต้องเผชิญกับโจมตีครั้งใหญ่โดยกลุ่มก่อการร้ายตาลีบันกว่า 400 คน หรือที่รู้จักกันดีในนาม สมรภูมิคัมเดช (Battle of Kamdesh) นี่คือการสู้รบของชาวอเมริกันที่นองเลือดที่สุดในสงครามอัฟกานิสถาน!

คำโปรยของหนังเรื่องนี้บอกเราได้เท่านี้จริงๆ เพราะตัวหนังเองก็ไม่ได้เล่ามากมายไปกว่านั้น เราได้มองเห็นถึงปัญหาจากภายนอกค่าย (ทั้งชาวบ้าน ที่ตั้งที่เอื้อแก่การถูกโจมตีของเหล่าตาลีบัน) และปัญหาที่อยู่ภายในค่ายเอง ที่ผู้บังคับบัญชาเปลี่ยนหน้ามาเรื่อยๆ เพราะคนเก่าสังเวยชีวิตไปกับค่ายและภารกิจที่นี่

มันเป็นหนังสงคราม และอาจดูเหมือนหนังที่อวยความเป็นสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ใช่เลย หนังออกจะโวยต่อคนใหญ่คนโตด้วยซ้ำที่คิดก่อตั้งค่ายนี้ขึ้น ทั้งพื้นที่ซึ่งไร้ความได้เปรียบใดๆ ศัตรูไม่ต้องชำนาญพื้นที่ก็สามารถซุ่มโจมตีได้ทุกเมื่อ และกลุ่มทหารก็มีอยู่เพียงกระหย่อมนึง

การแสดงที่ชวนอึ้งไม่เบาก็คือ Caleb Landry Jones ที่สวมบทบาทเป็นคาร์เตอร์ ที่โดดเด่นจนแทบขโมยซีนทุกตัวที่เขาร่วมฉาก

หนังปิดท้ายด้วยความเศร้าสะเทือนใจ มองเห็นอย่างชัดแจ้งถึงความสั่นสะเทือนทางจิตใจที่ทหารได้รับจากการปฏิบัติงาน ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เราได้เห็นช่วงเวลาเหล่านั้น แถมยังเสมือนได้เข้าไปผจญห่ากระสุนด้วยตนเอง ฉากนั้น ใครที่ได้ดูมาตั้งแต่ต้นคงอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว มันมากเกินจะทนจริงๆ

ของแถมท้ายตลอดเครดิต

ไม่ต่างกับหนังแนวสงครามที่สร้างจากเรื่องจริงเรื่องอื่น หนังเรื่องมีของแถมปิดท้ายด้วยภาพของเหล่าทหารในค่ายที่ต่างได้รับเหรียญต่างๆ พร้อมให้เปรียบเทียบกันทั้งตัวจริงๆ กับตัวที่เล่นในหนัง ถ้าใครยังนั่งอยู่ไม่ลุกไปไหนก็จะได้ชมสารคดีที่ทหารจริงมาบอกเล่าเรื่องราวการสร้างอีกด้วยนะ

outpost = ด่านหน้า


ภาพยนตร์เรื่อง: The Outpost / ฝ่ายุทธภูมิล้อมตาย
ผู้กำกับภาพยนตร์: Rod Lurie
ผู้เขียนบท: Paul Tamasy, Eric Johnson 
นักแสดงนำ: Scott Eastwood, Caleb Landry Jones, Orlando Bloom
ดนตรีประกอบ: Larry Groupé
ความยาว: 123 นาที
ปี: 2020
แนว/ประเภท: Action, Drama, History , War
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/-, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 5 พฤศจิกายน 2020
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Millennium Media, Perfection Hunter Productions, Screen Media Films

ฝ่าสมรถูมิล้อมตาย

บทและพล็อต - 8
การแสดง - 8.4
เพลง/ดนตรีประกอบ - 7.5
การดำเนินเรื่อง - 7.8
งานภาพ - 7.7

7.9

The OutPost

ดำเนินเรื่องด้วยภารกิจไม่ก็การพูดคุยแบบนันสต็อปของเหล่าทหาร กับเหตุโดนถล่มโจมตี ให้ความรู้สึกเรียล ราวกับผู้ชมได้ไปอยู่กลางค่าย ร่วมรบ ร่วมสู้ เอาตัวรอดและช่วยเหลือเพื่อนในยุทธภูมิที่แทบจะเป็นดงสังหาร มีความเสี่ยงตายสูง เป็นหนังที่โชว์ความผิดพลาดในการเลือกพื้นที่ของสหรัฐอย่างแท้จริง มิใช่หนังจากเรื่องจริงที่คิดจะอวยอเมริกาแต่อย่างใด

User Rating: 3.8 ( 1 votes)

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ