ภาพยนตร์รีวิว

รีวิวหนัง Elvis | ชีวิตของเอลวิส ราชาร็อกแอนด์โรล ผ่านสายตาผู้พัน

หนังแนวไบโอพิคเล่าตำนานราชันร็อกแอนด์โรลผ่านมุมมองของคนสำคัญอย่างผู้พันปาร์คเกอร์

ในช่วงชีวิตเรา อาจพบว่า ตำนานศิลปินบางคนก็อาจจากไปก่อนเราจะเติบโตขึ้นมาได้ทัน แต่พวกเขาและผลงานยังคงดำรงอยู่ บางคนนั้นอาจชื่นชอบจนถึงขั้นคลั่งไคล้มานาน บางคนอาจเพิ่งได้มารู้จักตอนโตแล้วย้อนกลับไปฟัง หรือบางคนก็อาจเพียงเคยได้ยินได้เห็นแต่ไม่ได้ซึมลึกอะไรนัก วันนี้ คนทุกกลุ่มจะได้พบกับเรื่องราวของ ‘Elvis’ กันแล้วเมื่อหนังที่สร้างขึ้นเพื่อเล่าเรื่องราวของตำนานจะเข้าฉาย ชื่อไทยก็ตรงๆ เลย ‘เอลวิส’

Austin Butler ผู้สวมบทบาทเป็น เอลวิส เพรสลีย์ ในหนัง Elvis
Austin Butler ผู้สวมบทบาทเป็น เอลวิส เพรสลีย์ ในหนัง ‘Elvis’

ครั้งนี้ หนังเลือกจะเล่าเรื่องราวในมุมของผู้พัน ทอม ปาร์คเกอร์ ที่สวมบทบาทโดย ทอม แฮงค์ส ผู้ที่ปลุกปั้นและเป็นผู้จัดการของ เอลวิส เพรสลีย์ ที่สวมบทบาทโดย ออสติน บัตเลอร์ ผ่านมุมมองของผู้กำกับที่เคยส่ง ‘Moulin Rouge!’ เข้าชิงออสการ์มาแล้วอย่าง บาซ เลอห์มานน์ มันย่อมอลังการเหมาะสมกับหนังไบโอพิคเรื่องนี้แน่ๆ

จะรอช้าอยู่ทำไม อ่านเรื่องย่อของหนังกันก่อนเลยดีกว่า…


เรื่องย่อหนัง ‘Elvis’

ผู้พัน ทอม ปาร์คเกอร์ (Tom Hanks จากหนัง ‘Inferno’ และ ‘News of the World’) คือชายผู้มีหัวคิดและมุมมองธุรกิจ เขามองขาดในหลายเรื่อง ทำมาหากินกับธุรกิจคาร์นิวัลจนรุ่งเรือง หัวใส มองขาด และเมื่อเขาได้ข่าวดาวรุ่งดวงใหม่ที่กำลังเป็นที่ถูกพูดถึง ทำให้เขาไม่พลาดจะเข้าไปเสนอตัวเป็นผู้จัดการ

เด็กหนุ่มคนนั้น คือ เอลวิส เพรสลีย์ (Austin Butler จากหนัง ‘Once Upon a Time in… Hollywood’ และ ‘The Dead Don’t Die’) ที่ใช้เวลาชีวิตร่วมกับผู้พันปาร์คเกอร์ มายาวนาน 20 ปี ตั้งแต่ที่เขาเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังไปจนถึงตอนที่มีแฟนคลับล้นหลามอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ตัวอย่างหนัง ‘Elvis’ [ซับไทย]

ท่ามกลางกระแสของความเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้งเชิงสีผิวในอเมริกา และอีกหนึ่งบุคคลสำคัญ พริสซิลลา เพรสลีย์ (สวมบทบาทโดย Olivia DeJonge จากหนัง ‘The Visit’) ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของ เอลวิส อย่างมาก


รีวิวหนัง ‘Elvis’

เอาเข้าจริง เราก็เป็นแค่คนที่รู้จักและมองเห็นว่าเขาเป็นตำนานในวงการเพลงของโลก รู้ว่าเขามีลีลาขยับยักย้ายร่างกายพร้อมกับขับร้องเพลงในสไตล์ร็อกแอนด์โรล แต่ก็ไม่ได้ถลำลึกไปไกลกว่านั้น การได้ดูหนังแนวชีวประวัติของ ‘เอลวิส’ จึงนับเป็นการเปิดโลก คือการพาตัวเองเข้าไปรู้จักกับตำนานเพลงแบบรวบรัดในเวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ที่อาจจะไม่ถึงกับได้รู้จักเขาทั้งหมด แต่ก็นับว่ามากกว่าที่เคยมา

แถมเรื่องราวยังไม่ได้ถูกบอกเล่าโดยตัวเขาเอง แต่เป็นการบอกเล่าผ่านมุมมองของผู้พัน ปาร์คเกอร์ ชายผู้ปลุกปั้นให้เขาโด่งดังคับฟ้าและยาวนานแม้ชีวิตของเขาจะล่วงลับไปนานแล้วก็ตาม ในวันที่เขากำลังเป็นคนป่วยหนัก เขายังคงวนเวียนครุ่นคิดถึงเอลวิสที่เคยผ่านเวลาร่วมกันมาราว 20 ปี ในยามที่เขาถูกตราหน้าว่าเป็นคนที่เอาเปรียบและฆ่าศิลปินในตำนานคนนี้

Tom Hanks ผู้สวมบทบาทเป็นผู้พัน ทอม ปาร์คเกอร์ ในหนัง Elvis
Tom Hanks ผู้สวมบทบาทเป็นผู้พัน ทอม ปาร์คเกอร์ ในหนัง ‘Elvis’

หนึ่งในสามของหนัง เล่าบอกถึงการมาเจอกันของศิลปินและผู้จัดการ ก่อนที่ทุกอย่างจะพุ่งทะยานราวกับจรวด ช่วงนั้น เหมือนหนังจะเดินมุ่งหน้าท่าเดียวจนแทบไม่หยุดพัก จนอาจกลายเป็นหนังอารมณ์มากเกินไปนิดหน่อย ก่อนที่จะหนังจะเริ่มหันเหสร้างอารมณ์อื่นให้เราได้ซึมซับบ้างในช่วงกลาง และเริ่มจะเข้มข้นมากขึ้นในพาร์ทสุดท้าย จึงอาจมีบ้างที่แผ่วและไม่ชวนตื่นเต้นมากพอ แต่โดยรวมก็ถือว่าใกล้เคียงคำว่ากลมกล่อมอยู่มากเหมือนกัน

ในด้านของงานสร้าง ทีมงานของหนังทำได้ดีมากไม่แพ้ด้านการแสดงของตัวละครหลักอย่าง Austin Butler ผู้ถ่ายทอดทั้งลีลาท่าทางจนเชื่อได้ว่าเขาคนนี้คือ เอลวิส เพรสลีย์ ส่วน Tom Hanks คนที่ต้องใช้เมกอัพร่วมด้วยในหลายจุด ลีลาการแสดงที่โดดเด่นก็ยังคงเป็นอยู่เรื่อยมา

Austin Butler ผู้สวมบทบาทเป็น เอลวิส เพรสลีย์ ในหนัง เอลวิส
Austin Butler ผู้สวมบทบาทเป็น เอลวิส เพรสลีย์ ในหนัง ‘เอลวิส’

ก่อนดูก็คิดอยู่นะครับ ว่าความหนังของหนังระดับ 2 ชั่วโมง 39 นาที มันดูยาวเกินไปไหม แต่ก็เข้าไปดูก็พบว่า หนังมันจำเป็นต้องยาวขนาดนั้นจริงๆ ด้วยรายละเอียดแต่ละส่วนนั้นยากจะตัดทิ้งไปได้ หนังเล่าเรื่องราวตั้งแต่ครั้งที่เขายังเป็นเด็กอยู่เลยด้วยซ้ำ และถูกบอกด้วยลีลาของภาพที่แตกต่างกันออกไป [บางช่วงเป็นการ์ตูนด้วยนะ] ตรงนี้แหละที่รู้สึกชอบและเห็นว่าน่าสนใจ

นอกจากนี้ หนังยังเล่าถึงช่วงเวลานั้น ที่การเกิดขึ้นของศิลปินที่มีความห้าวหาญไม่ซ้ำใคร หัวก้าวหน้า บุกเบิกสิ่งใหม่ ด้วยการรวมดนตรีของคนผิวดำผิวขาวเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แม้จะหมิ่นเหม่ถูกแทรกแซงทางการเมืองและความคิด ซึ่งทำให้หนังจำเป็นต้องบอกเล่าชีวิตทุกช่วงเวลาเพื่อให้เราเข้าใจตัวตนของเขาให้มากที่สุด

โปสเตอร์ของหนัง ‘เอลวิส’ เวอร์ชันไทย
โปสเตอร์ของหนัง ‘Elvis’ เวอร์ชันไทย

ชอบหลายฉากในหนังเรื่องนี้ ที่ชอบมากสุดก็คงเป็นฉากเตรียมการแสดงตอนกลางเรื่อง เป็นจุดเริ่มให้หนังกลับมาน่าสนใจหลังแผ่วด้วยการเดินหน้าอารมณ์เดิมอยู่เป็นสิบนาที อีกจุดที่ต้องชมก็คืองานด้านเสียงที่ทำให้ออกมาได้กระหึ่ม ผสมกับงานตัดต่อและภาพที่อลังการ หนังปิดท้ายได้สะเทือนใจด้วยภาพลักษณ์ที่ทำให้ผู้ชมต้องอึ้งว่านี่มันเป็นการแสดงจริงๆ หรือหยิบยืมฟุตเทจมาใช้กันแน่ เพราะมันเหมือนจริงอย่างมาก ต่อให้ไม่ใช่แฟนคลับของเอลวิสก็อาจต้องน้ำตาไหลนอง

เดินออกมาจากโรงหนัง เพลงดังของเอลวิสอย่าง ‘Unchained Melody’ ยังก้องในหัวอยู่เลย


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์Elvis / เอลวิส
กำกับBaz Luhrmann
เขียนบทBaz Luhrmann, Sam Bromell, Craig Pearce
แสดงนำTom Hanks, Austin Butler, Olivia DeJonge, Helen Thomson, Richard Roxburgh
แนว/ประเภทBiography, Drama, Music
เรทPG-13
ความยาว159 นาที
ปี2022
สัญชาติสหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย23 มิถุนายน 2022
ผลิต/จัดจำหน่ายWarner Bros., Bazmark Films, Roadshow Entertainment

เอลวิส

พล็อตและบท - 7.7
การแสดง - 9
การดำเนินเรื่อง - 7.6
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.3
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 9

8.3

Elvis

ผลงานหนังชีวประวัติของราชันร็อกแอนด์โรลอย่างเอลวิส ผ่านสายตาของผู้พันปาร์คเกอร์ ผู้ปลุกปั้นและทำให้เขามีชื่อเสียงมากมายเกินคาดคิด นำเสนอมุมมองของความสัมพันธ์ บอกเล่าประวัติและตัวตน บวกกับการแสดงอันทรงพลังและใกล้เคียงตัวจริงมากมาย ปิดท้ายด้วยซีนเรียกน้ำตาได้แม้ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้

User Rating: 4.6 ( 1 votes)

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ