รีวิวซีรีส์ Link: Eat Love Kill | เชฟหนุ่มจิตเชื่อมโยง กับหญิงสาวที่มากับเหตุคนตาย

บางครั้งบางหนก็ต้องอึ้งในการจับเรื่องโน่นนี่นั่นมามัดรวมกันอยู่ในเรื่องเดียวของนักเขียนบทซีรีส์เกาหลีเขานะ มันดูยุ่งเหยิงอยู่ไม่น้อยเลยแหละที่ซีรีส์เรื่องหนึ่งจะเล่าความสัมพันธ์ของคู่หนุ่มสาว ควบคู่ไปกับเหตุฆาตกรรม พฤติกรรมที่ลึกลับชวนให้สงสัย ใส่ความเป็นซีรีส์อาหารเข้าไปในคาแรกเตอร์พระเอก ผสมพล็อตแฟนตาซีที่พาให้หลุดขำตาโตได้บ้าง การจับทุกอย่างรวมอยู่ในเรื่องเดียวได้จึงนับว่าน่าทึ่งมาก และอะไรแบบนั้นมันมาอยู่ในซีรีส์เรื่องนี้ ‘Link: Eat Love Kill’ หรือจะเรียกสั้นๆ ว่า ‘Link’ ก็ได้ครับ

ครั้งนี้ เป็นการโคจรมาพบกันของสองดารามีชื่อ ยอจินกู จาก ‘Beyond Evil’ กลายเป็นเชฟชื่อดังที่มีจิตใจเชื่อมโยงกับนางเอกที่รับบทโดย มุนกายอง จาก ‘True Beauty’ ทำให้มันกลายเป็นซีรีส์ที่น่าสนใจมากขึ้น กายองนอกจากมีความสวยเป็นทุนเดิมแล้วก็ยังสามารถเล่นบทคอมิดี้ได้ด้วย เมื่อมาเจอกับมาดนิ่งๆ ของจินกู ก็อาจส่วนผสมอีกแบบหนึ่ง แต่กับบทนี่ส่วนผสมค่อนข้างหลากหลาย

เมื่อเคล้ารวมกันแล้ว มันจะออกมารสชาติยังไงนะ?

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Link: Eat Love Kill’

คเยฮุน (Yeo Jin Goo/ยอจินกู จากซีรีส์เรื่อง ‘Hotel Del Luna’, ‘Beyond Evil’ และหนังเรื่อง ‘A Frozen Flower’) เชฟหนุ่มฝีมือดีที่มีอาการประหลาด จู่ๆ ก็ร้องไห้ จู่ๆ ก็ยิ้มอย่างไม่มีสาเหตุ ปรากฏการณ์ประหลาดเช่นนี้เคยเกิดขึ้นกับเขาตอนเป็นเด็ก เขาจะมีจิตที่สื่อกันได้กับน้องสาวฝาแฝด ถ้าเธอกำลังรู้สึกอะไรอยู่ เขาก็จะรู้สึกด้วย แต่อาการเช่นนี้มันหายมานาน 18 ปีแล้วตั้งแต่อึนคเยยองน้องสาวของเขาหายตัวไป แต่สาเหตุที่มันเกิดขึ้นครั้งนี้ เขาเองก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ก็คือ เขาเริ่มมีปัญหากับงานของตัวเองละ

และนั่นส่งผลให้เขากับรุ่นน้องคนสนิทอย่างชาจินฮู (Lee Suk Hyeong/อีซอกฮยอง จากซีรีส์ ‘Hometown Cha-Cha-Cha’ และ ‘Racket Boys’) ตัดสินใจย้ายกลับถิ่นเก่าอย่างจีฮวาดงที่ซึ่งน้องสาวของเขาหายตัวไป แต่ระหว่างทำร้านใหม่ เขาก็ได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาดอีกครั้ง จิตของเขาเชื่อมโยงกับใครอีกคนหนึ่ง และคเยฮุนก็เริ่มคิดไปว่า เธออาจเป็นน้องสาวที่หายไปตัวก็เป็นได้

ขณะที่ โนดาฮยอน (Mun Ka Young/มุนกายอง จากซีรีส์เรื่อง ‘True Beauty’,​ ‘Find Me in Your Memory’ และ ‘Welcome to Waikiki 2’) หญิงสาวที่ไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน พยายามรับจ็อบนู่นนี่แต่ก็ไม่พอค่าใช้จ่าย จนไม่อาจทนอยู่ในอพาร์ตเมนต์หลังนั้นได้อีกแล้ว ที่สุดก็กลับมาอยู่กับแม่และยายที่ทำร้านหม้อไฟอยู่ตรงข้ามกับร้านที่กำลังจะเปิดใหม่ของคเยฮุนพอดิบพอดี

คืนหนึ่ง ดาฮยอนเผชิญหน้ากับเหตุสตอล์กเกอร์ที่เดินตามมาถึงร้าน ลุกลามบานปลายกลายเป็นว่าชายผู้นั้นตายอยู่ในร้านของเธอ สุดท้ายแม่กับยายต่างช่วยกันย้ายศพไปทิ้งไว้ในตู้เย็นที่เข้าใจว่าเจ้าของตั้งทิ้งไว้รอเจ้าหน้าที่มาเก็บ แต่ก็กลับพบว่ามันคือ ตู้เย็นของคเยฮุนที่ขนย้ายเข้าไปในร้านแทน

รีวิวซีรีส์ ‘Link: Eat Love Kill’

แรกเริ่มมันก็เป็นซีรีส์ที่ดูไปก็ชวนสงสัยไป ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงได้ไหมหนอ นางเอกเจอสตอล์กเกอร์ [ซึ่งที่จริงก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันนั่นแหละ] บุกตามมาถึงบ้าน เธอถูกทำร้ายหัวฟาดพื้นจนเหมือนจะสลบไป รู้ตัวอีกที หนุ่มสตอล์กเกอร์คนนั้นก็ตายคาที่ไปซะแล้ว แถมแม่กับยายแทนที่จะแจ้งตำรวจ ก็กลับเกรงกลัวความผิด [หรืออะไรก็ไม่ทราบ] ขนย้ายศพไปทิ้งไว้ในตู้เย็นหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพราะคิดว่าเขาทิ้งแล้ว กระทำการสุ่มเสี่ยงมากๆ ความรู้สึกไม่สมเหตุสมผลผุดขึ้นในใจ แต่ก็ยังดูต่อ

หลากหลายพล็อตย่อยพันกันนัวเนีย

พระเอกมีความสามารถพิเศษ จิตสื่อกับน้องสาวฝาแฝดไม่พอ 18 ปีต่อมา จิตของเขายังสื่อกับนางเอกได้อย่างประหลาด อันนี้ก็แฟนตาซีละ คนหนึ่งเป็นเชฟย้ายกลับมาหมายเปิดร้านอาหารยุโรป อันนี้ซีรีส์อาหารชัดๆ ส่วนอีกคนชักหน้าไม่ถึงหลังต้องกลับมาอยู่บ้านตรงข้าม เลยได้เจออีกฝ่าย ฮันแน่ พล็อตโรแมนติกเริ่มมา ขณะที่แม่และยายของนางเอกก็ดูเหมือนชีวิตจะเกี่ยวข้องการฆ่าคนตายอยู่เนืองๆ อันนี้ก็แนวฆาตกรรมละนะ ทั้งบทยังค่อนข้างปิดบังชวนกังขา ใครทำอะไร ใครเป็นคนดีใครเป็นคนร้ายกันแน่ อันนี้ก็ไปทางซีรีส์ลึกลับละ ไม่เท่านั้น บางทีก็มีฉากโก๊ะๆ ฮาๆ พาให้คิดว่าเป็นซีรีส์คอมิดี้อีกต่างหาก

จากที่คิดว่ามันจะเป็นรอมคอม แต่เอาเข้าจริงกลับเป็นอะไรมากกว่านั้น

บอกเล่าเรื่องสตอล์กเกอร์และความรุนแรงในครอบครัว

แม้เรื่องฆาตกรรมจะถูกเล่ามาอย่างมีเงื่อนงำและชวนให้รู้สึกถึงความแฟนตาซีจิตสื่อถึงกันอะไรงิ แต่เท่าที่สัมผัสก็พบว่า บทถูกเขียนขึ้นมาด้วยการหยิบเอาด้านลบในสังคมที่ผู้หญิงต้องเผชิญมาพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นกรณีของหญิงสาวที่ต้องเดินกลับบ้านคนเดียวในเส้นทางเปลี่ยวๆ มืดๆ อาจถูกสตอล์กเกอร์ติดตาม ทำให้ผู้หญิงต้องเดินไปอย่างหวาดระแวงกลัวจะถูกทำมิดีมิร้าย รายนี้ ตามถึงบ้านจนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและถูกทำร้าย

แต่มันกลายเป็นการฆาตกรรมไปได้ไงนี่ ต้องตามต่อเอาเองนะ

ความรุนแรงในครอบครัวก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งก็ถูกเล่าถึง ผู้หญิงคนนึงในเรื่อง เธออยู่กินกับสามีแต่ถูกทำร้ายตบตีบ่อยครั้ง เธอไม่อาจจะหย่าหรือหลบไปไหนได้เพราะครอบครัวเธอจะเดือดร้อน คิดหนักจนถึงขนาดจ้างคนมาฆ่าสามีตัวเองเลยด้วยซ้ำ

ผ่านไปเพียง 4 ตอนแรก ยังเหลืออีกตั้ง 12 ตอน บทซีรีส์อาจสะท้อนเรื่องราวด้านมืดในสังคมที่ผู้หญิงต้องรับมือกับมันได้มากกว่าอีกเป็นได้

ตัวละครอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เอาจริงๆ ซีรีส์เรื่องนี้มีตัวละครอยู่เยอะมากๆ ไม่ใช่คนหมู่คนในย่านจีฮวาดงเท่านั้น ยังมีเหล่าตำรวจในกองบังคับการสายตรวจจีฮวา หมู่จี – จีวอนทัก (Song Duk Ho จากซีรีส์ ‘Juvenile Justice’, ‘Moonshine’ และ ‘Taxi Driver’) ที่เพิ่งย้ายมาเป็นตำรวจสายตรวจอยู่ที่นี่ เขาได้เจอหน้าจ่าฮวัง – ฮวังมินโจ (Lee Bom Sori จากซีรีส์ ‘Doctors’) แฟนเก่าที่ตอนนี้กลายเป็นตำรวจหญิงยศสูงกว่า เธอจึงกลายเป็นพี่เลี้ยงของเขาไปทั้ง 6 เดือน ทั้งสองคนต่างมองเห็นความน่าสงสัยของสามสาวร้านหม้อไฟและร้านอาหารยุโรปที่เพิ่งมาใหม่ ขณะเดียวกันก็มีปัญหาแบบอดีตคนเคยๆ ที่ต้องมาทำงานร่วมกัน แถมฝ่ายชายยังกลายเป็นตำรวจยศต่ำกว่าฝ่ายหญิง ก็กลายเป็นคู่ฮาอีกคู่ในเรื่อง

นอกจากนี้ ก็ยังมี อีอึนจอง (Lee Bom จากซีรีส์ ‘Juvenile Justice’) น้องสาวของสตอล์กเกอร์อีจินกึน (Shin Jae Hwi จากซีรีส์ ‘All of Us Are Dead’ และ ‘True Beauty’) ที่มาสมัครทำงานในร้านของพระเอกเพื่อตามหาพี่ชายที่หายไปด้วย

ชีวิตที่ต้องดิ้นรนของคนในเมืองหลวง ส่วนหนึ่งคือ การที่ต้องทำงานหาเงินเพื่อให้พอกินและอยู่ในอพาร์ตเมนต์ แน่นอนว่า เมื่อไม่สามารถทำได้ก็ต้องจำใจย้ายกลับมาบ้าน อีกทั้งยังได้มาพบเจอกับปริศนาบางอย่าง ไม่ว่าจะกับเชฟหนุ่มสุดหล่อที่มีจิตเชื่อมโยงกับตัวเธอเอง หรือต้องเผชิญกับครอบครัวที่พัวพันกับเงื่อนงำอันน่าสงสัยในอดีตและปัจจุบัน นับว่าโนดาฮยอนมีชีวิตที่ยุ่งเหยิงไม่ใช่น้อยเลย คนดูเองก็เช่นกัน ที่ต้องติดตามดูซีรีส์เพื่อจะตอบคำถามในใจว่า ใครกันแน่ที่ฆ่าหนุ่มสตอล์กเกอร์คนนั้น แล้วศพของเขาในตู้เย็นนั้นหายไป เชฟหนุ่มจะรู้เห็นหรือปิดบังอะไรไว้หรือไม่ แม่กับยายของเธอจะทำอะไรอีก เหตุการณ์ในอดีตที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของน้องสาวฝาแฝดของเชฟหนุ่มยังคงไม่ถูกเปิดเผย การกลับมายังย่านที่น้องสาวหายไปทำให้ได้เจอกับคนที่เกี่ยวข้อง แล้วกลุ่มตำรวจทั้งหลายล่ะ พวกเขาจะช่วยแก้ไขเงื่อนงำเหล่านี้ได้สักแค่ไหนกัน

โอ้ว! ปริศนาเยอะไปหมด สงสัยต้องดูกันยาวๆ กับซีรีส์ที่เคล้าหลากรสในเรื่องเดียวเช่นนี้แล้วล่ะ

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์