รีวิวซีรีส์ The Fabulous หรู เริ่ด เชิด โสด | สี่เพื่อนซี้หัวใจแฟชั่น

ดูเหมือนพล็อตแวดวงแฟชันยังไม่ห่างหายไปจากซีรีส์เกาหลี ในแต่ละปี แม้จะมีไม่เยอะแต่ก็ไม่เคยขาดหาย ปลายปีนี้มีอีกเรื่องที่เลื่อนฉายมาแต่ว่าก็ออนทีเดียวพร้อมกันตั้งแต่ต้นยันจบ นายแพทกำลังพูดถึง ‘The Fabulous’ หรือชื่อไทยๆ ว่า ‘หรู เริ่ด เชิด โสด’ ที่เล่าเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่ดิ้นรนอยู่ในแวดวงดังกล่าว

มิตรภาพของกลุ่มเพื่อนมักจะก่อเกิดขึ้นมาในช่วงที่พวกเขายังเรียนอยู่ด้วยกันในสถานศึกษา ช่วงเวลานั้น พวกเขาคงไม่ค่อยรู้สึกถึงการแข่งขันระหว่างกันมากนัก อีกอย่าง เมื่อเรียนจบออกมา ทั้งสี่ก็อุทิศชีวิตให้กับวงการแฟชั่นตามความถนัดที่แตกต่างแต่เกื้อหนุนกัน ส่งผลให้ความเป็นเพื่อนยังคงสนิทแน่น แม้บางส่วนในกลุ่มจะคบเป็นมากกว่าเพื่อนไปบ้างก็ตาม

และกับซีรีส์ความยาว 8 ตอนแบบนี้ ไม่น่าจะใช้เวลานานในการรับชม

เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Fabulous’

มันเป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนทั้งสี่ที่คบหากัน กินเหล้า ปาร์ตี้ ทำงานอยู่ในแวดวงแฟชั่นและเป็นเซฟโซนให้แก่กันเรื่อยมา เริ่มต้นด้วยคนแรก พโยจีอึน (Chae Soo Bin/แชซูบิน จากซีรีส์เรื่อง ‘I’m Not a Robot’, ‘Strongest Deliveryman’ และหนังเรื่อง ‘Sweet & Sour’) เธอเป็นหัวหน้าทีมในฝ่ายการตลาดของตัวแทนโฆษณา (PR Agency) นามออเดรย์ที่โปรโมตแบรนด์ไฮเอนด์ เธอรักงานของเธอ แต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นงานที่กัดกินชีวิตของเธอไปไม่น้อยเหมือนกัน

สองคือ จีอูมิน (Minho/ชเวมินโฮ แห่งวง SHINee จากซีรีส์เรื่อง ‘Yumi’s Cells’, ‘Lovestruck in the City’ และ ’18 Again’) หนุ่มตากล้องที่เคยเป็นแฟนกับจีอึน แม้จะเลิกกันไปแต่ก็ยังคบหาเป็นเพื่อน? กันอยู่

มาถึงคนที่สาม โจเซฟ (Lee Sang Un จากซีรีส์เรื่อง ‘Lovers of the Red Sky’ และ ‘The Good Detective’) ชื่อในวงการ เขาเป็นดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ตัวเอง แต่ก็เป็นแบรนด์ท้องถิ่นที่ยังประสบปัญหาและต้องดิ้นรนอยู่ กับคนสุดท้าย เยซอนโฮ (Park Hee Jung/พัคฮีจอง นางแบบที่เพิ่งมาจับงานแสดงเรื่องแรก) เธอเป็นนางแบบที่กำลังค้นหาเส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์ของตนอง

มันคือการดิ้นรนบนเส้นทางแห่งแวดวงแฟชั่นที่แตกต่างกันไป แต่กลับเชื่อมโยงพวกเขาทั้งสี่ไว้อย่างเหนียวแน่นเหลือเกิน

รีวิวซีรีส์ ‘หรู เริ่ด เชิด โสด’

ช่วงนี้ซีรีส์เกาหลีทางเน็ตฟลิกซ์มีหลายเรื่องเหมือนกันที่ลงสตรีมทีเดียวไม่ต้องรอ ทำให้ต้องเลือกหน่อยว่าจะเปิดดูเรื่องไหนกันดี หลายครั้งก็ไม่ได้สนใจพล็อตเรื่องเท่ากับนักแสดงนำ ทำให้วันนี้ เลือกจะดูซีรีส์ที่เล่าเรื่องคนในแวดวงแฟชั่นซึ่งก็ไม่ใช่แนวทางของนายแพทสักเท่าไหร่

เพื่อนต่างแนวที่อยู่ในแวดวงเดียวกัน

มองดูรวมๆ แล้ว มันคือซีรีส์ที่เล่าเรื่องเพื่อนสนิท 4 คนที่เรียนมาด้วยกันและต่างคนต่างก็มีความสามารถกันคนละอย่าง จีอึนที่ทำด้านการตลาด อูมินที่เป็นตากล้อง โจเซฟที่เป็นดีไซเนอร์ และซอนโฮที่เป็นนางแบบ แม้ทั้งสี่จะมีความสามารถที่แตกต่างกันแต่ก็วนเวียนอยู่ในวงการแฟชั่นเหมือนๆ กัน แถมยังเป็นเซฟโซนให้แก่กันได้เสมอมา พวกเขามักจะปาร์ตี้กันอย่างสม่ำเสมอ ปรับทุกข์ และช่วยเหลือเกื้อกูลกันอยู่ไม่ห่าง

นอกเหนือจากทั้งสี่คนจะเกื้อหนุนซึ่งกันและกันแล้ว โจเซฟ ดีไซเนอร์หนุ่มเกย์ที่กำลังดิ้นรนเพื่อสร้างการยอมรับและความสำเร็จในฐานะเจ้าของแบรนด์ เขามีเอสเธอร์ (Lee Si Woo/อีซีอู จากซีรีส์เรื่อง ‘Sh**ting Stars’, ‘Sisyphus: The Myth’ และ ‘Money Heist: Korea – Joint Economic Area’) ที่เป็นผู้ช่วยและผู้ให้กำลังใจของเขาด้วย

อินกับเรื่องราวความรักมากกว่าเรื่องแวดวงแฟชั่นอีก

แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ จะเล่าเรื่องราวของการดิ้นรนและเติบโตในเส้นทางสายแฟชั่นของตัวละครเพื่อนสนิททั้งสี่ แต่ขึ้นชื่อว่าซีรีส์เกาหลี ยังไงก็คงไม่พ้นมีเรื่องความรักเข้ามาเป็นส่วนผสมอันสำคัญอยู่แล้ว อย่างในเรื่องนี้ ค่อนจะให้ความสำคัญกับความรักของนางเอกเป็นพิเศษ จีอึนเคยคบหากับ 1 ในกลุ่มเพื่อนสนิท เขาคือ อูมินตากล้องที่ชอบถ่ายภาพสตรีท เพราะความเนิบช้าทำให้ดูคล้ายเป็นคนไม่มีแพชชัน และเพราะแสดงออกไม่เก่งจึงทำให้ดูเข้าใจยาก สุดท้ายเขาก็กลายเป็นแฟนเก่าของจีอึนมาปีกว่า ก่อนที่อูมินจะได้รู้เสียทีว่าถึงเวลาตามหัวใจตัวเองกลับคืน สารกระตุ้นชั้นดีของเรื่องนี้ คือชายหนุ่มสุดหล่อโปรไฟล์ดีอย่าง อีนัมจิน (Choi Won Myeong/ชเววอนมยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Wok of Love’) แฟนคนล่าของจีอึนที่เพิ่งเลิกรากัน

แต่ในระหว่างที่จีอึนกำลังเว้นวรรคนั้น เธอก็กลับเป็นหญิงสาวเนื้อหอม เมื่อมี ชิมโดยอง (Kim Min Kyu/คิมมินคยู จากซีรีส์เรื่อง ‘Seasons of Blossom’)​ เด็กหนุ่มอีกคนจู่โจมเข้าหา บทซีรีส์ช่วงหนึ่งมันก็เลยเป็นรักสี่เส้าที่ชวนน่าติดตามยิ่งกว่าเรื่องเบื้องหลังวงการแฟชั่นเสียอีก

แต่ก็มีบางส่วนที่รู้สึกไม่เท่าไหร่

ด้วยความที่ไม่ค่อยจะอินหรือเข้าใจวงการแฟชั่นเท่าใดนัก ก็เลยอาจต้องใช้เวลาทำความเข้าใจอยู่สักนิดหนึ่ง ขณะที่บทของซีรีส์ก็พาเราไปทำความรู้จักกับผองเพื่อน ชีวิตการทำงานที่เต็มเปี่ยมด้วยความฝัน ใน 2 ตอนแรกนั้น มันพาให้เราอินไปด้วยอย่างมาก โดยเฉพาะกับภาพของความรักความสัมพันธ์ของนางเอกกับหนึ่งแฟนเก่าที่กลับมาเป็นเพื่อนและอีกหนึ่งแฟนใหม่ที่กำลังกลายเป็นแฟนเก่า พร้อมๆ กับภาพของชีวิตส่วนตัวที่ซ้อนทับกับชีวิตการงาน แต่หลังจากนั้น มันกลับให้ความรู้สึกในอีกแบบหนึ่ง

มีบางจุดที่รู้สึกว่า โปรดักชั่นและบทดูจะยังไปไม่ถึงความคาดหวัง โดยเฉพาะโปรดักชั่นที่ทำให้ไม่เชื่อในความเป็นซีรีส์แนวแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นฉากการเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ที่ดูไม่ว้าว กระเป๋าไอเดียแหวกที่ดูไม่น่าจะขายออก หรือแม้กระทั่งฉากเล็กฉากที่พยายามจะส่งให้เห็นว่านางเอกคือคนที่ไอเดียบรรเจิดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งแต่งานที่ออกมากลับดูไม่โปรอย่างที่ควรจะเป็น รวมไปถึงการบอกเล่าถึงไอคอนตัวพ่อด้านแฟชั่นเชื้อสายเกาหลีที่ไปเอาดีในฝรั่งเศส

หลายครั้งของการแสดงที่ดูล้นเกินไป ชวนให้รู้สึกว่าตัวเองกำลังติดตามเรื่องไปอย่างแกนๆ ไม่ได้อิน ไม่ได้ฮา ไม่ได้ฟีลลิ่งเท่าที่ควร และ ‘หรู เริ่ด เชิด โสด’ ต้องการเป็นซีรีส์ที่ต้องฝีนดูเพื่อไปต่อให้จบ ทั้งๆ ที่ แชซูบิน ก็เล่นได้ดี มีทั้งความสวย ยิ้มทีโลกสดใส น้ำตาไหลทีเศร้าซึมตาม แต่บทบาทอื่นกลับไม่ชวนอิน

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์