รีวิวซีรีส์ Vincenzo วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย | มาเฟียหน้าใสกับทนายสไตล์โคเรียน

ซีรีส์เกาหลีที่ผมเคยผ่านตาไม่ค่อยมีเรื่องไหนเป็นสไตล์เจ้าพ่อกันสักเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้นับว่าเล่นใหญ่พอสมควรที่ให้พระเอกเป็นมาเฟียอิมพอร์ตจากอิตาลี ‘Vincenzo’ หรือชื่อไทย ‘วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย’ แต่ก็คือหยิบสไตล์และบุคลิกของมาเฟียมาใช้ในคาแรกเตอร์ทนายนั่นแหละ ซึ่งก็นับได้ว่าน่าสนใจตั้งแต่ตอนได้ทราบข่าวว่านักแสดงนำเรื่องนี้จะเป็น ซงจุงกิ

ซีรีส์จากค่าย tvN ที่มีฉายสัปดาห์ละสองตอนให้คนไทยได้ดูแบบถูกลิขสิทธิ์กันทาง Netflix ผลงานการกำกับของ Kim Hee Won/คิมฮีวอน ที่มีเครดิตจาก ‘The Crowned Clown’ อีกทั้งยังได้นักแสดงมากฝีมือที่คนไทยชื่นชอบ อย่าง ยูแจมยอง มาร่วมเปิดเรื่องเอาไว้เสียด้วย

แล้วก็ได้เวลาพิสูจน์กันว่าจะอลังการงานสร้างและสนุกน่าติดตามขนาดไหน

เรื่องย่อซีรีส์ Vincenzo

เด็กชายชาวเกาหลีคนหนึ่ง พัคจูฮยอง เคยถูกนำตัวไปเลี้ยงดูในอิตาลีตั้งแต่ยัง 8 ขวบ และเมื่อเขาเติบโตเป็นชายหนุ่มในชื่อ วินเชนโซ่ กาซาโน่ (Song Joong Ki/ซงจุงกิ) เขากลายเป็นคอนซิลรีแย หรือหน้าที่ทนายที่ปรึกษาของแก๊งมาเฟีย ในวันที่นายใหญ่ตายไป วินเชนโซ่กระทำในสิ่งที่ผู้เป็นนายฝากฝังไว้ และเพราะความขัดแย้งภายใน เขาจึงพบว่าตนไม่ควรจะอยู่ในอิตาลีอีกต่อไปและเลือกเดินทางกลับเกาหลีใต้บ้านเกิด

วินเชนโซ่ ฝังตัวอยู่กับตึกกึมกาพลาซ่าที่ที่เขาเคยสร้างห้องนิรภัยและเก็บทองคำมูลค่ามหาศาลไว้ แต่มันกำลังจะถูกรื้อถอนจากบาเบลกรุ๊ปที่เป็นกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ จึงต้องใช้ทุกวิถีทางหยุดยั้ง ทำให้เขาได้รู้จักกับทนายสิทธิมนุษยชนนาม ฮงยูชาน (Yoo Jae Myung/ยูแจมยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Itaewon Class’, ‘Stranger’ และ ‘Prison Playbook’) ที่ช่วยชาวบ้านปกป้องที่แห่งนี้

แต่ระหว่างนั้น เหตุการณ์ก็กลับพลิกผัน ทำให้เขาต้องมาร่วมต่อสู้กับเครือข่ายธุรกิจยักษ์จอมฉ้อฉลกับลูกสาวของทนายฮง

ฮงชายอง (Jeon Yeo Bin/จอนยอบิน จากซีรีส์เรื่อง ‘Be Melodramatic’, ‘Live’ และหนังเรื่อง ‘Secret Zoo’) เป็นทนายสาวในสำนักทนายอูซังที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพ่อตัวเองมาตั้งแต่พ่อทิ้งแม่ไป แต่ในใจเธอก็ยังรักพ่อไม่เปลี่ยนแปลง แล้ววันหนึ่ง เหตุการณ์ทุกอย่างก็ผลักดันให้เธอต้องออกจากอูซังมาร่วมกับวินเชนโซ่รับช่วงต่อสำนักงานทนายฟางข้าวของพ่อ

และจัดการพวกชั่วให้สิ้นซากด้วยกฎหมายและวิธีการแบบมาเฟียๆ

รีวิวซีรีส์ ‘วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย’

หลังจากแฟนๆ ของจุงกิได้พบกับผลงานของเขาในภาพยนตร์ไซไฟอวกาศเรื่อง ‘Space Sweepers ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล’ กันไปแล้ว ภายในเดือนกุมภาพันธ์ก็ยังมีซีรีส์อีกเรื่องตามมาติดๆ

เรื่องราวที่เปิดเรื่องมาก็จะอินเตอร์ๆ หน่อย ด้วยการเล่าถึงวีรกรรมสุดอึ้งสุดทึ่งของวินเชนโซ่ ก่อนที่จะรู้ตัวว่าไม่ควรจะอยู่ที่นั่นอีกต่อไป แถมเขาก็ลืมตาดูโลกมาได้นานพอที่จะหวนกลับสู่บ้านเกิดกันเสียที นั่นแหละ เขาจึงนั่งเครื่องกลับมาหมายเอาทองที่ซ่อนไว้ใต้ตึก แต่แค่จะเอาออกมาได้ มันไม่ง่ายขนาดนั้น!

จากทนายมาเฟีย กลายเป็นทนายเกาหลีที่มีความคิดแบบมาเฟียๆ

เปิดตัวมาด้วยฉากทำลายล้างแบบอลังการบนแผ่นดินอิตาลี หมายจะบ่งบอกตัวตนความโหดเหี้ยมภายใต้ความหล่อเหลาของวินเชนโซ่ หนุ่มเชื้อชาติเกาหลีที่ไปเติบโตอยู่ภายใต้ร่มเงาของแก๊งมาเฟียยักษ์ใหญ่ ก่อนที่เขาจะกลับมายังคาบสมุทรที่ให้กำเนิดเขา ด้วยเหตุผลอันหลายหลาก

ไม่ว่าจะเป็น การมาเอาทองที่ใส่ตู้นิรภัยเก็บไว้ใต้ตึกกึมกาพลาซ่าแห่งนั้น หรือการเฝ้าดูมารดาที่เคยทิ้งเขาไปตั้งแต่เด็กหากตอนนี้เธอต้องผจญกับโรคร้ายรุมเร้าและอาจเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่ไปๆ มาๆ จากที่คิดว่าจะทำหน้าที่ทนายที่ตนเองถนัดเพื่อเก็บตึกเก่าเอาไว้รอถล่ม เขากลับมาผจญกับเหล่าเครือข่ายธุรกิจที่มีเบื้องหลังเลวร้าย กับสำนักงานทนายความที่คบคิดกันปกปิดกลบเกลื่อนความผิดให้ แม้เขาจะมีความคิดแบบมาเฟียๆ แต่เขาไม่ใช่คนเลว

แต่เขาต้องการทำลายคนชั่วด้วยวิธีการแบบมาเฟียต่างหาก

งานนี้เขาจะได้เจอกับทนายความหญิง ฮงชายอง ผู้เย็นชา หญิงสาวที่ไม่ค่อยลงรอยกับพ่อของเธอเอง เดิมทีทั้งสองคนอยู่กันคนละฝั่งและต้องมาต่อสู้กันเองในชั้นศาล เป็นเธอเองที่อยู่ในสำนักงานทนายความที่คอยกลบเกลื่อนความผิดให้กับกลุ่มธุรกิจใหญ่ที่เบื้องหลังเลวร้าย แต่ซีรีส์ก็จะค่อยๆ บอกกับเราเองว่า เหตุผลนั้นมันเกิดขึ้นเพราะอะไร และทำไมวันหนึ่ง เธอจึงเลือกมาร่วมกันกับวินเชนโซ่และหันกลับไปเล่นงานกลุ่มธุรกิจเหล่านั้น

ด้วยวิธีการแก้ไขปัญหาแบบมาเฟียอิตาลีของวินเชนโซ่!

รวมนักแสดงมากหน้ามาร่วมกันฟาดฟัน

ในเรื่องนี้มีตัวละครโดดเด่นอยู่หลายตัวนอกเหนือจาก วินเชนโซ่ (Song Joong Ki/ซงจุงกิ) ทนายมาเฟียหนุ่มสุดหล่ออิมพอร์ตจากอิตาลี ฮงชายอง (Jeon Yeo Bin/จอนยอบิน) ทนายความสายไฝว้ลูกสาว ฮงยูชาน (Yoo Jae Myung/ยูแจมยอง) ที่เป็นทนายความผู้มุ่งมั่นทำเพื่อผู้คน

ก็ยังจะมี จุนอู (TaecYeon/แทคยอน จาก 2PM) เด็กฝึกงานที่แสดงตัวว่าชอบชายองตอนอยู่ซังอู ที่ต่อมาก็กลายเป็นตัวละครสำคัญไปซะได้ ประธานจางฮันซอ (Kwak Dong Yeon) นักธุรกิจหนุ่มที่ดูแลธุรกิจใหญ่ที่ดูเหมือนจะมีคนใหญ่กว่า แล้วก็ยังมี ชเวมยองฮี (Kim Yeo Jin) อดีตอัยการที่ผันตัวมาเป็นทนายความและเป็นรองประธานในสำนักทนายอูซัง เธอไม่ธรรมดา รอบจัด และเลวจนสมควรจะได้เจอคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้ออย่างคู่พระนางจริงๆ

สามตอนแรกที่แสนเอื่อย ก่อนจะเริ่มเข้าทีในตอนสี่

วีรกรรมของวินเชนโซ่ที่ก่อไว้ในอิตาลีนี่เข้าขั้นโหดเหี้ยมและอลังการ แต่พอกลับมาเกาหลีเรียกได้ว่า แสงความเป็นมาเฟียแทบจะเหือดหายไปเลย หนึ่งก็คงเพราะครั้งนี้เขาเหลือตัวคนเดียว ไม่มีลูกน้องติดตาม อีกทั้งก็ยังอยู่ในเกาหลีที่ผู้คนไม่ได้รับอนุญาตให้พกปืน แต่ก็ทำให้เราได้เห็นมุมดีๆ ของผู้ชายคนนี้อยู่บ้าง แม้หลายอย่างอาจจะทำไปเพราะแรงจูงใจที่อยู่ใต้ตึกนั้นก็ตาม

ซีรีส์เรื่องนี้ ดูจะอุ่นให้ร้อนช้าอยู่สักหน่อย เพราะสามตอนแรกเหมือนพยายามปูพื้นให้รู้จักกับแต่ละฝั่งฝ่ายว่าดีเลวยังไง มีที่มาแบบไหน จนกลายเป็นว่า ให้เวลากับตัวละครตัวเล็กตัวน้อยมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเหล่าพ่อค้าแม่ค้าผู้ประกอบการที่ทำมาหากินอยู่ในตึกกึมกาพลาซ่าแห่งนั้นที่คนเขียนบทใส่คาแรกเตอร์ความล้นเข้าไป หลายครั้งมันก็กลายเป็นความน่าเบื่อเพราะเราไม่อิน ไม่เก็ท ไม่ขำ ไปกับพวกเขา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะการกำกับหรือการตีความของนักแสดงเอง

หรืออาจจะเป็นที่เราไม่เก็ทไปเองก็เป็นได้ทั้งนั้น

หลายคนอาจจะรู้สึกว่านางเอกของเรื่องอย่าง Jeon Yeo Bin/จอนยอบิน ดูไม่สวย ไม่มีเสน่ห์มากพอ แต่เท่าที่ดูนั้น บางมุมเธออาจจะดูเฉยๆ แต่อีกช็อตก็กลับพบว่า เออ สวยดีแฮะ ทั้งนี้ บทบาทและคาแรกเตอร์ของเธอนั้นจะเป็นฮงชายองที่มีทั้งบุคลิกจริงจังและความล้น อันที่จริง ผมชอบเธอในมุมจริงจังมากกว่า ขณะที่ช็อตล้นๆ ทั้งหลายคือไม่อิน ไม่รู้สึกตลกแต่อย่างใด

หลังจากปูกันมาเนิ่นนาน 3 ตอน กว่าที่ตัวละครพระนางจะได้มาต่อสู้ร่วมกันก็ปาเข้าไปตอนที่สี่

เรื่องราวเริ่มจะมีอะไรเข้ามามากขึ้น มีพลิกผัน มีเปลี่ยนแปลง และมองเห็นสองฝ่ายที่หันหน้าเข้ามาต่อสู้กันถึงพริกถึงขิงมากขึ้น แถมตัวละครบางตัวก็ประกาศตัวตนที่แท้จริง

จากที่เอื่อยๆ มาตลอดสามตอนจนชวนเทก็เริ่มทำให้จิตใจปรับเปลี่ยนท่าที

จอนยอบิน ก็เริ่มเปลี่ยนทรงผม ตัวละครของเธอพบเจอเหตุการณ์สะเทือนใจที่ไม่คาดคิด ทำให้เธอเลือกจะลาออกแล้วหันไปอยู่ฝั่งสำนักงานฟางข้าว ขณะเดียวกัน ชเวมยองฮี อดีตอัยการที่ออกมาอยู่ร่วมกับสำนักทนายอูซัง ก็ออกอาการเลวร้ายขึ้นทุกวันจนสร้างความคับแค้นให้กับเธอไม่หยุด การที่ฮงชายอง ทนายหญิงที่จริงจังและกัดไม่ปล่อย เมื่อผสานมือกับวินเชนโซ่ผู้เป็นอดีตทนายในแก๊งมาเฟียอิตาลี งานนี้จึงน่าจะได้เวลาแซ่บและมันกันเสียที ใครที่เริ่มดูอาจจะต้องใช้ความอดทนอยู่สักหน่อยกับการปูพื้นที่ยาวนาน 3 ตอนเต็ม

งานนี้ทนายมาเฟียน่าจะสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับทนายสายไฝว้มากพอดู ขณะเดียวกัน คู่ปรับจากอิตาลีอาจจะกลับมาตลบหลังวินเชนโซ่เมื่อไหร่ก็ได้อีกต่างหาก

หวังให้ตอนที่เหลือออกมาสนุกปังๆ

ชื่อซีรีส์: Vincenzo / วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย / 빈센조
ผู้กำกับการแสดง: Kim Hee Won/คิมฮีวอน (เจ้าของผลงานอย่าง ‘The Crowned Clown’, ‘Money Flower’ และ ‘Glamorous Temptation’)
ผู้เขียนบท: Park Jae Bum/พัคแจบอม (เจ้าของผลงานอย่าง ‘Blood’, ‘The Fiery Priest’ และ ‘Good Manager’)
นักแสดง: Song Joong Ki/ซงจุงกิ, Jeon Yeo Bin/จอนยอบิน, TaecYeon/อกแทกยอน, Yoo Jae Myung/ยูแจมยอง,
แนว/ประเภท: Comedy, Crime, Romance 
จำนวนตอน: ซีซัน 1 จำนวน 20 ตอน
ช่องทางรับชม: Netflix
ช่วงเวลาเริ่มออกอากาศ: 20 กุมภาพันธ์ 2021
สังกัด/ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์: tvN, Logos Film, Studio Dragon