รีวิว หนีตามกาลิเลโอ | ใช้ 2 ชั่วโมง นั่งมอง 2 สาว ‘ต่าย-เต้ย’

หลังจากเขียนไปแล้ว ทั้ง “ใกล้ได้เวลา หนีตามกาลิเลโอ” และ “Poster, Trailer และ MV จาก หนีตามกาลิเลโอ” วันนี้ ผมได้ดูแล้วครับ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ‘หนีตามกาลิเลโอ / Dear Galileo’

ส่วนหนึ่งของภาพโปรโมตหนัง ‘Dear Galileo’

ตามไปดู น้อยต่าย กับ น้องเต้ย หนีปัญหาไปเที่ยวต่างประเทศกัน แถม 3 ประเทศที่ไป ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวและทัศนียภาพน่าไปเยือนอยู่แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงดูจะมีจุดขายที่ภาพของสองสาวนักแสดงนำที่ดึงดูดหัวใจหนุ่มๆ และภาพของ 3 เมือง 3 ประเทศที่ดึงดูดหัวใจคนอยากไปเที่ยว (แต่ยังไม่มีปัญญา) ยิ่งนัก

เรื่องราวของ 2 สาวที่คนหนึ่งอกหักรักคุด (เอ หรือเพราะตัวเองทำตัวเองก็ไม่รู้) จากแฟนที่ชื่อตั้ม กับอีกคนที่ติด F เพราะปลอมลายเซ็นอาจารย์ โดดบันจี้จัมพ์ก่อนหนีไปเสิร์ฟๆ เที่ยวๆ อยู่ในยุโรป

เรื่องราวที่ไม่น่าจะมีอะไรมาก ทีมงานเขียนบทจึงนำ “กาลิเลโอ” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

จาก ลอนดอน ไป ปารีส แล้วไปสิ้นสุดที่ เวนิส บ้านของกาลิเลโอ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นเหมือนสารดคีนำเที่ยวในรูปแบบหนังใหญ่ ผ่านตัวละครสำคัญเพียง 3 ตัว เชอร์รี่ (ต่าย ชุติมา) นุ่น (เต้ย จรินทร์พร) และ ตั้ม (เร แมคโดนัลด์) ตัวละครหลักตัวสุดท้าย เป็นบุคคลที่สองสาวไปเจอเขาที่ปารีส

หนังมุ่งไปที่เรื่องราวของ “เพื่อน” และ “ครอบครัว”

ความสัมพันธ์ระหว่างเชอร์รี่และนุ่น ที่สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน แต่เมื่อต่างคนได้มาพักอาศัยอยู่ร่วมกัน ความแตกต่างทางนิสัยและความคิดจึงอาจก่อให้เกิดรอยแยกขึ้น ซึ่งนั่นก็ช่วยให้ตัวละครได้รับบทเรียน ซึ่งนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงทางความคิดในเวลาต่อมาได้ ความมุทะลุและมั่นใจในตัวเองของเชอร์รี่ กับ ความมองโลกในแง่ดีและอ่อนไหวของนุ่น เมื่อชีวิตเดินทางไปพบบุคคลที่สาม ตั้ม ชายที่ชื่อเดียวกับคนรักเก่าที่เพิ่งเลิกลากันมาของนุ่น กลายเป็นตัวเร่งให้เกิดการโตขึ้นทางความคิดได้


ด้วยทีมงานที่เป็นกลุ่มเล็กๆ การทำงานคงไม่ต้องทะเลาะกันมาก แต่ต้องเหนื่อยหน่อย เพราะทำกันคนละหลายๆ หน้าที่ การถ่ายทำก็เน้นไปที่แบบ Handheld เสียเกือบหมด

มุกฮาๆ ในหนังมีแทรกมาอยู่เรื่อยๆ ผนวกกับความน่ารักของสองสาว ก็ทำให้หนังเรื่องนี้น่ารักน่าดูมิใช่น้อย แม้บางมุกจะมีคนเล่นมาแล้วก็เถอะ แค่ได้นั่งดูเต้ยกับต่ายบนจอใหญ่ก็แช่มชื่นหัวใจยิ่งนักแล้ว ฉากแรกๆ อาจจะรู้สึกว่า เต้ยไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ แต่ช่วงถัดมา ค่อยพบว่า แต่งหน้าเต้ยให้ดูดีขึ้นเรื่อยๆ นะ ผมว่า

ในส่วนของเพลงประกอบ หลายเพลงฟังแล้วชอบ อยากจะเก็บมาฟังเพลินตอนทำงานจัง พอมาเจอตอน end title ถึงรู้ว่าเป็นผลงานของ? หัวลำโพงริดดิม นั่นเอง

ได้เห็น gimmick เล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้กำกับกลุ่มแฟนฉันมักสร้าง ก็เช่น ชื่อของเชอร์รี่ พี่ขององุ่น ที่มีชื่อจริงว่า “ชินานาฎ ธราธร” นั่น เล่นเอานามสกุลผู้กำกับมาใส่ ส่วน นุ่น ชื่อจริง Nitta ไม่รู้สะกดยังไง และนามสกุลอะไรเหมือนกัน ขณะที่ฝ่ายชาย เลือกที่จะให้ชื่อ “ตั้ม” เหมือนกันอีก แต่ ตั้ม (ปารีส) นั้นชื่อจริงว่า “ภิสิทธิ์” ผมเติม “อ” ไว้ในใจแล้ว เหอๆ

โปสเตอร์หนัง ‘Dear Galileo’

หนังเล่าเรื่องโดยเน้นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนยังไม่พอ ยังเลือกที่จะเน้นกับเรื่องของ “ทำผิดก็ต้องยอมรับว่าผิด” อยู่พอสมควรทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีไดอะล็อกที่โดนใจผมที่ออกมาจากปากตั้ม (ปารีส) ซึ่งค่อนข้างจะวิพากษ์สังคมไทยอยู่นิดหน่อย


เรื่องนี้ ไม่ค่อยเน้นนักแสดงรับเชิญ เพราะไปถ่ายทำกันถึงเมืองนอก มีอยู่ช็อตเดียวมั้งที่มีแขกรับเชิญ ซึ่งแขกก็คือ เหล่าบรรดาผู้กำกับของจอกว้างฟิล์ม ขณะที่มีการนำเอาสินค้าของสปอนเซอร์ไปบรรจุใส่ในหนังเยอะมาก โดยเฉพาะ Sony เยอะจนเฝือเกินไปด้วยซ้ำ ส่วนตอนจบ กลับไม่เคลียร์อย่างยิ่งว่าข้อสรุปของการตัดสินใจเดินทางชีวิตของทั้งสามคนเป็นอย่างไร เหมือนจะปล่อยให้คิดกันเอาเอง

แต่ 2 ชั่วโมง ได้นั่งดู 2 สาว เดิน วิ่ง เสิร์ฟ ใน 3 เมือง ก็เพียงพอคุ้มค่าราคาตั๋วสำหรับผมแล้วล่ะครับ

Exit mobile version