รีวิว Harry Potter and The Half-Blood Prince | พ่อมดหนุ่มวุ่นรัก

ภาคนี้ ทุกคนโตขึ้น ฉากเลิฟซีนก็เริ่มเข้าแทรกซึม

ห่างหายจากการไปดูหนังในโรงได้ไม่นาน แม้จะเกรงๆ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อัพเดต แต่ในที่สุด ก็พาตัวเองเข้าไปดูพ่อมดน้อยที่เติบโตเป็นหนุ่มถึงในโรงจนได้ใช่แล้ว วันนี้ ผมได้ดู ‘Harry Potter and The Half-Blood Prince’ หรือถ้าจะแปลเป็นไทย ก็ต้องเป็น ‘แฮรี่ พอตเตอร์ กับ เจ้าชายเลือดผสม’ นั่นแล

Harry Potter & Ginny Weasley
Harry Potter & Ginny Weasley

ภาคนี้ก็อีกเช่นเคย ที่ผมไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อนเข้าไปดูหนัง ซึ่งก็ไม่ได้อ่านมันมาหลายเล่มแล้ว หลังจากพบว่า อ่านก่อน รู้เรื่องก่อน ไปดูในโรงแล้วมันจะไม่สนุก ไม่ได้ลุ้น ไม่ได้ทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง ไปดูเพื่อเปรียบเทียบแต่เพียงถ่ายเดียว ไม่ชอบ

ตั้งแต่นั้นมา ผมเลิกอ่านหนังสือวรรณเด็กเยาวชนเล่มนี้ และรอดูแต่หนังอย่างเดียว

คงไม่ถือเป็นเรื่องแปลกเกินไปนะ ถ้าผมจะทำแบบนั้น เนื่องด้วยวรรณกรรมเรื่องนี้ต้องใช้จินตนาการส่วนตัวค่อนข้างสูง เมื่อพบกับภาพและเสียงที่มีผู้อื่นนำจินตนาการของตนผสมลงไป พร้อมเล่าเรื่องราวให้กระชับจบสิ้นใน 2 ชั่วโมง พร้อมปรับแต่งให้เข้ากับตลาดผู้ชมทั่วโลก ประกอบกับการกำกับและตัดต่อของทีมงานที่อาจจะทำให้เรื่องไม่สนุกเท่าที่ควร อาจลดทอนความสนุกในโรงได้อย่างมาก

การไม่อ่านไปก่อนสำหรับผม มันคงจะเป็นการดีกว่า …ย้ำว่านี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับท่าน

ใน Harry Potter ภาคที่ 6 นี้ แฮร์รี่โตขึ้นเยอะเลยครับ เป็นหนุ่มแล้ว แต่ว่า ก็ยังต้องกลับไปเรียนที่ฮอกวอตต์เหมือนเช่นเคย ครั้งนี้ แฮร์รี่ก็ยังต้องเจอกับเรื่องราวร้ายๆ การตามล่าจากเหล่าสมุนร้ายของลอร์ดโวลเดอมอร์ ที่ไม่ลดละความพยายาม

โปสเตอร์หนัง ‘Harry Potter and The Half-Blood Prince’

ในภาคนี้ แฮร์รี่ดูจะมีบทบาทมากขึ้นในการเป็นผู้ช่วยดับเบิลดอร์ เมื่อศัตรูเริ่มกร้าวแกร่งขึ้นทุกที และดับเบิลดอร์ก็แก่ตัวลงไปทุกขณะ พ่อมดวัยชราจึงดึงตัว ศาสตราจารย์ฮอเรซ สลักฮอร์น ผู้มีเบื้องลึกเบื้องหลังมาทำงานเป็นอาจารย์สอนวิชาปรุงยา

ถ้าดูจากตัวอย่างหนัง เราคงเห็นแล้วว่า ภาคนี้ แฮร์รี่จะได้พบกับเหตุการณ์ความทรงจำที่เก็บไว้ในหลอดแก้ว (มันจะถูกเรียกในหนังสืออย่างไรไม่สำคัญ แต่มันก็คือหลอดแก้ว) ภาพความทรงจำนั้นสร้างออกมาให้เหมือนหนังอาร์ตๆ แนวๆ ซึ่งประสมเข้ากันได้ดีน่าเหลือเชื่อกับหนังแฟนตาซีเรื่องนี้ กลายเป็นอีกภาคที่ผมว่า ดูดีเอามากๆ ทีเดียว เราได้พบกับ ทอม รีดเดิล สมัยยังเป็นนักเรียนฮอกวอตต์ พบที่มาที่ไปหลายๆ อย่างที่ทำให้เขากลายเป็นจอมมารร้าย และฆ่าพ่อแม่ของแฮร์รี่ แต่มันยังเฉลยไม่หมด เฉลยจะมีในภาคสุดท้าย

ตัวอย่างหนัง แฮรี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม

ไม่รู้เหตุผลกลใดกัน ที่ โวลเดอร์มอร์เลือก เดรโก มัลฟอย หนุ่มน้อยที่ดูจะถูกด้านมืดเกาะกุม เขากลายเป็นตัวร้ายมาตลอดตั้งแต่ภาคแรกๆ แต่ในความเป็นจริง เดรโกก็ยังพอมีด้านดีๆ อยู่บ้าง สังเกตได้จากความลังเลและไม่เต็มใจต่างๆ ที่แสดงออกมา อย่างไรก็ยังไม่พ้นสร้างความยุ่งยากให้กับแฮร์รี่และดับเบิลดอร์อยู่ร่ำไป ภาคนี้ เราได้เห็นสเนปปรากฏตัวในลักษณะที่น่าฉงนมากขึ้น ว่าศาตราจารย์ผู้นี้เป็นฝ่ายใดกันแน่ ซึ่งทุกอย่างคงจะถูกเฉลยในภาคที่ 7 เช่นกัน

นอกเหนือไปจากภารกิจกำราบโวลเดอร์มอร์แล้ว ภาคนี้ยังมีเรื่องรักๆ ใครๆ ของตัวละครเด่นของเรื่องอีกด้วย

แน่นอนว่า J.K.Rowling ไม่ได้สร้างเฮอร์ไมโอนี่ให้เกิดมาสวย และเป็นแฟนกับแฮร์รี่ แต่ในหนัง ทั้งสองคนหน้าตาดีจนน่าจับมาคู่กัน หลงเข้าใจผิดมาหลายภาคว่า เฮอร์ไมโอนี่คือคู่ของแฮร์รี่ แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย จินนี่ วีสลีย์ น้องสาวของเพื่อนรัก รอน วีสลีย์ ต่างหากที่จะได้กับแฮร์รี่ แต่อนิจจา น่าสงสารที่ จินนี่ ไม่สามารถสวยในหนังได้เท่าในหนังสือ

ก็เล่นสร้างให้เฮอร์ไมโอนี่สวยซะขนาดนั้น

โปสเตอร์หนัง ‘Harry Potter and The Half-Blood Prince’

Emma Watson โตเป็นสาวและยังคงสวยน่ารักเหมือนเดิม หลายคนคงพลัดหลงจากบทหนังไปชั่วขณะ กับความตู้มในฉากนั้นของเธอ

ภาคนี้ ทุกคนโตขึ้น ฉากเลิฟซีนก็เริ่มเข้าแทรกซึม ครั้งแรก ในเงามืด สองหนุ่มสาวกอดจูบกัน อีกครั้ง คราวนี้เป็นของคู่ที่จะ “ได้กัน” ในอนาคต ข้างๆ ผมเป็นเด็กวัยรุ่น(ที่เจี๊ยวจาวกันอยู่ตั้งนานกว่าจะได้ที่นั่ง) เมื่อเจอฉากนี้เข้าไปวี้ดว้ายเป็นแถว ท่าทางจะอิจฉา

รอน ก็ดูจะวุ่นเรื่องรักของตนเองไม่น้อย พอๆ กับเฮอร์ไมโอนี่ ทำให้ในภาคนี้ ทั้งสองงอนกันบ่อย จนไม่มีเวลาร่ายคาถาเท่าที่ควร เราจึงพบว่า ทั้งสองคนมีบทบาทในภารกิจของบุคคลที่คุณก็รู้ว่าใครน้อยถึงน้อยมาก ปล่อยให้แฮร์รี่เหนื่อยอยู่คนเดียว ภาคนี้ พระเอกของเราไม่ได้ทำงานเป็นทีมเท่าที่ควร เพราะมัวแต่ไปไหนมาไหนในแบบล่องหนกับตาแก่


หลายคนบอกว่า ดูหนังแล้วไม่สนุกเท่าหนังสือ ไม่แปลกครับ หนัง 2 ชั่วโมง หนังสือหลายร้อยหน้า แถมมีแต่ตัวหนังสือ ที่เหลือคือจินตนาการ อย่างไรก็สนุกกว่า หนังเพียงแค่ถ่ายทอดตัวหนังสือออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหว ผ่านการจินตนาการมาแล้ว เราทำหน้าที่เพียงดูและคิดตาม รายละเอียดไม่สามารถลงลึกได้มากเท่า อีกครั้งต้องปรับบทตามปัจจัยหลากหลาย

การดูหนังแล้วไม่เทียบกับหนังสือ จึงเป็นหนทางในการดูหนัง(ที่สร้างจากหนังสือ)ให้สนุกได้ครับผม

ปล. ได้ข่าวว่า ภาคสุดท้าย จะแบ่งออกเป็น Part I และ Part II มันคงยาวและตัดทอนได้ยาก ลุ้นระทึกกันตลอดช่วง รอดูกันอยู่แล้วล่ะเนอะ ตามมาตั้ง 6 ภาคแล้วนี่


ชื่อภาพยนตร์ : Harry Potter and The Half-Blood Prince / แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับ เจ้าชายเลือดผสม
บทประพันธ์ดั้งเดิม : J.K. Rowling
บทภาพยนตร์ : Steve Kloves
กำกับการแสดง : David Yates

Exit mobile version