ซีรีส์ซีรีส์เกาหลี

รีวิวซีรีส์ Tell Me That You Love Me | ในโลกที่ไม่มีเสียง มีรักอยู่ในนั้น

อาจจะเป็นซีรีส์เกาหลีที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงกันสักเท่าไหร่ ด้วยภาพลักษณ์ที่อาจไม่ดึงดูด แต่การพาตัวเองเข้าไปพบและทำความรู้จักกับมัน ก็ทำให้พบว่า เราคงพลาดอะไรไปแน่ๆ ถ้าไม่ได้เลือกเดินเข้ามาเจอกับเรื่องราวนี้ ‘Tell Me That You Love Me’ คือซีรีส์แนวดราม่าโรแมนติกจากผู้เขียนบท คิมมินจอง และผู้กำกับ คิมยุนจิน

จองอูซอง ในซีรีส์เกาหลีที่รีเมกจากซีรีส์ญี่ปุ่น
จองอูซอง ในซีรีส์เกาหลีที่รีเมกจากซีรีส์ญี่ปุ่น
source: IMDb

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

มันเป็นเรื่องรักระหว่างนักแสดงสาวที่ต้องใช้คำพูด กับนักวาดภาพที่ไม่ได้ยินเสียง เป็นซีรีส์ที่เดินเรื่องไปแบบไม่รีบร้อน ให้เวลากับความสัมพันธ์ของตัวละครเอกทั้งสองอย่างเต็มที่ พร้อมๆ กับบอกเล่าความอบอุ่น(และอาจจะเปลี่ยวเหงา)ของคนทั้งสอง บอกเล่าชีวิตคนธรรมดาที่มีความฝันและต้องฝ่าฟันไปจนกว่ามันจะสำเร็จ กับอีกคนที่แตกต่างจากคนอื่นในสังคม ต้องรับมือการไม่ยอมรับของบางคน สลับกันไปกับความสัมพันธ์ชวนอารมณ์ดีของคู่รอง ที่เป็นเพื่อนและน้องชายของนางเอก

ซีรีส์ที่ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนได้เรียนภาษามือตามไป พร้อมๆ กับได้มองเห็นแง่มุมของความสัมพันธ์ที่ดี


เรื่องย่อซีรีส์ ‘Tell Me That You Love Me’

ชาจินอู (Jung Woo Sung/จองอูซอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Padam Padam’ และหนังเรื่อง ‘Hunt’) เขาเป็นชายหนุ่มที่บกพร่องทางการได้ยิน และเป็นคนที่ไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่เขามีความสามารถในการวาดรูป และชอบจะพกกล้องถ่ายรูปเวลาออกไปไหนมาไหน นอกจากจะชอบวาดรูปแล้ว เขาก็ยังมีอาชีพเป็นครูสอนวาดรูปอยู่กับศูนย์ศิลปะดารึม (Dareum Arts Center) อีกด้วยนะ

วันหนึ่ง ขณะที่ใช้เวลาอยู่บนเกาะเชจู เขาก็ได้พบกับ จองโมอึน (Shin Hyun Bin/ชินฮยอนบิน จากซีรีส์เรื่อง ‘Hospital Playlist’ และ ‘Reborn Rich’) ในกองถ่ายทำซีรีส์ เธอกำลังผลักดันตัวเองในฐานะนักแสดงแม้จะไม่ได้รับการยอมรับจากผู้กำกับก็ตาม แต่การพบเจอกับชาจินอูโดยบังเอิญ ก็เหมือนจะทำให้โลกของโมอึนเปลี่ยนแปลงไป

ตัวอย่างซีรีส์ ‘Tell Me That You Love Me’ [ซับไทย]

อาชีพของเธอนั้นต้องใช้คำพูดในการสื่อสาร ขณะที่โลกของจินอูเงียบงันและเขาก็ชอบจะแสดงออกผ่านทางภาพวาดมากกว่า จินอูเป็นคนเรียกโมอึนว่า “คุณนักแสดง” ซึ่งทำให้เธอปลื้มใจมาก จึงตั้งใจจะเรียนภาษามือเผื่อว่าจะช่วยให้สื่อสารกับเขาได้มากกว่าเดิม แล้วจากนั้น เรื่องราวความรักของนักแสดงกับนักวาดภาพที่หูหนวกก็เริ่มต้นขึ้น


รีวิวซีรีส์ ‘Tell Me That You Love Me’

เพราะผ้าพันคอสีเหลืองที่เธอชอบใช้นั่นแท้ๆ เลย มันกลายเป็นสื่อกลางพาให้สองคนที่แตกต่างได้มาพบและรู้จักกัน เกาะเชจูถูกใช้เป็นโลเกชันแรกในซีรีส์เรื่องนี้ การผจญภัยเล็กๆ และชายหาดอันสวยงามของที่นั่น กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่พาให้คนดูได้เรียนรู้จักตัวละครทั้งสองอีกด้วย

จองโมอึน นักแสดงสาว กับ ชาจินอู ศิลปะนักวาดที่ไม่ได้ยินเสียง

ที่จริงมันเป็นซีรีส์ที่รีเมกมาจากซีรีส์ญี่ปุ่นชื่อเดียวกันที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อออนแอร์ในปี 1995 และผมยังไม่มีโอกาสได้ชมเวอร์ชันนั้น โผล่มาก็เจอกับเวอร์ชันนี้เลยว่างั้นเถอะ

ซีรีส์เวอร์ชั่นนี้ เล่าเรื่องของ จองโมอึน หญิงสาวที่เคยเป็นแอร์โฮสเตสมา 8 ปี แน่นอนว่า เธอเคยบินมาเกาะเชจูอยู่หลายครั้ง แต่วันนี้ เธอมาที่นี่เพื่อเป็นนักแสดงในกองถ่ายซีรีส์เรื่องหนึ่ง ชีวิตของนักแสดงของเธอเพิ่งเริ่มต้นขึ้นไม่นาน และยังไม่ไปถึงไหนมากนัก แต่เธอก็กำลังบ่มเพาะมันอยู่ เธอได้พบกับ ชาจินอู ชายหนุ่มผู้สูญเสียการได้ยินตั้งแต่เด็กๆ

โปสเตอร์เวอร์ชัน Shin Hyun Bin ของซีรีส์ Tell Me That You Love Me
โปสเตอร์เวอร์ชัน Shin Hyun Bin ของซีรีส์ ‘Tell Me That You Love Me’
source: ENA

เหตุการณ์ในตอนแรกบอกกับเราได้บางอย่าง จินอูน่าจะเคยพบพานประสบการณ์เลวร้ายกับเหตุไฟไหม้ ทำให้เขาไม่ค่อยยิ้มแย้มสักเท่าไหร่นักในวันนี้ การพบกันโดยบังเอิญที่เกาะเชจู คือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของคนสองคน ที่คนนึงได้ยินเสียงและพูดได้ กับอีกคนที่ไม่ได้ยินอะไรเลยแต่สามารถอ่านปากได้ อาจเป็นเพราะโชคชะตาชักพา 2 คนที่แตกต่างมาพบเจอและรักกัน

เล่าเรื่องของคนมีฝันที่ต้องต่อสู้ กับคนที่แตกต่างจากสังคม

ในซีรีส์เรื่องนี้ บอกเล่าตัวอย่างของคนในสังคมอย่างน้อยๆ ก็ 2 แบบ หนึ่งคือ คนที่มีความฝัน แต่เป็นฝันที่ครอบครัวไม่ยอมรับ จองโมอึน นางเอกของเรื่องนี้ เธออยากจะเป็นนักแสดงมาตั้งนานแล้ว แต่เธอจำเป็นต้องทำงานในอาชีพที่แตกต่างออกไป เธอไปเป็นแอร์โฮสเตสอยู่นาน 8 ปี จนวัยผ่านเข้าสู่เลขสาม และรู้สึกว่า จะปล่อยให้ล่วงเลยไปกว่าไม่ได้แล้ว ถึงเวลาต้องออกมาทำตามความฝัน ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบ เลิกอยู่ในกรอบที่พ่อแม่ขีดคั่นไว้ให้เสียที เธอจึงได้ลาออกมาและเพียรเข้าไปออดิชันตามที่ต่างๆ เพื่อขอโอกาสในการทำงาน และระหว่างนั้น เธอก็รับงานพาร์ทไทม์ไปด้วย

สิ่งที่เป็น คือเธอต้องโกหกว่าเธอกำลังเตรียมตัวไปสอบข้าราชการ ไม่บอกที่บ้านเรื่องจะไปเป็นนักแสดง และก็เช่นเคย ความลับไม่เคยเป็นความลับไปได้ตลอด เมื่อวันที่พ่อแม่ล่วงรู้ ก็ต้องเป็นวันที่เธอลำบากใจ

โปสเตอร์เวอร์ชันไทยของซีรีส์ Tell Me That You Love Me
โปสเตอร์เวอร์ชันไทยของซีรีส์ ‘Tell Me That You Love Me’
source: Disney+ Hotstar

เส้นทางของการเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่ง่ายเลยสักนิด เส้นทางของโมอึนก็เช่นกัน นายแพทมองว่า คนจะแสดงได้ดีนั้นอาจต้องเป็นคนที่ผ่านอะไรมาหลายอย่าง เพื่อจะเข้าใจในแต่ละความรู้สึก แต่ละสถานการณ์ เพื่อจะถ่ายทอดทุกประสบการณ์ให้ดูสมจริงและทัชหัวใจผู้ชมมากที่สุด แต่ในอีกด้านของคนที่มุ่งหมายเดินบนเส้นทางสายนี้ ความเข้าใจของคนในครอบครัวก็เป็นเรื่องสำคัญต่อจิตใจไม่น้อยเช่นกัน

ขณะคนแบบที่สอง เขาคือ คนที่ถูกมองว่าเป็นคนพิการ แม้อดีตเขาก็เคยได้ยินเสียงเหมือนคนทั่วไป แต่เพราะตอนเด็กเคยเป็นไข้สูง ส่งผลให้สูญเสียการได้ยิน เรื่องดีอย่างหนึ่ง คืออย่างน้อยเขาก็ยังอ่านปากคนได้ ทว่าการที่ไม่ได้ยิน แม้จะทำอะไรได้ทุกอย่างเหมือนคนอื่น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น เขาจะไม่ได้ยินเสียงรถที่วิ่งมาข้างหลัง จึงเสี่ยงถูกรถชนได้ หรือมีคนเรียกเขาข้างหลังก็ไม่มีทางได้ยินและสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นด้วย แต่นั่นก็ยังไม่เท่ากับการต้องเผชิญกับการไม่ยอมรับของบางคน เพราะอาจรับมือได้ยากกว่า

อบอวลด้วยความอบอุ่น ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์

บทของซีรีส์มันบอกเล่าเรื่องของคนที่แตกต่างกัน แต่พยายามจะเข้าใจโลกของอีกฝ่าย เป็นสัมพันธ์ที่งดงาม ข้างฝ่ายโมอึน คนธรรมดาที่อยากจะเป็นนักแสดง เธอพยายามจะเรียนรู้และเข้าใจภาษามือเพื่อสื่อสารกับเขา เป็นความพยายามที่จินอูเพิ่งจะเคยได้ หลังที่ผ่านมา เขาต้องพยายามปรับเข้าหาคนอื่นอยู่ตลอด

ในระหว่างทางของความสัมพันธ์ เขาอาจรู้สึกลึกซึ้งกับเธอ แต่เขาก็พยายามรักษาระยะห่างอยู่ตลอด อาจเพราะความรักครั้งเก่าที่ยังฝังใจอยู่ก็เป็นได้ แต่เขาจะกีดกั้นความรู้สึกตัวเองไปได้นานสักแค่ไหนกัน

แบนเนอร์แบบยาวของซีรีส์เรื่องนี้ จาก ENA
แบนเนอร์แบบยาวของซีรีส์เรื่องนี้ จาก ENA
source: ENA

ท่ามกลางสังคมที่ยังไม่ยอมรับ เขาอาจทำได้ทุกอย่างเหมือนกับคนมากมาย แต่ก็ยังมีข้อจำกัด ข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องอาศัยความเข้าใจอย่างมากในการคบกัน ขณะที่การคบหากัน มันก็มีหลายอย่างที่จะทำให้มันยืนยาว หนึ่งในนั้นคือ การพยายามรับฟังกัน ทำความเข้าใจกัน และเป็นผู้รับฟังที่ดี แต่ที่สำคัญ ก็คงเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ คำพูดน่ะไม่ใช่ทุกอย่าง คนจะอยู่ด้วยกัน แค่กอดกันก็อยู่กันได้แล้วแม้ปากจะทะเลาะกันก็ตาม

ชีวิตของจินอูนั้น แม้จะเขาจะมีคนข้างน้อย แต่อย่างน้อย นอกจากโมอึนที่ยอมรับในความเป็นเขาอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว เขาก็ยังมี ฮงกีฮยอน (Heo Joon Seok/ฮอจุนซอก) เพื่อนที่ยอมรับในความแตกต่างนั้นด้วยเช่นกัน ส่วนหนึ่งก็เพราะเขาเองก็เป็นสามีของภรรยาที่ปัญหาด้านการได้ยินด้วยแหละมั้ง

แม้จะเรื่องราวจะไปแบบเนิบๆ แต่ก็มีคู่รองที่น่ารัก กับความบังเอิญ ที่บังเอิ๊ญ..บังเอิญ

การดำเนินเรื่องของ ‘Tell Me That You Love Me’ อาจดูเนิบช้าไปบ้าง หลายครั้ง บทสนทนาของคู่พระนาง อาจต้องใช้มือถือเป็นเครื่องมือกลางในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ข้อความส่งให้อ่าน หรือพูดแล้วให้เครื่องมันแปลงเป็นข้อความ หรือแม้แต่การใช้ภาษามือที่ยังไม่คล่อง ทำให้อีกฝ่ายและคนดูต้องใช้เวลาในการรอคอย ถ้าใครที่ปรับตัวเองเข้ากับมันได้ ก็จะไปต่อได้อย่างไม่ติดขัดกับอะไร

และแม้เรื่องโดยรวมแม้จะดูราบเรียบ แต่ก็มักถูกตัดสลับด้วยความฮาและน่ารักของคู่รองอย่าง จองโมดัม (Shin Jae Hwi จากซีรีส์เรื่อง ‘Link: Eat, Love, Kill’ และ ‘Moving’) เขาคือน้องชายของโมอึนที่เพิ่งปลดประจำการ กับอีกคน โอจียู (Park Jin Joo/พัคจินจู จากซีรีส์เรื่อง ‘Lovestruck in the City’ และ ‘Encounter’) เพื่อนสาวของโมอึนที่อยู่บ้านเดียวกัน สองคนนี้เมื่อเข้าคู่กันแล้วดูน่ารักดี พาขำกลิ้งได้อยู่เรื่อยๆ เป็นสีสันที่ทำให้ซีรีส์ไม่ดูเนิบนิ่งจนเกินไป

โปสเตอร์เวอร์ชัน Jung Woo Sung ของซีรีส์ Tell Me That You Love Me
โปสเตอร์เวอร์ชัน Jung Woo Sung ของซีรีส์ ‘Tell Me That You Love Me’
source: ENA

นอกจากนี้ ก็ยังมีตัวละครที่เพิ่มมา อย่างเช่น ยุนโจฮัน (Lee Jae Kyoon/อีแจคยุน จากซีรีส์ ‘Song of the Bandits’ และ ‘See You in My 19th Life’) เพื่อนสนิทที่เป็นนักแต่งเพลงที่เพิ่งจะเลิกกับแฟนไปหมาดๆ อีก บทเขียนให้เขาเป็นพี่ชายที่สนิทสนมกับโมดัม น้องชายโมอึน

และก็บังเอิญว่า โมอึนทำงานพาร์ทไทม์อยู่ในร้านกาแฟที่อยู่ตรงข้ามกับศูนย์ศิลปะดารึมที่จินอูทำงานอยู่ และโมอึนก็มีเพื่อนชื่อจียู ผู้ทำงานในศูนย์ศิลปะแห่งนั้น บังเอิญว่าเธอชอบศิลปินนักร้องที่จินอูวาดปกให้ และก็บังเอิญว่า ซงซอคยอง (Kim Ji Hyun/คิมจีฮยอน) คนอดีตของจินอูที่รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ก็กลับมาในฐานะผู้อำนวยการคนใหม่ของศูนย์ศิลปะดารึมอีกต่างหาก ทุกอย่างที่บังเอิญทั้งหมดนี้ พาให้แต่ละตัวละครเข้ามาข้องเกี่ยวกันอย่างดิ้นไม่หลุด

สิ่งที่น่าชื่นชมในซีรีส์เรื่องนี้

ความจริงซีรีส์เรื่องนี้ มีความสนใจหลายอย่างเลยแหละ แม้ดูภายนอก อาจจะไม่ชวนให้เดินเข้ามาเท่าที่ควร รวมทั้งการโปรโมตที่น้อย ก็ทำให้มันต้องอาศัยคนที่อยากรู้อยากลอง อยากเดินเข้ามาหา พอสมควรเลย แต่รวมๆ แล้วซีรีส์มีหลายสิ่งที่นายแพทชอบ ไม่ว่าจะเป็น

  • นักแสดงที่ต้องแสดงเป็นคนที่สูญเสียการได้ยิน กับคนที่มีอาการครบ 32 ผู้เลือกคบหากับพวกเขา พวกเขาต้องศึกษาการใช้ภาษามือ ซึ่งดูๆ ไปๆ ก็เหมือนเป็นบทเรียนที่ช่วยสอนภาษามือให้กับคนดูได้ด้วยซ้ำ
  • เพลงประกอบของซีรีส์เรื่องนี้ แม้จะฟังดูเนิบช้า และบ้างก็เศร้าสร้อย แต่ทั้งหมดก็เป็นเพลงที่ฟังเพลินดี
  • บรรยากาศอบอุ่นที่อบอวลไปทั่ว ซึ่งบางทีก็หันไปสร้างบรรยากาศแบบเหงาๆ เศร้าๆ สลับกันบ้าง ขณะเดียวกัน ก็พยายามจะไม่ให้มันดูราบเรียบเกินไป ใช้ความน่ารักและตลกของตัวละครอื่นเข้ามาตัดกันบ้าง นับว่าไม่เลวเลย

ส่วนตัวผมมองว่า มันเป็นซีรีส์ที่ไม่เลวเลยนะ ทำออกมาได้อบอุ่นดี ให้แง่มุมของความสัมพันธ์ สะท้อนบางอย่างให้สังคมได้มองเห็นคนที่แตกต่าง แต่ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะอยากย้อนกลับไปดูเวอร์ชันญี่ปุ่นหรือเปล่า แค่เวอร์ชันนี้มันดีพอแล้ว ก็อาจจะไม่ขวนขวายละ


รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์

ชื่อซีรีส์Tell Me That You Love Me / 사랑한다고 말해줘
ผู้กำกับKim Yoon Jin/คิมยุนจิน (เจ้าของผลงาน ‘Our Beloved Summer’)
ผู้เขียนบทKim Min Jung/คิมมินของ (เจ้าของผลงาน ‘Love in the Moonlight’)
นักแสดงJung Woo Sung/จองอูซอง, Shin Hyun Bin/ชินฮยอนบิน, Kim Ji Hyun, Park Jin Joo, Shin Jae Hwi
แนว/ประเภทดราม่า,​​ โรแมนติก
จำนวนตอน1 ซีซัน: 16 ตอน
ช่องทางรับชมDisney+ Hotstar
เริ่มออกอากาศ27 พฤศจิกายน 2023 – 16 มกราคม 2024
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ENA, Studio Genie

คะแนนรีวิวซีรีส์ Tell Me That You Love Me

พล็อตและบท - 8
การแสดง - 8.5
การดำเนินเรื่อง - 7.8
งานภาพ โปรดักชั่น และเทคนิคพิเศษ - 7.8
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.5

8.1

사랑한다고 말해줘

มันเป็นเรื่องรักระหว่างนักแสดงสาวที่ต้องใช้คำพูด กับนักวาดภาพที่ไม่ได้ยินเสียง เป็นซีรีส์ที่เดินเรื่องไปแบบไม่รีบร้อน ให้เวลากับความสัมพันธ์ของตัวละครเอกทั้งสองอย่างเต็มที่ พร้อมๆ กับบอกเล่าความอบอุ่น(และอาจจะเปลี่ยวเหงา)ของคนทั้งสอง บอกเล่าคนธรรมดาที่มีความฝันและต้องฝ่าฟันไปจนกว่ามันจะสำเร็จ กับอีกคนที่แตกต่างจากคนอื่นในสังคม ต้องอยู่และรับมือการไม่ยอมรับของบางคน สลับกันไปกับความสัมพันธ์ชวนอารมณ์ดีของคู่รอง ที่เป็นเพื่อนและน้องชายของนางเอก ซีรีส์ที่ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนได้เรียนภาษามือตามไป พร้อมๆ กับได้มองเห็นแง่มุมของความสัมพันธ์ที่ดี

User Rating: Be the first one !

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ