รีวิวหนัง เทอมสอง สยองขวัญ | 3 เรื่องเล่าที่เล่นดีกว่าบท

สัปดาห์นี้มีหนังไทยอีกเรื่องหนึ่งเข้าฉาย หนังไทยที่แบ่งซอยเป็น 3 เรื่อง จากผลงานของ 3 ผู้กำกับ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นหน้าใหม่ไฟแรง ชักชวนเหล่านักแสดงวัยรุ่นหลายหน้าเข้าร่วมงาน และเล่าเรื่องราวตำนานผีในมหาวิทยาลัย ใช่แล้ว หนังเรื่องนั้นคือ ‘เทอมสอง สยองขวัญ’

สามผู้กำกับที่แบ่งงานกันทำคนละตอนในหนังเรื่องนี้ ก็ได้แก่ ผู้กำกับหญิง พลอย-ภัทรภร วีระศักดิ์วงศ์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Hello Filmmaker เคยมีผลงานการกำกับเอ็มวีของ Room 39 มาก่อน คนต่อมา เขาคือ ก๋วยเตี๋ยว-จตุพงศ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ คนที่เคยทั้งกำกับเอ็มวีและเคยกำกับบางตอนของ ‘เด็กใหม่ The Series’ และคนสุดท้าย ต้น-เอกภณ เศรษฐสุข คนที่เคยทั้งกำกับเอ็มวี ‘Heavy Rotation’ ของ BNK48 และซีรีส์ ‘Love Rhythms: อยากจะร้องดังดัง’

วันนี้ พวกเขามีหนังใหญ่ร่วมกัน!

เรื่องย่อหนัง ‘เทอมสอง สยองขวัญ’

เมื่อหนังไทยกลับหลังหันมาเล่าอะไรแบบแบ่งเป็นตอนๆ คราวนี้ สามผู้กำกับเลือกเล่าตำนานผีมหา’ลัย กับ 3 ความสยองที่ไม่เคยถูกเล่า

เริ่มด้วย “เสียงเชียร์ ที่ใครก็สงสัยว่า เสียงใคร” เมื่อเป็นเฟรชชี่ ก็ต้องเข้าร่วมกิจกรรมเชียร์เหมือนเช่นที่เคยเป็นมา เมษา (มิวสิค BNK48-แพรวา สุธรรมพงษ์) ที่เดินตามต่าย (แคร์-ปาณิสรา ริกุลสุรกาน) เพื่อนเข้าห้องเชียร์อย่างไม่เต็มใจ ก่อนจะได้ยินและเห็น “บางอย่าง” ในห้องเชียร์โดยไม่คาดฝัน

ต่อด้วย “เตียงซี ที่ใครก็สงสัยว่า เตียงใคร” เรื่องเล่าในวันสถาปนาฯ ที่บอกว่าผีนักศึกษาแพทย์ที่ประสบอุบัติเหตุจะกลับมานอนที่เตียงซีในทุกปีของวันสถาปนา แต่ปีนี้ แทน (เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) นักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งผู้เลือกเรียนหมอเพื่อแตง (นาน่า-ศวรรยา ไพศาลพยัคฆ์) แฟนสายผู้น่ารัก แต่เขาพบว่าคืนนี้ต้องอยู่หอเพียงคนเดียว เขาจะเอาชีวิตรอดจากการเผชิญหน้ากับเจ้าของเตียงซีในตำนานได้มั้ยนะ?

เรื่องสุดท้าย “ชุดครุย ที่ใครก็สงสัยว่า ชุดใคร” ตำนานของตึกวิทย์เก่าที่ใครก็ไม่กล้าเข้าใกล้แม้แต่ทางเดิน ตำนานสยองขวัญเป็นที่เลื่องลือ แต่ กอล์ฟ (กิต Three Man Down-กฤตย์ จีรพัฒนานุวงศ์) ไรเดอร์และน้องชายสุดบื้อของมีน (เบลล์-เขมิศรา พลเดช) เขาเอาของมาส่งให้พี่สาวผิดตึก ใช่แหละ เขาดันไปตึกวิทย์เก่า งานนี้เขาและเธอต้องเจอหญิงสาวชุดครุยในตำนาน!

รีวิวหนัง ‘เทอมสอง สยองขวัญ’

เรื่องเล่าผีในตำนานที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งในหนังที่แบ่งย่อยเป็นสามเรื่อง กำกับโดยสามผู้กำกับ และนำแสดงโดยสามคู่นักแสดง คู่หนึ่งเป็นเพื่อน คู่หนึ่งเป็นแฟน และอีกคู่เป็นพี่น้อง เรื่องเล่าแต่ละเรื่องต่างก็มีแนวทางเป็นของตัวเอง ดราม่า ระทึกขวัญ หรือตลกขบขัน แต่ละเรื่องบอกเล่าถึงบทเรียนบางอย่างที่ตัวละครจะได้ค้นพบด้วยตัวเขาเอง

ตอนแรก ‘เชียร์ปีสุดท้าย’ เรื่องราวที่เน้นดราม่าระหว่างเพื่อนที่ต่างก็มองเห็นผีเหมือนกันแต่ความคิดเห็นแตกต่าง บทหนังไม่ชวนให้อินเท่าไหร่อาจเพราะยังไม่ค่อยลงตัว นักแสดงบางคนยังไม่อาจเนียนไปเรื่องได้มากพอ ซีจีผีก็ดูตั้งใจทำ แม้นักแสดงนำทั้งสองอย่างมิวสิคกับแคร์จะเล่นไว้ได้ค่อนข้างดี แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นอิน

ตอนสอง ‘เดอะซี’ ตอนนี้ค่อนข้างให้เวลากับการเล่ามากหน่อย มากจนท้ายเริ่มจะย้วยเกินไปด้วยซ้ำ แต่โดยรวม มันเดินเรื่องจริงจัง สร้างความลุ้นระทึกได้ตลอดเรื่อง และเป็นอีกครั้งที่ตัวละครหนักได้รับบทเรียนจากเหตุครั้งนี้ นาน่าอาจมีบทบาทน้อยไปหน่อย เพราะบทเน้นหนักไปที่การเผชิญหน้ากับผีนักศึกษาแพทย์ จังหวะการตัดต่อและเสียงเพลงประกอบชวนเสียวสันหลังวาบไม่ได้ยาก

มาถึงตอนสาม ‘ตึกวิทย์เก่า’ ที่ดูเหมือนจะจงใจฉีกตัวเองออกมาจากสองตอนหน้า ตอนนี้แทบจะไม่สนใจเล่าประเด็นหนัก หากเน้นไปที่ความกาว เล่าเรื่องสไตล์ล้อเลียนหนังเล่าผี ตั้งใจจะล้อเล่นกับคนดู ใช้ลีลาคอมิดี้ที่เข้ากับบุคลิกของ กิต Tree Man Down อย่างเต็มเปี่ยม ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้มีผีตัวเดียวเหมือนสองตอนก่อนหน้า เพราะจัดมาทีเดียวพร้อมกัน 3 ตัว แถมยังใช้ตึกวิทย์และนักศึกษาวิทยาที่กลัวผีแต่ดันชอบเล่าและฟังเรื่องผีกัน ทว่าประเด็นการสอนใจของตัวละครเหมือนจะเบาบาง ไม่จริงจังเท่าสองตอนแรก

ภาพรวมของหนังจึงเหมือนจะเด่นที่การแสดงของตัวละครหลัก การคัดเลือกนักแสดงที่เล่นได้ดีเล่นได้เก่งมาร่วมงานถือเป็นเรื่องสำคัญ แม้บทจะยังไม่หนักแน่นแต่ก็ทำให้คนยังอยู่กับหนัง ขณะที่การดำเนินเรื่องก็เช่นกัน มันทำให้ตอนสองดูน่าประทับใจที่สุด สิ่งที่รู้สึกได้ระหว่างดูคือช็อตผีหลอกนั้นอาจจะไม่ได้ใหม่ แต่ด้วยภาพ เสียงและการตัดต่อ มันกลับทำให้ขนลุกได้อย่างไม่น่าเชื่อ ขณะที่สองตอนแรกดูจริงจัง ตอนสามกลับตั้งใจเดินเส้นทางสายฮา ซึ่งก็สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้ผู้ชมได้เป็นอย่างดี แม้บางช่วงจะเล่นนานไปหน่อยก็ตาม

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง