รีวิวหนัง A Haunting in Venice ฆาตกรรมหลอนแห่งนครเวนิส | ปัวโรต์จับผิดคนลวงโลก

หลังพาผู้ชมไขคดีใครเป็นฆาตกรมาสองภาค เริ่มจากคดีฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส แล้วก็ย้ายไปล่องเรือบนลำน้ำไนล์ ตอนนี้ ยอดนักสืบปัวโรต์ก็ได้เวลาล่องกอนโดล่าในนครเวนิสกันแล้วล่ะครับ กับ ‘A Haunting in Venice’ หรือชื่อไทย ‘ฆาตกรรมหลอนแห่งนครเวนิส’ ภาพยนตร์ภาคต่อจากแฟรนไชส์สืบสวนสุดคลาสสิค

ครั้งนี้ เขาจะต้องพบเจอกับเรื่องเหนือธรรมชาติที่ผสานรวมกับความปราดเปรื่องในการไขคดีปริศนาฆาตกรรมครั้งใหม่ หนังภาคที่สาม ที่สร้างจากนวนิยาย ‘Hallowe’en Party’ อันเป็นผลงานยอดนิยมของราชินีนิยายอาชญากรรม Agatha Christie และก็แน่นอนว่า หนนี้ ยังคงเป็น Kenneth Branagh เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่มารับหน้าที่ถ่ายทอดบทบาทยอดนักสืบแอร์กูล ปัวโรต์ และนั่งแท่นกำกับเหมือนเช่นเคย

กับคดีใหม่ที่มีกลิ่นอายหลอนๆ กับความเป็นเวนิซ อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะออกมาเป็นเช่นไร

เรื่องย่อหนัง ‘A Haunting in Venice’

ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยอดนักสืบแอร์กูล ปัวโรต์ (Kenneth Branagh/เคนเนธ บรานาห์ จากหนังเรื่อง ‘Murder on the Orient Express’ และ ‘Death on the Nile’) นักสืบที่เกษียณตัวเองแล้ว และหันไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเวนิซ เมืองที่มีทั้งความสวยงามและหรูหรา แต่ดูเหมือนว่า ชีวิตวัยเกษียณของเขากำลังถูกรบกวน เมื่อวันหนึ่ง เขาได้ต้อนรับ อาริแอดนี โอลิเวอร์ (Tina Fey จากหนังเรื่อง ‘Date Night’) นักเขียนผู้มีชื่อเสียงจากผลงานนิยายแนวนักสืบของเธอ และมันได้นำพาให้เขาได้เข้าไปอยู่ในงานฮาโลวีนที่จัดขึ้นในอาคารเก่าแก่ที่มีประวัติหลังหนึ่ง

ในที่สุด เขาก็ต้องไปเข้าร่วมอยู่ในพิธีกรรมติดต่อวิญญาณ ที่ถูกจัดในพื้นที่สุดหลอนโดยไม่เต็มใจ และเมื่อแขกคนหนึ่งถูกฆาตกรรม นักสืบวัยเกษียณจึงถูกผลักเข้าไปในโลกอันดำมืดที่เต็มไปด้วยความลับมากมาย

รีวิวหนัง ‘ฆาตกรรมหลอนแห่งนครเวนิส’

เป็นธรรมดาของหนังแนวสืบหาฆาตกรก็จะต้องมีคนตาย ทำให้เรื่องราวของหนังมีจุดที่เป็นสูตรตายตัวอยู่พอสมควร หนังมีตัวละครมากพอให้สร้างเรื่องราวที่เกี่ยวพัน และเปิดให้คนดูได้ลองคาดเดาว่าใครคือคนฆ่าตัวจริง โดยมีนักสืบปัวโรต์ ศูนย์กลางของเรื่อง เป็นตัวแทนในการสัมภาษณ์และค้นหา

หนังภาคนี้ มีนักแสดงมาร่วมงานมากมายเช่นเคย ทุกตัวล้วนเป็นตัวละครใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Michelle Yeoh/มิเชล โหย่ว เจ้าของรางวัลออสการ์ ในบทคนทรง, Camille Cottin/คามิล คอตติน, Kelly Reilly/เคลลี่ ไรลีย์, Jamie Dornan/เจมี ดอร์แนน, Kyle Allen/ไคล์ อัลเลน),  Jude Hill/จู๊ด ฮิลล์, Ali Khan/อลี ข่าน , Emma Laird/เอ็มมา แลร์ด และ Riccardo Scamarcio/ริคคาร์โด้ สคามาชิโอ

รวมถึง Tina Fey/ทีน่า เฟย์ ที่เล่าถึงไปในเรื่องย่อแล้วด้วย

หนังเริ่มต้นด้วยบรรยากาศของเมืองเวนิซในวันเก่าที่แลดูเงียบสงบ พาเราล่องเรือกอนโดล่าพร้อมกับปัวโรต์ในตอนเดินทางไปยังอาคารหลังหนึ่ง ก่อนจะพบกับงานฮาโลวีนและคนทรง มิสซิส เรย์โนลด์ส การปะทะกันระหว่างยอดนักสืบที่ใช้ชีวิตบนโลกแห่งการไขคดีฆาตกรรม เขาไม่เคยเชื่อถือในเรื่องวิญญาณและไสยศาสตร์

เช่นเดียวกับ อาริแอดนี โอลิเวอร์ นักเขียนหญิงผู้ที่ทำให้ปัวโรต์กลายเป็นยอดนักสืบที่มีชื่อเสียงและมีคนรู้จักมากมาย เธอเองก็คิดเช่นกัน เธอเชื่อว่าคนทรงเจ้าเข้าผีทั้งหลายล้วนปลอม เธอจึงชวนเขาไปเข้าพิธีเรียกวิญญาณ หวังจับผิดคนลวงโลก โดยไม่ได้คาดคิดว่าจะต้องไปเจอกับเหตุฆาตกรรม

Taglines: Death is just the beginning

คฤหาสน์ใหญ่หลังนี้เคยมีคนตายมาก่อน รวมถึง อลิเซีย ลูกสาวของโรวีนา (Kelly Reilly จากหนังเรื่อง ‘Calvary’ และ ‘Flight’) แม่ผู้ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย แต่การเรียกวิญญาณมาของเรย์โนลด์สที่ถูกมองว่าปลอม กลับกลายเป็นเหตุฆาตกรรมโดยไม่คาดคิด และเมื่อเหตุคนตาย วิญญาณนักสืบในร่างของปัวโรต์จึงต้องลุกออกมาทำงาน ทั้งที่ตั้งใจจะเกษียณไม่รับงานสืบใดๆ แล้วก็ตาม จากนั้น ทุกการสนทนาคือข้อมูลที่คนดูต้องเก็บไว้ในสมองให้ครบ เพื่อใช้ร่วมไปในการคาดเดาฆาตกรตัวจริง

ผู้ชมอาจถูกล่อลวงด้วยชุดข้อมูลที่ถาโถมเข้ามา แม้คาดเดาได้ไม่ยาก ด้วยความเป็นระบบปิด คนร้ายจึงถูกจำกัดว่าต้องเป็นใครสักคนในกลุ่มนี้ แต่ถ้าตามไม่ทัน ก็อาจต้องอึ้งไปเมื่อได้ฟังคำเฉลยจากปากของปัวโรต์ ว่าเขาช่างปราดเปรื่องมองทุกอย่างออกได้ราวอัจฉริยะ แต่เหนืออื่นใดนั้น นายแพทชื่นชอบสุดในด้านงานภาพที่ผสานไปกับดนตรีประกอบ มันมีความหรูหรา บวกไม่น่าไว้วางใจปะปนอยู่ในนั้น

หนังเพิ่มช็อตตุ้งแช่ หรือ jump scare มาพองามให้ผู้ชมรู้สึกหลอนได้เล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับทำสะดุ้งอะไรขนาดนั้น คือหนังไขคดีที่เพิ่มเติมรสชาติใหม่ด้วยความหลอนแบบสยองขวัญเบาๆ เข้าไป บอกอะไรไม่ได้มากนักในบทรีวิวนี้ เอาเป็นว่า หนังไม่ยืด ไม่อืดอาด งานภาพสวย เข้าไปดูแล้วอาจชอบการแสดงของเด็กน้อย Jude Hill ที่เล่นไว้น่าเอ็นดูดี

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง