รีวิวหนัง Ambulance ปล้นระห่ำ ฉุกเฉินระทึก | ซิ่งรถพยาบาลสนั่น LA

เหมือนโลกนี้จะห่างหายจากหนังซิ่งระห่ำกันไปสักพัก หลังการมาถึงของวิกฤตโควิดถล่มโลก ใครๆ ก็หั่นไปทำหนังแนวอื่นกันหมด บ้างก็ผันตัวลงไปแจมวงการสตรีมมิ่ง แต่ดูท่าทางผู้ชายคนนี้จะมองเห็นโอกาส เมื่อเขาหยิบจับเอาหนังแอคชั่นที่มีพล็อตแตกต่างมาจับยำในเรื่องเดียวกัน จนกลายเป็น ‘Ambulance’ หรือชื่อไทย ‘ปล้นระห่ำ ฉุกเฉินระทึก’ ที่ชวนคนดูระทึกกันไปตลอด 2 ชั่วโมงกว่าๆ

ชายคนนี้ คงไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือ Micheal Bay ผู้ที่เคยทำหนังภาคต่อฟอร์มยักษ์เรื่องราวของหุ่นยักษ์ ‘Transformers’ ที่ล่าสุดก็หันมาสร้างหนังระห่ำเดือดบนถนนอย่าง ‘6 Underground’ เข้าฉายใน Netflix กันไป มาคราวนี้ เขามาพร้อมโปรเจกต์ใหม่ ภาพยนตร์ทริลเลอร์สุดระทึกที่รวมเอาทั้งเหตุปล้นธนาคาร มาสานต่อเข้ากับพล็อตซิ่งรถพยาบาลเอาตัวรอดจากการถูกตำรวจไล่ล่าบนถนนในกรุง Los Angeles

แถมชื่อหนังเรื่องนี้มี LA อยู่ในนั้น

เรื่องย่อหนัง ‘Ambulance’

วิล ชาร์ป (Yahya Abdul-Mateen II/ยายาห์ อับดุล-มาทีน ที่ 2 จากหนังเรื่อง ‘Candyman’, ‘The Matrix Resurrections’) ทหารผ่านศึกผู้ได้รับประดับเหรียญเกียรติยศ เขากำลังหมดหวังกับการหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลของภรรยา จึงขอความช่วยเหลือจากบุคคลหนึ่งที่เขารู้จัก ซึ่งเขาไม่ควรติดต่อ นั่นก็คือ แดนนี่ ชาร์ป (Jake Gyllenhaal/เจค จิลเลนฮาล จากหนังเรื่อง ‘Nocturnal Animals’, ‘Nightcrawler’ และ ‘Prisoners’) น้องชายบุญธรรมของเขา

ด้วยเหตุที่ แดนนี่นั้นคืออาชญากรอาชีพ แทนที่เขาจะให้เงินช่วยเหลือหรือให้งานเล็กๆ แลกกับเงินตอบแทน แต่แดนนี่กลับยื่นข้อเสนอ ให้วิลเข้าร่วมปล้นธนาคาร แถมครั้งนี้ถือเป็นการปล้นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ลอสแองเจลิส ด้วยเดิมพัน 32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ วิลจึงไม่สามารถปฏิเสธเพราะต้องช่วยภรรยาให้รอดชีวิต

แต่แล้ว การที่วิลเลือกเข้าร่วมในภารกิจครั้งนี้ก็ทำให้เขาต้องเขาตาจนเพิ่มเติม ในระหว่างทำการปล้น แช็ค (Jackson White) ตำรวจหนุ่มเข้าในธนาคารด้วย เกิดเหตุให้เขาต้องบาดเจ็บ ที่สุด วิลและแดนนี่ต้องใช้รถพยาบาลในการหลบหนี แต่บนรถคันนี้ มีแพทย์กูชีพสาวอย่าง แคม ทอมป์สัน (Eiza González จากหนังเรื่อง ‘Baby Driver’ และ ‘I Care a Lot’) ที่ดูแลแช็คอยู่ด้วย ทั้งสองกลายเป็นตัวประกันของวิลและแดนนี่ไปโดยปริยาย

ภารกิจครั้งนี้จึงไปกันใหญ่ เพราะพวกเขาต้องขับรถหลบหนีตำรวจในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของตำรวจหนุ่มคนนั้น

รีวิวหนัง ‘ปล้นระห่ำ ฉุกเฉินระทึก’

มันเป็นหนังที่หยิบ ‘Ambulancen’ หนังเดนมาร์กของผู้กำกับ Laurits Munch-Petersen มาบอกเล่าใหม่อีกครั้งในแบบฉบับของ Michael Bay เท่าที่ดู มองว่าคงเป็นการผูกเรื่องที่หยิบจับเอาหลายสิ่งที่ปรากฏจากหนังหลายๆ เรื่องมามัดรวมกัน หนังจึงมีทั้งเหตุการปล้นธนาคารครั้งใหญ่ โดยมีสองพี่น้องบุญธรรมที่ความเห็นไม่ตรงกันเป็นตัวการใหญ่ ใส่การไล่ล่าบนถนนทั่วกรุง LA มาเป็นตัวเดินเรื่องหลัก พร้อมตัวละครที่เป็นตัวร้าย [อย่างไม่เต็มใจ] แต่กลับเลือกช่วยชีวิตคน

หนังที่มีเรื่องราวนิดเดียวที่เล่ายืดยาวแถมได้ลุ้นทุกวินาทีเรื่องนี้ มีพล็อตที่เน้นขับรถหนีการไล่ล่าไปพร้อมกับมีเงื่อนไขบางอย่างบีบบังคับ ใกล้เคียงกับหนังอย่าง ‘Speed’ ที่เคยดู ต่างแค่ครั้งนี้ ได้ผู้กำกับที่หนักมือเป็นพิเศษในเรื่องความวินาศสันตะโร ความวายป่วงและโกลาหลไม่เว้นแม้กระทั่งมุมกล้อง

เมื่อการปล้นธนาคารบานปลายกลายเป็นเรื่องขับรถหนีการไล่ล่า หนังเรื่องนี้จึงขนมาหมดทั้งตำรวจแอลเอ ทั้งเอฟบีไอ ทั้งกู้ภัย ทั้งโจร ทำให้เราได้มองเห็นการทำงานของพวกเขา ยิ่งแถมให้ว่า วิลและแดนนี่เองก็มีภูมิหลังที่ส่งผลต่อการตัดสินใจและเรื่องราว วิลเองก็เคยเป็นทหาร เคยรักษาพยาบาลมาก่อน แดนนี่เองก็เคยศึกษายุทธวิธีจึงรู้กลไกการรับมือของอีกฝ่าย ทำให้บทหนังไปได้อย่างสุดทางจนแทบจะคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวินาทีถัดมา แม้บางเหตุมันจะดู ‘เอ๊ะ!’ อยู่ในใจไปบ้าง ต้องยอมรับแหละบางเหตุมันก็เว่อร์เกินจริงไปบ้าง

แต่หนังประเดประดังเข้ามาหมด ในทุกเหตุการณ์ที่จะเป็นไปได้ เรียกว่า ‘วายป่วง’ ที่สุดเท่าที่เฮียเบย์แกจะทำได้นั่นแหละ

ความวายป่วงของรถพยาบาลที่ซิ่งฝ่าไปทุกที่ พาไปเจอกับสถานการณ์ความวายป่วงอันหลายหลาก สร้างฉากใหญ่ๆ ชวนอึ้งให้เกิดขึ้นมากมาย [ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างการถ่ายทำ ทีมงานต้องพังและระเบิดรถยนต์ไปกี่คัน] เหตุไล่ล่าที่จัดเต็มเสียจนกลัวว่า LA จะเข็ดจนไม่ยอมให้หนังเรื่องไหนมาถ่ายทำบนถนนอีก หนังดำเนินเรื่องราวผ่านการพูดคุย พูดคุย และพูดคุย ทุกตัวต่างพ่นถ้อยคำใส่กันจนอ่านซับไทยแทบไม่ทัน ไม่มีเวลาเล่าภูมิหลัง ทุกอย่างบอกเราผ่านคำพูดของตัวละคร ทั้งไม่มีช่วงหยุดให้พักหายใจหายคอ จบเหตุนี้ก็ต่อด้วยเหตุนั้น ที่สำคัญ หนังมีนางเอกเป็น Eiza González สาวเม็กซิกันหน้าคมให้ชมจนเพ้อ

ครบสูตรหนังแอคชันสไตล์เบย์จริงๆ

องค์ประกอบอื่นก็ถือว่าทำได้ดีอยู่ หนังเรื่องนี้ นอกจากความระทึกเร้าใจแล้ว ก็ยังจะได้ดนตรีประกอบผลงานของ Lorne Balfe ที่เล่นกับความเซอร์ราวด์ในโรงภาพยนตร์ ระบบเสียง Dolby Atmos ช่วยดึงความสนุกไปสู่ความขั้นสุด ผสานกับงานถ่ายภาพที่เน้นมุมกล้องฉวัดเฉวียนจนแทบจะเวียนหัว ผ่านผลงานของ Roberto De Angelis ที่เบย์เคยร่วมงานมาแล้วทั้งใน ’13 Hours’ และ ‘6 Underground’ ที่บางครั้งนายแพทก็รู้สึกว่า มันถูกใช้บ่อยจนพร่ำเพรื่อเกิน [จนรู้สึกว่าถ้าหนังฉายในโรง 4DX คงได้มีอาเจียนกันบ้างแหละ]

ในขณะที่บางช็อต ก็บอกได้คำเดียวว่า ‘ชอบเลย!’

มันเป็นหนังแอคชั่นที่มีความยาว 2 ชั่วโมงกับ 16 นาที ที่ใส่ความลุ้นระทึกไม่หยุด หมดจากปัญหาเรื่องนั้นก็มาต่อเรื่องนี้ มีมุกฮาแทรกมาสลับฉากกับความระทึกบ้าง ลายเซ็นของเบย์ยังคงแจ่มชัดในทุกอณู จัดว่าเป็นหนังป็อปคอร์นที่ได้ความลุ้นมันอย่างเต็มเปี่ยม

ที่สำคัญ Jake Gyllenhaal ในเรื่องนี้ดราม่าควีนมากๆ เลยแหละ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง