รีวิวหนัง In the Mood For Love | สองคนเหงาในฮ่องกง

ในวันที่โลกวุ่นวายด้วยเรื่องราวความขัดแย้งทางความคิดและการเมือง เรายังมีอีกโลกหนึ่งให้เดินเข้าไปเพื่อหลบซ่อน โลกที่อยู่ในห้องอันมืดทึมและมีเครื่องฉายภาพให้ปรากฏบนจอ ภาพเคลื่อนไหวแสดงภาพของชีวิตบางชีวิตที่มีชีวิตอยู่เมื่อฉายบนจอ ภาพเรื่องราวถูกฉายมาเป็นสิบปี วันนี้ถูกหยิบมาปัดฝุ่นใหม่ ภาพชัดสดใสกับภาพยนตร์ในตำนาน ‘In the Mood For Love’ จากผู้กำกับ หว่องกาไว

มันเป็นหนังในปี 2000 เป็นหนังที่อยู่ในความคิด วนอยู่ในหัวมาเนิ่นนาน ผ่านกาลเวลามาหลายขวบปี ในวันนี้ได้ดูแล้ว แถมยังถูกขัดสีฉวีวรรณใหม่รีมาสเตอร์ให้คมชัดในแบบ 4K อีกด้วย

หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในประเทศไทย ใช้เวลาสร้างนานถึง 15 เดือน เป็นหนังที่ถ่ายทำไปเรื่อยๆ ไม่มีบท ไม่มีสคริปต์ จนถึงขั้นทำให้ต้องเปลี่ยนตากล้องจาก Christopher Doyle ไปเป็น Mark Lee Ping Bin ระหว่างการถ่ายทำ

เรื่องย่อหนัง ‘In the Mood For Love’

เรื่องราวที่ย้อนวันกลับไปยังฮ่องกงในช่วงราวปี 1962 บนเกาะฮ่องกง ที่อพาร์ตเมนต์หนึ่ง ที่นั่นแบ่งเป็นห้องๆ แต่ใช้พื้นที่ร่วมกันอย่างห้องครัว ห้องนั่งเล่น ในวันหนึ่ง คนสองคนที่ต่างก็มีครอบครัวแล้วได้ย้ายเข้ามาในวันเดียวกัน

คุณนายฉั่น (Maggie Cheung) กับคุณเจ๊า (Tony Leung) คนหนึ่งเป็นสาวทำงานเลขานุการมีสามีแล้วแต่คุณสามีมักจะไปทำงานในต่างประเทศอยู่เนืองๆ คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มที่ทำงานเป็นนักหนังสือพิมพ์ผู้มีภรรยาแล้วแต่ดูเหมือนเธอจะมีคนอื่น ด้วยความที่ห้องอยู่ใกล้กัน ต้องใช้ห้องส่วนกลางเพื่อ กินข้าว พูดคุย เล่นไพ่ ร่วมกัน และหลายทีก็ลงไปซื้อบะหมี่ร้านเดียวกัน เขาและเธอจึงมักจะเจอกันอยู่บ่อยๆ

และเวลาที่เหลือให้มันเป็นเรื่องราวของความรู้สึกเถอะครับ

รีวิวหนัง ‘อิน เดอะ มู้ด ฟอร์ เลิฟ’

หนึ่งในความภูมิใจของเราก็คือการที่หนังเรื่องนี้ถ่ายทำส่วนใหญ่ในเมืองไทย โดยใช้โลเกชันแถวย่านบางรักและเจริญกรุง ที่เหลือคือการย้อนคืนความทรงจำในวัยเด็กที่เราต่างเติบโตมากับหนังและซีรีส์ฮ่องกง เราต่างเคยได้ดูหนังที่มีเหลียงเฉาเหว่ยไม่ก็หนังที่มีจางม่านอวี้ นางเอกที่คนไทยสมัยนั้นชื่นชอบ

แต่ใครจะคิด เราจะได้กลับมาเจอเธออีกครั้งด้วยหนังที่ภาพคมชัดในศักราชนี้

หนังเหงาๆ ที่ใครๆ ก็พูดถึงเรื่องนี้ ย้อนเล่าเรื่องราวของฮ่องกงในวันที่ตัวผู้กำกับยังอายุในวัยเพียง 5 ขวบ ด้วยการหยิบเศษเสี้ยวความทรงจำในวันนั้น ประกอบกลับมาเป็นภาพแห่งความทรงจำในภาพยนตร์ปี 2000 จากจุดเริ่มต้นที่หว่องกาไวต้องสร้างหนังที่เล่าเรื่องของร้านบะหมี่ ไปๆ มาๆ กลายเป็นเรื่องราวของคนสองคนที่ความเหงาพาให้พวกเขารักกัน

แต่ความรักของพวกเขาถูกขีดคั่นด้วยหลายสิ่ง หนึ่งคือทั้งสองแต่งงานแล้ว มีภาระและพันธะที่ต้องกระทำตนเป็นสามีหรือภรรยาที่ดี อีกด้านคือสังคมย่อมจะไม่ยอมรับการคบชู้ของหญิงชาย การไปมาหาสู่หรืออยู่ด้วยกันสองต่อสองก็ยังต้องถูกติฉินนินทา และอีกด้าน มันคงเป็นเรื่องของศีลธรรมในใจของคนทั้งสอง

หนังมีเรื่องราวที่เป็นโครงคร่าวๆ จึงไม่ได้ยากเกินเข้าใจ ไม่ใช่หนังเข้าถึงยากเลยแม้แต่น้อย

คนสองที่คนต่างก็มีคนของตัวเองแล้ว แต่เหมือนถูกทิ้งปล่อยให้หงอยเหงา ทำให้คนที่ควรจะเป็นแค่เพื่อนบ้านกันธรรมดา กลายเป็นคนที่กลับมาสนิทกัน ผูกพันกัน แต่ก็พยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ก้าวก้ำเกินไปมากกว่าความเป็นเพื่อน แม้ในใจจะร่ำร้องเหลือเกินที่ก้าวล้ำเส้นนั้นออกไปหลายครั้งหลายหนแล้วก็ตาม

หนังเล่นกับภาพที่มีความทึมๆ ส่งออกความรู้สึกเหงาๆ มายังผู้ชม ขับสีให้เข้ม ทั้งยังชอบจะถ่ายพื้นผิวของปูนที่ไม่เรียบเนียนและดูออกว่าผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน กับลักษณะของภาพที่อาจบรรยายได้ยากและต้องดูเอาเอง แต่ว่ามันมีความเฉพาะตัวของมันอยู่ในนั้น

นอกจากหนังเรื่องนี้จะถ่ายทำในลักษณะที่ไร้บทไร้สคริปต์แล้ว การดำเนินเรื่องหนังก็จะสลับกันไประหว่างช่วงเวลาของการพูดคุยระหว่างแต่ละตัวละคร กับช่วงเวลาที่เดินเรื่องด้วยภาพโดยมีดนตรีประกอบไปด้วยเสมอ ช่วงเวลาตรงนี้ส่งเสริมความรู้สึก สื่อถึงอารมณ์ได้ดี และเป็นช่วงเวลาของหนังที่ผมชอบมาก

นอกจากนี้ยังเห็นสัญญะบางอย่างที่ปรากฏในหนัง อย่าง ควันบุหรี่ที่ล่องลอย อาจแทนความรู้สึกที่ไร้จุดหมาย ไม่อาจพบเจอหนทาง จึงได้เพียงปลดปล่อยไปตามแต่ลมจะพัดพา

นอกจากนี้ หนังยังเลือกจะไม่ถ่ายให้เห็นตัวภรรยาของพระเอก และสามีของพระเอก โดยเลือกจะให้ได้ยินเพียงเสียง ไม่ก็ให้เห็นเพียงแผ่นหลัง นัยว่า สองตัวละครนี้มิได้สำคัญใดๆ ต่อเนื้อเรื่อง เพราะแท้จริงมันเป็นเรื่องของสองคนนี้มากกว่า

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ เราจะได้เห็นว่าตัวละครของจางม่านอวี้ได้สวมใส่ชุดสวยที่ไม่เคยซ้ำกันเลยสักฉาก และเราได้เห็นว่าเธอเป็นนักแสดงหญิงที่มีรูปร่างชวนมองยิ่ง จะผิดไหมถ้าเรายังหลงใหลหญิงที่สวยงามมีเสน่ห์มากในวันก่อนเก่าเช่นนั้น

ด้านเหลียงเฉาเหว่ย เขากลายเป็นนักแสดงชายจากเอเชียคนที่สองที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังเมืองคานส์มาครอง กับสีหน้านิ่งแทบจะไม่แสดงอารมณ์แต่บางฉากนั้น เราก็มองเห็นความรู้สึกที่อยู่ภายในของเขาที่ส่งออกมา

นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่วันนี้ได้มาดูหนังเหงาๆ ของผู้กำกับหว่องกาไวที่คมชัดระดับ 4K ในโรงภาพยนตร์

ภาพยนตร์เรื่อง: In the Mood For Love / ห้วงรักอารมณ์เสน่หา
ผู้กำกับภาพยนตร์: Wong Kar-Wai/หว่องกาไว
ผู้เขียนบท: Wong Kar-Wai/หว่องกาไว
นักแสดงนำ: Tony Leung/เหลียงเฉาเหว่ย, Maggie Cheung/จางม่านอวี้, Ping Lam Siu
ดนตรีประกอบ: Michael Galasso, Shigeru Umebayashi
ความยาว: 98 นาที
ปี: 2000
แนว/ประเภท: Drama, Romance
อัตราส่วนภาพ: 1.66 : 1
ประเทศ: ฮ่องกง
เรท: ไทย/-, MPAA/PG
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 29 ตุลาคม 2020
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย:  Block 2 Pictures, Jet Tone Production, Orly Films, มงคลซีนีม่า