รีวิวหนัง โอเวอร์ไซส์..ทลายพุง | หนังฮาอารมณ์ดีเปิดทีโมเมนต์

ผ่านเข้าสู่วันอังคารเปลี่ยนแนวมาดูหนังไทย แถมยังเป็นหนังไทยที่เปิดประเดิมค่ายใหม่อย่าง T Moment อีกต่างหาก พวกเขาเริ่มเปิดตัวด้วยหนังสไตล์แอ็คชั่นคอมิดี้ที่แปลกใหม่ เพราะมันเรื่องของตำรวจ แถมยังเป็นตำรวจที่อ้วนลงพุง ไม่มีใครหล่อเหลาเอาการ หนังไทยเรื่องนั้นชื่อ ‘โอเวอร์ไซส์..ทลายพุง’ ครับ

หนังรวบรวมเอาสี่หนุ่มร่างอวบอ้วนที่อยู่ในอาชีพตำรวจผู้ต้องวิ่งกวดจับผู้ร้าย จึงถูกหมายหัวให้ลดน้ำหนักให้ได้ภายใน 3 เดือน แถมยังมีตัวเปรียบเทียบเป็นผู้กองที่มีครบทุกอย่างเข้าไปอีก ความพยายามต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนมั้ย…

งานนี้เอาใจคนอ้วนไม่ก็ลงพุงโดยแท้

เรื่องย่อหนัง ‘โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง’

เล่าเรื่องอย่างคร่าวๆ ได้ประมาณว่า เพื่อนซี้สี่หน่อที่ขนาดพุงไล่ๆ กัน ทำงานเป็นตำรวจอยู่ในห้องเดียวกัน สน. เดียวกัน และเวลาไปทำคดีก็ไปทำด้วยกัน

ทว่าน้ำหนักร่างกายเป็นอุปสรรคพอสมควรในการปฏิบัติงาน

ดังนั้น พวกเขาจึงถูกพักงานและยื่นคำขาดให้ต้องลดน้ำหนักให้ได้ 20 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน มิฉะนั้นก็อาจถึงขั้นไม่ได้กลับมาเป็นตำรวจอีก

ภารกิจใหม่ที่ต้องทำอะไรนอกเหนือไปจากการจับผู้ร้ายและช่วยเหลือประชาชน นั่นคือ การช่วยเหลือตนเอง แต่ไม่ใช่ภารกิจที่จะอยากทำ พวกเขามีหัวหน้าที่แสนหล่อ สมาร์ท และพึ่งพาได้ แถมยังเป็นห่วงลูกน้องอย่างจริงใจ ขนาดนั้นก็ใช่ว่าการลดพุงมันจะเป็นเรื่องง่ายๆ

แต่เมื่อครูสาวแสนสวยมาช่วยสอนออกกำลังกาย อะไรๆ อาจง่ายขึ้นก็เป็นไปได้นะ

รีวิวหนัง ‘โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง’

เป็นหนังไทยที่มาแปลกเมื่อไม่มีตัวเอกเป็นหนุ่มหล่อ แต่กลับมีพระเอกเป็นสี่หนุ่มตำรวจร่างหมีที่นำแสดงโดย ปราโมทย์ ปาทาน (ซีรี่ส์ ‘Love Songs Love Series ตอนฤดูร้อน’), สมยศ มาตุเรศ (จากหนัง ‘แฟนเดย์..แฟนกันแค่วันเดียว’) ร่วมกับ 2 นักแสดงใหม่อย่าง ศรัณย์ ชินสุวพลา กับ ศุภชัย ทรัพย์ประเสริฐ รวมกันรับส่งบทก็แทบจะเต็มเรื่องแล้ว

เป็นทีมงานรุ่นใหม่ ที่ถ่ายทำและตัดต่อได้ดี

สิ่งแรกๆ ที่อยากจะพูดถึงสำหรับภาพยนตร์ไทยเรื่องนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของการตัดต่อภาพ ที่ทำได้ค่อนข้างลื่นไหล แถมมีทีเด็ดในวิธีและลูกเล่นในการตัดต่อที่หลากหลายร่วมการถ่ายทำเพื่อให้ได้ภาพในมุมมองต่างๆ ประสานไปกับการใช้เพลงและดนตรีประกอบที่สอดรับไปกับการตัดต่อ ทำให้รู้สึกได้ว่า แม้พวกเขาจะเป็นทีมงานคลื่นลูกใหม่ เพิ่งมาหยิบโปรเจ็กต์หนังยาวเป็นเรื่องแรก

แต่พวกเขาก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลย

ไม่ว่าจะเป็นการต่อซีนด้วยการเชื่อมจากซีนหนึ่งไปอีกหนึ่งด้วยเพลงเดียวกัน หรือการใช้มุมกล้องหมุนตามตัวละคร หรือแม้แต่การถ่ายทำตัวละครในมุมเงยระหว่างตัวละครวิ่ง เป็นต้น การถ่ายทำ มุมกล้อง และการตัดต่อของหนังเรื่องทำได้ดีทีเดียว

โดยเฉพาะ 2 ใน 3 ส่วนแรกของหนัง

พล็อตชวนฮา เชอรีนน่ารัก

ในขณะที่บทหนังเองก็ทำได้ดีพอประมาณ คือ มีจุดเริ่มของปม แล้วก็เดินเรื่องต่อไปถึงจุดคลี่คลายระดับหนึ่ง ก่อนจะกลับมาสู่ปัญหาใหม่ ที่บางครั้งก็กลายเป็นเรื่องอำเรื่องฮากันไป

จริงๆ ก็ถือว่าวางพล็อตมาค่อนข้างดี มีตบเข้ามุกฮาๆ ทำให้ขำก๊ากกันก็หลายหน แต่มุกฮาๆ ก็ไม่ได้มาบ่อยมากนักในแต่ละฉาก และบางมุกก็ไม่ได้ทำให้ขำอะไรนัก ถ้าคาดหวังความฮาแบบตลอดเวลาเหมือนหนังตลกไทยบางเรื่องคงไม่ใช่ เรื่องราวมันดูเพลิดเพลินชนิดที่เรียกได้ว่า เป็นหนังมีพล็อต มีเรื่องมีราว หากแต่เน้นทีเล่นทีจริง ระหว่างดูไป ก็คงไม่ต้องมานั่งคิดว่า “มันจะเป็นไปได้เหรอวะ?”

แถมบางทีก็ตบเข้าดราม่าได้เสียอีก แต่ก็ไม่ได้ขยี้อะไรมากนัก

อาจดูเหมือนว่าหนังจะมีแต่ตำรวจอ้วนสี่คน แต่ก็ไม่ใช่ เมื่อใน ‘โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง’ ยังมีหนุ่มหล่อที่เป็นผู้กอง เป็นหัวหน้าของพวกเขาที่ดูหล่อมีเคราและรักหวังดีกับลูกน้องมาก

แถมยังได้ เชอรีน (ณัฐจารี หรเวชกุล) มาร่วมด้วยช่วยเป็นครูฝึกสอนเต้น เธอมีช่วงเวลาที่จะได้โชว์ความเซ็กซี่เล็กๆ จากท่วงท่าลีลาการเต้น รอยยิ้มของเธอชวนให้หนังดูสดใสเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสีสัน เธอเล่นเป็นมีน คนที่ทำให้หนึ่งในสมาชิกแก๊งตำรวจหมีแอบหลงรักและเป็นแรงบันดาลใจในการลดพุง น่าเสียดายที่ตัวละครนี้ไม่ได้ถูกโปรโมต และบทบาทของเธอก็ไม่ได้ถูกขับให้เด่น

คงเป็นเพราะปมลดพุงดูสำคัญกว่านั่นเอง

อ้วนหรือผอม หรืออะไรที่สำคัญ

หนังไม่ได้จำเพาะเจาะจงลงไปว่า คนอ้วนต้องลดพุงให้ผอม ไม่ได้ชี้ชัดลงไปขนาดนั้น แต่บอกเพียงเป็นนัยๆ ว่า การเป็นตำรวจและมีหุ่นที่เฟิร์ม จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ในบทบาทของตนได้ดีกว่า คนเขียนบทและคนกำกับฯ ก็คงเข้าใจดีว่า การจะลดความอ้วนนั้นมันไม่ได้ง่าย แม้ว่าสูตรสำเร็จมัน…

จะแค่สองอย่างง่ายๆ อย่างจำกัดอาหาร และออกกำลังกายก็ตาม

หนังใส่ฉากกินหมูกะทะเข้ามาอย่างมีความหมาย มันอาจเป็นตัวแทนของการกินที่ทำให้เสียสุขภาพ ขณะเดียวกันมันก็อาจจะเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในหน้าที่การงานของใครสักคนได้ด้วย  มันเป็นตัวบ่งบอกถึงพฤติกรรมสำคัญที่ทำให้อ้วน แต่มันก็บ่งบอกถึงคำว่ามิตรภาพได้เช่นกัน

แต่ถ้ามองเห็นร่วมกันว่า กินแล้วมันได้มิตรภาพแต่ต้องเสียด้านสุขภาพ อะไรที่จะไม่คุ้มเสี่ยงก็คงต้องตัดมันออกไป

หนังไม่ได้กะเกณฑ์ไปว่าการอ้วนเป็นสิ่งไม่ดี เพราะบางครั้งมันก็มีประโยชน์ แม้ตำรวจจะอยู่ในร่างที่อ้วนพุงพลุ้ย แต่ถ้าสามารถจับผู้ร้ายได้ ก็ยังนับว่าทำหน้าที่ได้ดีอยู่ เราแค่จะวัดกันด้วยเกณฑ์ไหนก็เท่านั้น

หนังไทยเรื่องนี้มีฉากแอ็คชั่นที่บู๊กันสนุกสนานสไตล์โจวซิงฉือ เรียกได้ว่าหยิบจับอะไรได้ก็เอามาใช้ต่อสู้ได้หมด ซึ่งเขาก็ถ่ายทำและตัดต่อกันได้สนุกพอควร แต่อาจจะไม่ถึงขั้นชื่นชอบนักสำหรับผม อาจด้วยทุนหรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้านับว่านี่เป็นงานชิ้นใหญ่ชิ้นแรก ผมก็ได้แต่หวังว่ามันจะดีขึ้นในงานถัดๆ ไป

เป็นงานที่ชวนให้รู้สึกว่า หนังไทยกำลังมีคลื่นลูกใหม่เพิ่มมาอีกหนึ่งทีม

ชื่อภาพยนตร์: โอเวอร์ไซส์..ทลายพุง / Over Size / Oversize Cops
ผู้กำกับภาพยนตร์: ภูวนิตย์ ผลดี, ชานนท์ ยิ่งยง
ผู้เขียนบทภาพยนตร์:
นักแสดงนำ: ศุภวิชญ์ มีเปรมวัฒนา, ณัฐจารี หรเวชกุล, ปราโมทย์ ปาทาน,​ สมยศ มาตุเรศ, ศรัณย์ ชินสุวพลา, ศุภชัย ทรัพย์ประเสริฐ
ดนตรีประกอบ:
แนว/ประเภท: Comedy
ความยาว: 100 นาที
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/, USA/
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 23 มีนาคม 2560
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: T Moment