ภาพยนตร์

รีวิวหนัง The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes | ปฐมบทเกมล่าเกม

หนังความยาว 157 นาทีที่เล่าเรื่องได้อย่างมีพลัง ผ่านงานออกแบบที่ดูเรโทรแต่ก็ก้าวล้ำ ผ่านมุมมองคนพาเน็มที่เห็นคนในเขตต่างๆ เป็นผักปลา

หลังจากวันที่ แคตนิส เอเวอร์ดีน จุดประกายไฟแห่งความหวังในหนังที่เล่าถึง ฮังเกอร์เกมส์ ครั้งที่ 74 ที่เป็นหนังเข้าฉายไปเมื่อปี 2012 มันได้จุดประกายให้มีหนังดิสโทเปียจากหนังสืออีกหลายเรื่องที่ถูกสร้างตามๆ กันมา แต่ไม่ว่าใครก็ยังคงจดจำได้ดีว่า มหกรรมกีฬาคร่าชีวิตเรื่องนี้คือที่สุด เวลาผ่านมาหลายปี จนได้ยินข่าวว่าจะมีหนังที่เล่าเรื่องก่อนหน้า (prequel) ออกมาฉายให้ได้ดู ทุกคนตั้งตารอคอย จวบจนวันนี้ ได้ชมกันแล้ว‘The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes’ ที่ใช้ชื่อไทยว่า ‘เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม’

Rachel Zegler และ Tom Blyth ในหนังเรื่อง เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม
Rachel Zegler และ Tom Blyth ในหนังเรื่อง ‘เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม’
source: Mongkol Major

ความคิดเห็นส่วนตัวของนายแพท

อีกครั้งที่เราได้ดูหนังที่มาจากผลงานการเขียนของ Suzanne Collins ผู้เล่าเรื่องราวความโหดร้ายของระบอบเผด็จการในยุคดิสโทเปียได้เยี่ยมยอด แต่คราวนี้ เธอพาย้อนกลับไปสู่ฮังเกอร์เกมส์ครั้งที่ 10 ย้อนไปพบเจอที่มาที่ไปของหลายสิ่ง หนังที่เล่าผ่านมุมมองของฝั่งพาเน็มที่มองคนในเขตต่างๆ เป็นแค่ผักปลา พาไปรู้จักกับสโนว์วัยหนุ่มที่จิตใจค่อยๆ ผันแปรจากดีงามสู่ความอำมหิต และพาไปรู้จักกับ ลูซี่ เกรย์ หญิงสาวที่ใช้เสียงร้องบอกเล่าความอัดอั้นของการถูกกดขี่ พระนางที่เคมีโดดเด่น ทุกตัวต่างมีบทบาทและเอกลักษณ์

แม้หนังจะยาว 2 ชั่วโมง 37 นาที แต่ก็ไม่ได้ถือว่านานเกินไปสักนิดเลย


เรื่องย่อหนัง ‘เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม’

ย้อนกลับไปสู่พาเน็มในวันที่เพิ่งจัดการแข่งขัน เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ถึงเพียงครั้งที่ 10 แต่มันก็เป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่มีเหตุให้กล่าวขานเกิดขึ้นหลายอย่าง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งอาณาจักร และในเวลานั้น บิดาแห่งฮังเกอร์เกมส์อย่าง คาซก้า ไฮบอตท่อม (Peter Dinklage จากหนังเรื่อง ‘I Care a Lot’ และซีรีส์เรื่องดัง ‘Game of Thrones’) ก็ยังมีชีวิตอยู่

ประธานาธิบดีสโนว์ในตอนนั้น ก็ยังเป็นเพียงคนหนุ่ม คอริโอเลนัส สโนว์ (ทอม บลายธ์/Tom Blyth) ทายาทคนสุดท้ายของตระกูล เขาอยู่กับคุณย่าและลูกพี่ลูกน้องอย่างไทกริส (ฮันเตอร์ เชเฟอร์/Hunter Schafer จากซีรีส์เรื่อง ‘Euphoria’ และผู้พากย์เสียงอังกฤษใน ‘Belle’) โดยมี ดร.กอล (วิโอล่า เดวิส/Viola Davis จากหนังเรื่อง ‘The Help’ และ ‘The Woman King’) หัวหน้าควบคุมเกมที่ค่อนข้างเอ็นดูสโนว์หนุ่มอยู่ไม่ใช่น้อย

ตัวอย่างหนัง ‘The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes’ [ซับไทย]

และในฮังเกอร์เกมส์ครั้งที่ 10 นี้ สโนว์วัยหนุ่ม นักเรียนจากแคปิตอล จะต้องมาสวมบทบาทเมนทอร์หรือที่ปรึกษาของ ลูซี เกรย์ แบร์ด (เรเชล เซกเลอร์/Rachel Zegler จากหนังเรื่อง ‘West Side Story’ และ ‘Shazam! Fury of the Gods’) บรรณาการหญิงจากเขต 12 หญิงสาวรูปร่างผอมกะหร่องที่มีความสามารถด้านการขับร้อง โดยเขาไม่รู้เลยว่า ภารกิจครั้งนี้จะเปลี่ยนแปลงตัวเขาเองไปตลอดกาล


รีวิวหนัง ‘The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes’

โลกนี้เคยรู้จักกับภาพยนตร์ดิสโทเปียที่สร้างจากหนังสือขายดีกันมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน แต่วันนี้ ภาพยนตร์เรื่องนั้นหวนกลับมาสานต่อตำนานกันอีกครั้งด้วยเรื่องเล่าก่อนหน้า พาคนดูที่เคยเห็นมหกรรมกีฬาคร่าชีวิตครั้งที่ 74-75 สุดระทึกและเป็นแรงบันดาลใจในวันก่อน ให้ย้อนกลับไปพบกับมหกรรมเดียวกัน แต่เป็นครั้งที่ 10 พาผู้คนไปพบกับตัวละครที่คุ้นเคยตัวนึง พร้อมแนะนำตัวละครใหม่ๆ ที่พวกเขายังไม่เคยได้ค้นพบ

รู้จักกับตัวละครสำคัญในภาค Songbirds

คอริโอเลนัส สโนว์ ในวันเก่านั้น เขาคือทายาทคนสุดท้ายของตระกูลที่เป็นกำพร้าหลังสูญเสียบิดาไป เขาต้องปกปิดไม่ให้ใครรู้ว่าตระกูลสโนว์กำลังตกต่ำแบบสุดๆ ดิ้นรนเล่าเรียนในอะคาเดมีของแคปิตอล คาดหวังเงินรางวัลที่จะกลายเป็นทุนให้เขาได้เล่าเรียนในยูนิเวอร์ซิตี และงานพี่เลี้ยงของบรรณาการคือหนทางพลิกฟื้นตระกูล ตอนนั้น เขายังไม่รู้ตนว่า อนาคตจะกลายเป็นประธานาธิบดีจอมเผด็จการ

ขณะที่แม่นกน้อย ลูซี่ เกรย์ แบร์ด เด็กสาวชาวคัฟวี่กลุ่มนักดนตรีพเนจร ที่โตพร้อมกับเสียงร้องอันทรงพลัง การจับสลากให้กลายมาเป็นบรรณาการในครั้งนี้ดูไม่ชอบธรรม รูปร่างผอมบางทำให้ใครๆ ต่างปรามาสว่าคงไม่อาจอยู่รอดในเกมได้นาน แต่ทว่า เสียงร้องและเพลงที่เธอขับขานกลับกุมหัวใจชาวแคปิตอลได้อยู่หมัด

Peter Dinklage ในหนังเรื่อง ‘The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes’
source: Mongkol Major

ในเวลานี้ ผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าควบคุมเกม คือ ดร.กอล เจ้าของความป่าเถื่อนไร้ขีดจำกัด แม้การแข่งขันในเวลานั้นจะยังไม่ซับซ้อนหรือยิ่งใหญ่น่าทึ่งเหมือนที่เราเห็นในครั้งล่าสุด มองเห็นไอเดียการเข่นฆ่าคนในเกมก็ประจักษ์ชัดว่า เธอเลือดเย็นมากเพียงใด

พาไปพบต้นกำเนิดของหลายสิ่ง และเลิฟไลน์ของคู่พระนาง

หนังเรื่องนี้ พาเราไปรู้จักกับต้นกำเนิดของหลายสิ่งที่เราเคยพบให้ ‘เดอะ ฮังเกอร์ เกมส์’ 4 ภาคเก่า ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบสีขาวให้กับลูซี่ กุหลายเป็นดอกไม้ประจำตระกูลสโนว์ ทั้งกลิ่นของมันยังชวนนึกถึงคนในตระกูลที่จากไป, ไทกริส หญิงที่เข้ามามีบทบาทช่วยเหลือแคทนิสใน ‘Mockingjay Part II’, เพลง ‘The Hanging Tree’ ที่แคทนิสเคยร้องนั้นก็แต่งโดยลูซี่ เกรย์ เช่นเดียวกันกับท่าทางโค้งคำนับพร้อมกางแขนของแคทนิส มันเคยถูกใช้โดยลูซี่ เกรย์ มาก่อน และมันก็คือสัญลักษณ์แห่งการอารยะขัดขืนที่ถูกส่งต่อรุ่นต่อรุ่นนั่นเอง

หนังสร้างเลิฟไลน์ระหว่างคอริโอเลนัสและลูซี่ เกรย์ให้เห็นตั้งแต่แรกเริ่มที่ทั้งสองได้พบกัน ก็ลูซี่ เกรย์ เธอสวยและมีเสน่ห์ที่ไม่อาจมองข้ามขนาดนั้นนี่นา ในฐานะพี่เลี้ยงมือใหม่ของคอริโอเลนัส เขาคิดกลวิธีทำให้เธอเป็นที่สนใจได้อย่างน่าทึ่ง เขาจำเป็นต้องให้เธอชนะในเกมนี้เพื่อความอยู่รอดของตนเอง แต่เขาก็หลงรักเธอจนมันพาให้เขาไปไกลเกินกว่าคำว่า พี่เลี้ยง-ที่ปรึกษา-เมนทอร์ และทุกสิ่งที่หล่อหลอมเขา ทั้งเบื้องหลังครอบครัว ระบอบการปกครองอันบิดเบี้ยว ความใกล้ชิดกับ ดร.กอล และไฮบอตท่อม ภารกิจในฮังเกอร์เกมส์ มันนำพาให้เขาเลือดเย็นขึ้นทุกที

Viola Davis ในหนังเรื่อง เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม
Viola Davis ในหนังเรื่อง ‘The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes’
source: Mongkol Major

ความน่าสนใจของ ปฐมบทเกมล่าเกม

ด้วยความที่มันเล่าย้อนกลับไปราว 65 ปีก่อนภาคแรก ทำให้ไอเดียงานออกแบบภาคนี้จึงมีความเรโทรอย่างเด่นชัด แม้ดูมีวิทยาการ แต่หลายอย่างก็ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น จนสามารถสร้างช็อตชวนขำให้เกิดขึ้นในหนังได้

หนังยาวถึง 2 ชั่วโมง 37 นาที เล่าเรื่องโดยแบ่งออกเป็น 3 องก์ สององก์แรกของหนังค่อนข้างเข้มข้น ทั้งแอ็คชัน ทริลเลอร์และดราม่าระคนกัน เริ่มจากพาเราไปรู้จักกับสโนว์วัยหนุ่ม แล้วก็พาไปรู้จักกับตัวละครต่างๆ ในเกมครั้งนี้ จากนั้นก็กระโจนเข้าสู่เกมที่เดินไปอย่างกระชับ เรื่องเดินไวจนไม่อาจจดจำชื่อได้หมดทุกตัวละคร แต่ทำให้เรามองเห็นถึงความโหดร้ายของระบบ ความเลือดเย็นของคนพาเน็ม ความถูกกดขี่และความพยายามลุกขึ้นต่อต้าน

Rachel Zegler และ Tom Blyth ในป่าของหนังเรื่อง เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม
Rachel Zegler และ Tom Blyth ในป่าของหนังเรื่อง ‘เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม’
source: Mongkol Major

ขณะที่องก์สามนั้น ค่อนข้างจะเน้นดราม่าเยอะหน่อย จึงเหมือนเรื่องดูเบากว่าทั้งที่เป็นพาร์ทสำคัญ ความเปลี่ยนแปลงในจิตใจของสโนว์วัยหนุ่มดูจะยังเร็วไป ความจริงแล้วมันควรบอกเล่าให้นานกว่านี้หน่อย แต่ก็นั่นแหละ พอเข้าใจได้ว่า พาร์ทนี้ยิ่งใช้เวลา ก็จะยิ่งชวนง่วงและทำให้หนังยาวขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ดี คนดูจะได้พบกับภาพที่คมชัด การถ่ายทำที่ใช้ศักยภาพของ IMAX ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่แต่กดขี่อย่างเลวร้ายของสถาปัตยกรรมแห่งพาเน็ม พารู้สึกถึงอิสระของผืนป่าที่แตกต่างจากความรู้สึกอึดอัดในห้องโถงใหญ่ นี่คืออีกสิ่งที่หนังทำได้ดี

เสียงเพลงที่แสนไพเราะ จุดเริ่มต้นที่กลายเป็นตำนาน

ทั้งหมดทั้งมวล หนังใส่มุมมองของคนพาเน็ม แทนที่จะเป็นมุมของบรรณาการแบบที่ใช้ใน 4 ภาคก่อน และดูคล้ายหนังจะเน้นเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงของสโนว์วัยหนุ่มเป็นสำคัญ จากชายหนุ่มที่มีชีวิตยากลำบาก การถูกผลักให้กลายเป็นที่ปรึกษาบรรณาการก็เหมือนการเร่งให้โต เขาจำต้องรู้ให้เท่าทันกลเกม แต่ได้ความรักและการเอาตัวรอดเป็นแรงส่ง จากคนที่ “ดูเป็นคนดี” ในช่วงแรก แต่ความซับซ้อนอันเกิดจากทุกส่วนผสมที่เขาได้รับ กลับแปรเปลี่ยนเขาไปอีกทาง

โปสเตอร์เวอร์ชันไทยของหนังเรื่อง เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม
โปสเตอร์เวอร์ชันไทยของหนังเรื่อง ‘เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม’
source: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล

ขณะที่เสียงร้องของลูซี่ เกรย์ ก็ทรงพลังและสะกดหัวใจผู้ชมได้ตั้งแต่เพลงแรก ความสวยของ เรเชล เซกเลอร์ ก็สะกดหัวใจได้ไม่แพ้กัน ด้วยความสามารถในการร้องและแสดง ทำให้เธอเหมาะอย่างยิ่งกับบทนี้ บทของหญิงสาวที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขต 12 แต่ถูกลากดึงเข้ามาเป็นบรรณาการ ไม่ได้มีความสามารถในการต่อสู้หรือเอาตัวรอด แต่พอจะรู้ตัวว่า เสียงเพลงของเธอนี่แหละที่จะปลุกเร้าให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ แต่ละเพลงในหนัง ต้องเรียกว่ามันไพเราะหมดทุกเพลง ในความรู้สึกของนายแพท เสียงของเรเชลทรงพลังและถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างเต็มเปี่ยม แถมซับไทยก็ร้อยเรียงคำแปลออกมาได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน

หากจะให้หาข้อติ ก็ต้องบอกว่า หาได้น้อยมากจริงๆ และถ้าเป็นไปได้ ก็อยากจะนั่งดูมันอีกหลายรอบเพื่อซึมซับทุกสัดส่วนของหนังให้มากกว่านี้เข้าไปอีก


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes / เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม
กำกับFrancis Lawrence
เขียนบทMichael Lesslie, Michael Arndt
แสดงนำRachel Zegler, Tom Blyth, Viola Davis, Hunter Schafer, Peter Dinklage, Josh Andrés Rivera
แนว/ประเภทแอ็คชัน, ผจญภัย, ดราม่า, ระทึกขวัญ
เรทPG-13
ความยาว157 นาที
ปี2023
สัญชาติสหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย15 พฤศจิกายน 2023
ผลิต/จัดจำหน่ายColor Force, Good Universe, Lions Gate Films, Mongkol Major, สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล

บทความที่เกี่ยวข้องกับ The Hunger Games

คะแนนหนัง เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม

พล็อตและบท - 8
การแสดง - 9
การดำเนินเรื่อง - 7.8
เพลงและดนตรีประกอบ - 9
เทคนิคด้านภาพ - 7.8

8.3

The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes

หิมะอาจเป็นสีขาว กุหลาบในมือก็อาจเป็นสีขาว แต่ทุกอย่างที่เกิดในพาเน็ม ทุกคนที่อยู่รอบตัว ทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หล่อหลอมให้ คอริโอเลนัส ค่อยๆ กลายเป็นสโนล์ที่อำมหิต และกลายเป็นประธานาธิบดีจอมเผด็จการที่รอวันถูกโค่นล้ม หนังความยาว 157 นาทีที่เล่าเรื่องได้อย่างมีพลัง ผ่านงานออกแบบที่ดูเรโทรแต่ก็ก้าวล้ำ เล่าที่มาที่ไปของหลายสิ่งที่เคยสัมผัสมาแล้วใน 4 ภาคเก่า อีกสิ่งที่โดดเด่น คือเสียงร้องและความสวยของ เรเชล เซกเลอร์ สะกดคนดูได้อยู่หมัดจริงๆ

User Rating: Be the first one !

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ