รีวิวซีรีส์ Ahsoka | เจไดนอกคอก อาโซก้า ผู้ยับยั้งสงครามครั้งใหม่

ตัวละครหนึ่งที่แฟนและสาวกสตาร์วอร์สทุกคนต้องรู้จัก คือ ‘Ahsoka’ เธอคือคนที่มีพลังมาตั้งแต่เด็ก ก่อนจะเข้ามาอยู่ในวิหารเจไดบนดาวคอร์รัสซัง ก่อนที่จะได้เป็นพาดาวันของอนาคินตอนอายุสิบสี่ แต่แล้วเธอก็หนีมา พร้อมกับออกจากสภาเจไดด้วยเพราะความผิดหวังหลังถูกใส่ร้ายในสิ่งที่เธอไม่ได้ก่อ เจไดหญิงที่มีสีผิวเตะตา พาดาววันคนแรกของอนาคินจากคำแนะนำของปรมาจารย์โยดา

ถ้อยคำหนึ่งที่จดจำได้จากซีรีส์เรื่องนี้ “นี่ไม่ใช่เพียงเพื่อตามหาเอสร่า แต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง” อาโซก้าพูดไว้กับซาบีน เธอต้องเปิดแผนที่ที่จะชี้ไปยังจุดที่จะพบตัวธรอว์นให้ได้ ซึ่งนั่นก็เป็นแผนที่ที่จะสืบหาร่องรอยของเอสร่า ศิษย์คนหนึ่งของอาโซก้า ผู้เป็นคนสำคัญของซาบีน ด้วยเช่นกัน เรื่องราวที่จะโฟกัสไปที่เจไดคนสำคัญในจักรวาลสตาร์วอร์ส ผู้ที่เคยปรากฏอยู่ในหนังและซีรีส์หลายเรื่อง จำได้ว่าเคยเจอตอนนดูหนังแอนิเมชันภาค ‘Star Wars: The Clone Wars’ และล่าสุดก็คือซีรีส์ ‘The Mandalorian’

วันนี้ เธอมีเรื่องราวของตัวเองจะมาเล่าให้พวกเราสาวกสตาร์วอร์สได้รับชมกัน

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Ahsoka’

จักรวรรดิกาแลกติกที่ชั่วร้ายได้ล่มสลายลง สาธารณรัฐใหม่เฟื่องฟูขึ้นมาแทนที่ ทว่าเหล่าทหารที่ชั่วร้ายได้เริ่มแผนที่จะทำลายสันติภาพอันเปราะบาง ด้วยการตามหาจอมพลอิมพีเรียลที่ชื่อ ธรอวน์ และนำตัวเขากลับมา แม้จะถูกคาดว่าตายไปแล้วในศึกที่โลธัล แต่ข่าวลือเรื่องธรอว์นกลับมา ก็ทำให้พวกอิมพีเรียลที่เหลืออยู่ฟื้นคืนความหวังและเริ่มสงครามอีกครั้ง

อดีตอัศวินเจได อาโซก้า ทาโน่ (Rosario Dawson จากหนังเรื่อง ‘Unstoppable’ และซีรีส์เรื่อง ‘Dopesick’) จับสมุนของธรอว์นได้ และล่วงรู้ถึงแผนที่ลับซึ่งสำคัญต่อแผนการของศัตรู จึงออกตามหาแผนที่นั้น ขณะที่นักโทษของเธอ มอร์แกน เอลส์เบธ (Diana Lee Inosanto จากซีรีส์เรื่อง ‘The Mandalorian’ และหนังเรื่อง ‘Alita: Battle Angel’) ผู้ที่เคยเป็นพันธมิตรของธรอว์นยามเรืองอำนาจ ก็ถูกนำตัวไปไต่สวนที่สาธารณรัฐใหม่

แต่กลับถูกอาจารย์กับศิษย์ผู้แสร้งเป็นเจไดอย่าง เบย์ลัน สกอล (Ray Stevenson จากหนังเรื่อง ‘The Three Musketeers’ และ ‘Thor’) กับชิน ฮาติ (Ivanna Sakhno จากหนังเรื่อง ‘The Spy Who Dumped Me’ และ ‘Pacific Rim: Uprising’) บุกขึ้นยานของสาธารณรัฐใหม่ และชิงตัวเลดี้มอร์แกนไปได้สำเร็จ

ด้านอาโซก้าก็ไปยังวิหารโบราณบนดาวอาคาร์น่าและตามหาแผนที่ดวงดาวที่ระบุที่อยู่ของจอมพลธรอว์นจนพบ นางกับแอนดรอยด์ชื่อ ฮูแยง (David Tennant จากหนังเรื่อง ‘Fright Night’ และซีรีส์เรื่อง ‘Good Omens’) กลับมาพบกับ นายพลซิลดุลล่า (Mary Elizabeth Winstead จากหนังเรื่อง ‘Live Free or Die Hard’ และ ’10 Cloverfield Lane’) ผู้ที่บอกว่าจะเปิดแผนที่นั้นยังไง จากนั้นก็เดินทางไปหาผู้การซาบีน เร็น (Natasha Liu Bordizzo จากหนังเรื่อง ‘Day Shift’ และ ‘Guns Akimbo’) ขอให้นางช่วยหาวิธีเปิดแผนที่ให้ โดยบอกว่านี่จะเป็นวิธีการค้นหาผู้การเอสร่า บริดเจอร์ (Eman Esfandi จากหนังเรื่อง ‘King Richard’) คนที่สำคัญต่อซาบีนยิ่ง

ส่วนเบย์ลันส่งชินให้เดินทางไปยังโลธัลเพื่อตามหาซาบีนและช่วงชิงแผนที่ ทั้งยังได้ปะทะไลท์เซเบอร์กันซาบีนด้วย และนั่นคือเรื่องราวที่เล่าเพียงชั่วตอนที่หนึ่งเท่านั้น

รีวิวซีรีส์ ‘Ahsoka’

ในช่วงเวลาที่เจไดแทบไม่เหลืออยู่ในจักรวาล อาโซก้าคือหนึ่งในผู้ที่ยังหลงเหลืออยู่ นางเดินทางไปพร้อมกับหุ่นแอนดรอยด์ฮูแยง แถมนางก็ดูจะไม่ใส่ใจในโปรโตคอลใดๆ ของเจไดด้วย นั่นแหละ จึงมีคนเรียกนางว่าเป็น เจไดนอกคอก แต่ไม่ว่ายังไง จิตวิญญาณความเป็นเจไดก็ยังคงอยู่ แค่คิดและทำในแบบที่ตนเชื่อ เมื่อได้รับรู้ว่า กลุ่มกำลังจากจักรวรรดิเก่าที่ล่มสลายไปกำลังหาทางกลับมาแข็งแกร่งใหม่ นางจึงไม่รีรอที่จะเข้าขัดขวาง และการที่จอมพลอิมพีเรียลเก่าอย่างธรอว์นยังรอด ก็เป็นไปได้ว่า เอสร่า บริดเจอร์ อดีตศิษย์ของอาโซก้า ทาโน่ ก็อาจยังไม่ตาย

แนะนำตัวละครในซีรีส์ ‘อาโซก้า’ กันสักหน่อย

อาจเป็นโน้ตย่อเอาไว้เปิดดูเอง แต่ก็อาจเป็นประโยชน์ เพราะหลายคนก็อาจจะไม่ได้ติดตามจักรวาลสตาร์วอร์สมาอย่างจริงจัง แต่อยากจะลองดูอาโซก้า เราก็พอจะสรุปข้อมูลพอให้รู้จักตัวละครสำคัญในเรื่องให้ได้ประมาณนี้

อาโซก้า ทาโน่

เจไดผู้ที่เคยเป็นศิษย์ของอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (ผู้ที่อนาคตจะกลายเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ นั่นแหละ) แต่ยังไม่ได้ฝึกจนสำเร็จ และไม่ทันทีสงครามโคลนจะจบ อาโซก้าก็หนีและจากมา เป็นเจไดสาวผู้เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ กระตือรือร้น และมีไหวพริบ อาวุธที่ใช้เป็นสองไลท์เซเบอร์แสงสีขาว เธอเคยเป็นอาจารย์ของเอสร่า และเคยเป็นอาจารย์ของซาบีน ในซีรีส์เรื่องนี้ เธอจะได้กลับมาร่วมงานกับซาบีนคนดื้อรั้นอีกครั้ง และทั้งสองจะกลายเป็นอาจารย์และศิษย์กันอีกหน

นายพลซิลดุลล่า

เฮร่า ชิลดุลล่า คือนายพลหญิงที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอาโซก้า คอยช่วยเหลือในทุกด้านเท่าที่อำนาจหน้าที่จะทำให้เป็นไปได้ ทั้งยังเป็นคนช่วยกล่อมให้อาโซก้าและซาบีนได้กลับเป็นอาจารย์และพาดาวานกันอีกครั้งด้วย เคยสู้รบกับจอมพลธรอว์นมาก่อน ล่วงรู้นิสัยของคนผู้นี้ดี เป็นแม่ของเจสัน (Jacen) ลูกชายผู้มีพลังและอยากเป็นเจได

ผู้การซาบีน เร็น

หนึ่งในกลุ่มผู้นำกบฏ หญิงสาวจอมเฟี้ยวชาวแมนดาลอร์ที่ไว้ผมสีส้มและม่วงยาวสลวย อาศัยอยู่บนหอสื่อสารเก่า ดูชอบสันโดษ มีความคิดเป็นของตัวเอง อารมณ์ศิลป์เป็นบางคราว และยังคงคิดถึงเอสร่าผู้เป็นครอบครัวเดียวที่เหลืออยู่ ได้ยินนางเรียกอาโซก้าว่า เคยเป็นศิษย์ของอาโซก้า แต่ไม่ค่อยลงรอยกัน อาโซก้ามองว่านางเป็นคนหัวดื้อ แต่นางก็เป็นคนฉลาดจนจำเป็นต้องพึ่งพา ในซีซันนี้ เราจะได้เห็นว่า แม้จะยังไม่ค้นพบพลัง แต่นางก็ตัดสินใจตัดผมสั้น สวมชุดเกราะแบบชาวแมนดาลอร์ และกลับไปเป็นเจไดอีกครั้ง อีกอย่างก็คือ ไลท์เซเบอร์ที่นางใช้นั้นเคยเป็นของเอสร่ามาก่อน

เบย์ลัน สกอล

คือชายผู้ที่แสร้งเป็นเจไดเพื่อลงจอดบนยานลำใหม่ของสาธารณรัฐใหม่พร้อมศิษย์ แล้วชิงตัวมอร์แกนไป เป็นผู้ที่เคยเรียนศาสตร์ของเจได และเคยหายตัวไปในช่วงสิ้นสุดสงครามโคลนเช่นเดียวกับเจไดอีกหลายคน

ชิน ฮาติ

นางคือศิษย์ของเบย์ลัน มีความสามารถในการใช้ไลท์เซเบอร์ เอกลักษณ์อันโดดเด่นคือเป็นสาวผมสั้นสีขาว กับโครงหน้าเฉี่ยวๆ

เรื่องราวของการกลับมาของอาจารย์เจไดและพาดาวาน

อาโซก้า และ เซบีน เคยเป็นอาจารย์เจไดและพาดาวานกันมาก่อน ก่อนที่จะเหินห่างกันไป สาเหตุก็คือซาบีนต้องเสียครอบครัวที่แมนดาลอร์เพราะอาโซก้าไม่เชื่อใจนาง คราวนี้ จะเป็นโอกาสให้ทั้งคู่ได้กลับมารื้อฟื้นและสานต่อความเป็นอาจารย์และศิษย์กันอีกหน ด้วยเหตุที่แตกต่าง คนหนึ่งต้องการหยุดยั้งสงคราม แต่อีกคนต้องการค้นหาเอสร่า

ด้านฝั่งตัวร้าย เรื่องนี้มี มอร์แกน เอลส์เบธ เป็นแกนกลาง ผู้ต้องการค้นหาจอมพลธรอว์น (Grand Admiral Thrawn) คนที่จะกลับมาในฐานะผู้สืบทอดจักรวรรดิ และเป็นผู้จุดประกายอำนาจอันยิ่งใหญ่เพื่อทำลายและเริ่มใหม่อีกครั้ง

เบย์ลัน และ ชิน คืออาจารย์และศิษย์ที่เคยฝึกฝนตนเองในนิกายเจไดมาก่อน แต่ก็หันเข้าด้านตรงข้ามกลายเป็นดาร์กเจได เพื่อก่อสงครามครั้งใหม่ พวกเขากำลังสร้าง “ดวงตาแห่งไซออน” ยานสร้างไฮเปอร์สเปซขนาดยักษ์เพื่อย่นระยะทางในการเดินทางไปยังจุดที่เชื่อว่าจอมพลธรอว์นจะอยู่

บางครั้ง เราต้องทำสิ่งที่ถูก โดยไม่สนความรู้สึกส่วนตัว

สิ่งที่น่าสนใจใน ‘อาโซก้า’ ซีซันแรกนี้ ก็คือ ความขัดแย้งทางความคิดของอาจารย์เจไดกับพาดาวาน ที่ทำให้เกิดเรื่องเกิดราวขึ้นมา เพราะอาจารย์มองถึงการขัดขวางไม่ให้ตัวร้ายได้แผนที่ไป อันจะเป็นการหยุดยั้งการเกิดสงครามครั้งใหม่ ขณะที่พาดาวานมองเห็นประโยชน์ของแผนที่เพียงเครื่องมือที่จะนำไปพบเจอกับเอสร่า คนที่เป็นเหมือนครอบครัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ของตน

สิ่งที่เราจะมองเห็นได้จาก ‘อาโซก้า’

ในช่วงที่นายพลซิลดุลล่าพูดคุยคนจากสภาเพื่อขออนุมัติการทำภารกิจช่วยเหลืออาโซก้านั้น ดูเหมือนฝ่ายการเมืองจะมองไม่เห็นถึงความสำคัญของการหยุดยั้งสงครามรอบใหม่ครั้งนี้ พวกเขาสนใจแต่การดูแลผู้คนในช่วงการเปลี่ยนผ่านมากกว่า ซึ่งมันก็ส่งผลให้การทำงานของเจไดนอกคอกต้องเข้าขั้นยุ่งยาก มันเหมือนกับการทำอะไรที่มองว่าถูกต้องของคนดีสักคนในสังคม แต่ถูกรัฐมองว่าไร้ค่า กว่าจะที่รัฐจะรู้ตัวก็คือภัยร้ายครั้งใหญ่แผ่กระจายไปทั่วประเทศแล้วนั่นแหละ

สำหรับ ซีรีส์ภาคแยกของเจไดนอกคอก มันอาจมีหลายซีซันก็ได้ แต่น่าจะใช้เพื่อการเชื่อมโยงกับหนังและซีรีส์เรื่องอื่น เพื่อการเขียนเรื่องราวในจักรวาลสตาร์วอร์สให้แตกต่างออกไปก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

แต่ที่แน่ๆ ซีซันนี้จะพูดถึงการเดินทางในสไตล์ซามูไรพเนจรของอาโซก้า การฝึกฝนเพื่อเป็นเจไดของซาบีน การกลับมาเป็นอาจารย์เจไดอีกครั้งของอาโซก้า การได้พบเจอและเคลียร์ใจกับอาจารย์ที่เธอหนีมา ได้พบกับเหล่าดาร์กเจได อินควิซิเตอร์ที่อาจหลงเหลืออยู่ เหล่าดรอยด์ตัวร้าย หุ่นกระป๋องช็อปเปอร์ และอีกมากมาย ผู้ชมจะได้พบกับหลายตัวละครที่เคยปรากฏอยู่ในซีรีส์และหนังหลายๆ เรื่อง พวกเขาจะถูกนำมาเล่าด้วยกันอีกครั้ง ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของสงครามจักรวาล ดูหนังและซีรีส์มาทุกเรื่อง จดจำตัวละครได้ทุกตัว น่าจะตื่นตากับการได้เห็นพวกเขาในซีรีส์คนแสดงเรื่องนี้

และสำหรับคนที่อาจติดตามมาไม่มากพอ อาจจะรู้สึกอยากกลับไปติดตาม ‘Star Wars: The Clone Wars’ ทั้งเวอร์ชันหนังและซีรีส์, ‘Star Wars: Rebels’ รวมไปถึงการตามเรื่องราวของ ‘The Mandalorian’ และ ‘The Book of Boba Fett’ เอาให้มันครบๆ กันไปเลย

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์