บทความนี้ว่าด้วย : มารยาทในการใช้โรงหนังร่วมกัน

รวบรวมมารยาทในการใช้โรงหนังมาให้อ่านกัน หากคิดว่าทำไม่ได้ กรุณาอย่าดูหนังในโรง ซื้อแผ่นกลับไปดูบ้านจะเป็นการดีที่สุด

จากเหตุที่เป็นคนเข้าโรงหนังบ่อย จึงได้พบเห็นพฤติกรรมการชมหนังในโรงที่ไม่พึงประสงค์อยู่บ่อยๆ ว่าจะหยิบมาเขียนถึงอยู่หลายที วันนี้ คงได้เวลาแล้วกระมัง ขอเขียนถึงสักหน่อย เผื่อว่าใครจะมีแนวคิดอะไรเพิ่มเติม หรือเห็นว่ามันมีประโยชน์ในการใช้โรงหนังโรงภาพยนตร์ร่วมกัน ก็จะได้เอาไปใช้หรือไปบอกต่อกันบ้าง อันนี้ ก็แล้วแต่ของใครของมันนะครับ

มารยาทในการใช้โรงหนังร่วมกัน

ผมพยายามสอบถามจากคนอื่นๆ ที่มีประสบการณ์แย่ๆ ในโรงภาพยนตร์ ก่อนจะนำมาประมวลรวมกับประสบการณ์ของตัวเอง ขอสรุปมาอย่างคร่าวๆ ดังนี้เลยแล้วกัน

หากว่า คุณมีประสบการณ์อื่นๆ เพิ่มเติม ก็สามารถคอมเมนต์ตอบมาข้างล่างได้เลยนะครับ


01 พึงงดใช้เครื่องมือสื่อสารในโรงภาพยนตร์

ดูจะเป็นเรื่องที่พบเจอได้บ่อยสุดแล้วล่ะครับ ปัญหานี้ ยิ่งโลกปัจจุบัน Smartphone ได้รับความนิยมอย่างมาก ใครๆ ก็พก BB, Android, iPhone เข้าโรงหนัง โดยไม่อาจสะกดตัวเองให้ปิดมันได้ หลายคนยังนั่งโพสต์นั่งแชทในโรงอย่างไม่สนใจว่า จะรบกวนคนอื่นแต่อย่างใด แสงของมือถือจะสว่างแยงตาผู้คนที่ร่วมอยู่ในโรงภาพยนตร์รอบเดียวกับท่าน ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะเปิดทิ้งไว้ เพราะ Smartphone มีระบบแจ้ง Notifications ซึ่งจะดึงสมาธิของเจ้าของให้หยิบมันขึ้นมาดู หลายคนก็อดไม่ได้อ่านข้อความแล้วตอบกลับอีกต่างหาก บางคนหนักกว่านั้น พกพา Tablet เข้าไปเล่นเลยก็มี แสดงให้เห็นถึงจิตสำนึกที่ตกต่ำถึงขีดสุด

สิ่งที่ควรทำ : ปิดโทรศัพท์มือถือทุกครั้งก่อนเข้าโรงหนัง หรือไม่ก็สั่งให้เข้าสู่ Airplane Mode ซึ่งจะปิดการทำงานของระบบโทรศัพท์บางส่วนไป


02 พึงปิดเครื่องมือสื่อสารก่อนเข้าโรงหนังทุกครั้ง

จากประสบการณ์ที่พบเจอมา เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นโรง หลายคนเลือกรับเพื่อบอกว่า “ดูหนังอยู่ แค่นี้ก่อนนะ” แต่หลายคนอาจรับและคุยไปเรื่องเป็นราว เสียงดังลั่นโรง อันแสดงให้เห็นถึงความไม่เกรงใจคนอื่นๆ ที่เสียตังค์มาดูหนังรอบเดียวกับคุณ ซึ่งไม่ว่าจะกรณีไหนๆ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำทั้งสิ้น การปิดและไม่ใช้โทรศัพท์มือถือในชั่วเวลา 2 ชั่วโมง ควรทำให้ได้และเป็นสิ่งที่ควรฝึกทำให้สำเร็จด้วยครับ

สิ่งที่ควรทำ : ปิดโทรศัพท์มือถือทุกครั้งก่อนเข้าโรงหนัง หรือไม่ก็สั่งให้เข้าสู่ Airplane Mode ถ้าต้องการเปิดจริงๆ แต่ไม่ต้องการให้รบกวนผู้อื่น ควรเลือกเปิดสั่น (หากทำไม่เป็น ควรศึกษาไว้เสียแต่ตอนนี้) และห้ามรับสายเป็นอันขาด หากพบเห็นคนข้างๆ กรุณาเตือนให้เขาปิดด้วยนะครับ อย่าเกรงใจ


03 พึงงดใช้เสียงและพูดจาขณะชมภาพยนตร์

หลายครั้ง ผมก็พบว่า คนดูที่มากันเป็นคู่หรือกลุ่ม มักจะคุยกันในโรงเสมือนหนึ่งสถานที่นัดพบเพื่อนเก่า ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่เลย โรงหนังคือที่ที่คนจ่ายเงินเพื่อเข้ามาดูหนัง เขาต้องการได้รับอรรถรสเต็มๆ ที่จากหนังที่เขาเลือกมาดู ถ้าจะพูดคุยกัน แม้ว่าจะเกี่ยวกับหนังที่ดูอยู่ ก็ควรจะใช้เสียงให้เบาที่สุดและพูดกันน้อยที่สุด ให้เวลาสมองและจิตใจตัวเองจดจ่ออยู่กับหนังให้มากที่สุด คุณอาจจะเข้าใจหนังได้เองเมื่อถึงเวลาที่ผู้กำกับฯ ต้องการ สำหรับผู้ที่ดูหนังเรื่องนั้นมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งรอบ กรุณาให้ผู้เพิ่งมาดูในซึมซับหนังด้วยตนเอง ไม่ต้องทำตัวเป็นกูรู เช่นกัน ผู้ที่มากับกูรู กรุณาใช้สมองในการทำความเข้าใจหนังเองก่อน ส่วนจะสอบถามอะไรกับก็ควรจะเป็นในช่วงเดินออกจากโรงไปแล้ว

สิ่งที่ควรทำ : ดูหนังด้วยตาและสมองของคุณเอง ใช้ปากให้น้อยที่สุด รบกวนคนอื่นด้วยเสียงของคุณให้น้อยที่สุด


04 พึงศึกษาภาพยนตร์ที่จะเข้าไปดู และพึงหลีกเลี่ยงการนำเด็กเล็กเข้าไปชม

หลายครั้งที่ผมเข้าไปชมภาพยนตร์โดยไม่ได้ศึกษาอะไรไปเลย แต่อย่างน้อยผมก็พอรู้ว่ามันเป็นหนังแนวใด เกี่ยวกับอะไร และเนื่องจากไปกันแบบผู้ใหญ่ๆ จึงไม่มีปัญหาในการเข้าไปชมหนังที่ไม่เหมาะกับวัย ไม่มีลูกเด็กเล็กแดง จึงไม่ต้องห่วงว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นจะไม่เหมาะกับเด็กคนไหนที่พาไปด้วย หลายครั้งที่ผู้ใหญ่ผู้มีลูกหลาน อยากดูหนัง แต่ต้องพาลูกๆ เข้าไปดูหนังด้วย โดยลืมไปว่าเด็กคงกำลังช่างซักช่างถาม ยังไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำไม่ควรทำในโรงหนัง ก็มักจะนั่งถามเป็นเจ้าหนูจัมไมตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง คนข้างๆ ก็ไม่ต้องดูหนังกันพอดี หรือบางครั้งบางหน เด็กที่ยังไม่รู้ประสาสมาธิสั้น พอพบว่า ดูหนังไม่รู้เรื่อง ไม่ถูกใจ เพราะไม่ใช่หนังในแบบที่เด็กจะชอบ ก็โหวกเหวกโวยวายอยากกลับบ้าน ซึ่งไม่ใช่ความผิดอะไรของผู้ชมคนอื่นๆ เลย ที่ต้องมาฟังเสียงทะเลาะกันของพ่อแม่ลูกกลุ่มนั้น

หนังบางเรื่องก็โหดเกิน มีฉากเซ็กซ์เยอะเกิน หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมเกิน หรือรายละเอียดสูงเกินที่เด็กจะเข้าใจ พาเข้าไปดู คิดว่าเหมาะสมหรือครับ?

สิ่งที่ควรทำ : พาบุตรหลานไปดูเฉพาะหนังสำหรับเด็กเท่านั้น พิจารณาด้วยว่า ลูกหลานมีวุฒิภาวะพอจะไปดูหนังร่วมกับคนอื่นหรือยัง ถ้ามีปัญหา ควรหาหนังมาดูกันเองในบ้านดีกว่า


05 พึงไม่เตะเก้าอี้เบาะด้านหน้าของท่าน

เคยได้ยินคนเล่าประมาณว่า คนข้างหลังยกขามาพาดเบาะมั้ยครับ? อันนี้ ผมก็ยังไม่เคยเจอด้วยตัวเอง เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งครับ บางคนขายาว การนั่งนานๆ อาจมีอาการเมื่อยได้บ้าง เมื่อเปลี่ยนท่านั่งก็มีโอกาสที่ขาหรือเท้าจะไปโดนเบาะหน้าได้ บางคนที่พาเด็กเข้ามาด้วย เด็กไม่รู้ประสีประสาเตะขาไปโดนเบาะหน้า นึกว่าเป็นสิ่งเพลินๆ ผู้ปกครองพ่อแม่ก็ควรตักเตือนเช่นกันครับ

สิ่งที่ควรทำ : เก็บขาของคุณให้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่โดนเบาะหน้า หากขายาวจริงๆ ควรเลือกที่นั่งที่ด้านหน้าเป็นทางเดินหรือเลือกที่นั่งริมทางเดิน จะได้เหยียดแข้งขาได้บ้าง


06 พึงสวมใส่รองเท้าให้มิดชิด ระวังกลิ่นจากเท้าของคุณ

มีบางที ผมเข้าไปนั่ง เจอคนข้างๆ ยกเท้าขึ้นมาเก้าอี้ กลิ่นเหม็นเท้าโชยเข้าจมูกเต็มๆ อันนี้ เจ้าของเท้าควรจะรู้จักเท้าตัวเองดีว่า เมื่อมีเหงื่อออก เมื่อใส่รองเท้าหนังหรือเปิดโล่ง เท้าเราเองนั้นมีกลิ่นเหม็นแรงหรือไม่ และรู้ว่าควรทำอย่างไร กลิ่นมันถึงจะไม่ออกมารบกวนผู้อื่น เพราะไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว แถมอยู่ในพื้นที่ปิดอย่างโรงภาพยนตร์ด้วย เกรงใจคนรอบข้างหน่อยก็คงจะดี

สิ่งที่ควรทำ : ใส่รองเท้าหุ้มส้นเป็นดีที่สุด ไม่ยกเท้าขึ้นมาแม้จะนั่งสบายที่สุดก็ไม่สมควร ดูแลสุขภาพเท้าและไม่สร้างกลิ่นรบกวนคนข้างๆ คุณ


07 พึงเข้าโรงภาพยนตร์ทันเวลาฉาย

เราอาจใช้ข้ออ้างว่า โรงภาพยนตร์ฉายโฆษณาและหนังตัวอย่างเป็นเวลานาน จึงเลือกเข้าโรงช้าๆ นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ดีครับ แต่ก็ต้องประกอบไปกับการเลือกที่นั่งริมทางเดินไปด้วย เพราะหากคุณซื้อบัตรชมในที่นั่งกลางๆ แต่คุณเข้าโรงช้า คุณจะรบกวนการดูหนังของคนที่เข้าไปก่อนในช่วงของการเดินแทรกตัวเข้าไปนั่ง ก่อนจะให้เหตุผลใดๆ ควรปรับปรุงตัวเองด้วยเช่นกัน

สิ่งที่ควรทำ : เข้าโรงหนังให้เร็ว โดยให้อยู่ในช่วงเวลาฉายหนังโฆษณาและหนังตัวอย่าง


08 ข้ออื่นๆ ที่พึงกระทำเมื่อต้องเข้าโรงหนัง

——————————–

หากว่า คุณมีประสบการณ์อื่นๆ เพิ่มเติม ก็สามารถคอมเมนต์ตอบมาข้างล่างได้เลยนะครับ ทั้งนี้ทั้งนั้น หากคุณโดนผู้ร่วมชมภาพยนตร์ข้างๆ คุณเตือนถึงพฤติกรรมของคุณ กรุณารับรู้ว่า คุณกำลังรบกวนอรรถรสของคนข้างๆ ให้หยุดพฤติกรรมนั้นโดยด่วน

หากคิดว่าทำไม่ได้ กรุณาอย่าดูหนังในโรง ซื้อแผ่นกลับไปดูบ้านจะเป็นการดีที่สุดครับ!

Exit mobile version