รีวิวหนัง City Hunter | ซาเอบะ เรียว ที่แทบจะถอดแบบมาจากการ์ตูน

นักสืบจอมทะเล้นกลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบหนังเน็ตฟลิกซ์ที่แทบจะถอดแบบจากมังงะ เล่าเรื่องรวบรัด ฉากแอ็คชันทำได้น่าสนุกดี

เชื่อว่าน่าจะมีหลายคนที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้ ที่เคยผ่านตากับการ์ตูนเล่ม (ที่เดี๋ยวนี้เรียกทับศัพท์ว่า มังงะ) เรื่องราวของสุดยอดนักสืบหนุ่ม ‘City Hunter’ ที่มีความเก่งกาจในด้านการสืบและฝีมือการต่อสู้ระดับเยี่ยมยอด แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตรงความเป็นชายแท้ที่ค่อนข้างเปิดเผย แต่วันนี้เน็ตฟลิกซ์เขาหยิบเอา ‘ซิตี้ ฮันเตอร์’ สไตล์นั้นกลับมาให้เราได้เสพกันแล้วล่ะครับ

ภาพจากหนังญี่ปุ่นเรื่อง ‘ซิตี้ ฮันเตอร์’
source: Netflix

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

หนังญี่ปุ่นในเน็ตฟลิกซ์ที่สร้างมาจากมังงะเลื่องชื่อเมื่อราว 30 ปีก่อน เรื่องของนักสืบจอมทะเล้นที่รับไขคดีผ่านเว็บบอร์ด หลังสูญเสียคู่หู เขาก็ร่วมมือกับน้องสาวเพื่อสืบหาความจริงเบื้องหลังเหตุประหลาดที่เกิดขึ้นในชินจูกุ หนังและนักแสดงค่อนข้างดึงเอาความเป็นซาเอบะ เรียว ในเวอร์ชันมังงะออกมาได้ดี ยังพอเห็นความหื่นและชอบเน้นพลัง Beep Beep อยู่แต่แค่อาจลดดีกรีลงไปบ้าง เรื่องราวก็เดินอย่างฉับไว จนบางทีก็รู้สึกว่าไวไปนิด ขณะที่ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้สนุก มีช็อตให้บันเทิงให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ

พอมองเห็นว่าหนังน่าจะต้องการมีภาคต่อ แต่ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับเสียงตอบรับในภาคแรกนี้นี่แหละ


เรื่องย่อหนัง ‘City Hunter’

ซาเอบะ เรียว (Ryohei Suzuki จากหนังเรื่อง ‘Egoist’ และ ‘Tokyo MER: Mobile Emergency Room The Movie’) สุดยอดนักสืบที่แฝงตัวช่วยเหลือผู้คน เมื่อใดที่มีคนต้องการความช่วยเหลือ ก็จะโพสต์บนเว็บบอร์ดพร้อมกับระบุรหัส XYZ ด้วยเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน มีหญิงคนหนึ่งที่ต้องการให้เขาช่วยเหลือน้องสาว ทำให้เขากับเพื่อนคู่หูอย่าง ฮิเดะยูกิ มาคิมุระ (Masanobu Ando จากหนังเรื่อง ‘Rurouni Kenshin: The Beginning’) ต้องออกไปตามหา คุรุมิ (Asuka Hanamura) สาวคอสเพลย์ชื่อดัง

ตัวอย่างหนังเรื่อง ‘ซิตี้ ฮันเตอร์’ [ซับไทย]

ในเวลาเดียวกันนั้น ก็เกิดเหตุประหลาดขึ้นในย่านชินจูกิ ซาเอโกะ โนกามิ (Fumino Kimura จากหนังเรื่อง ‘The Fable: The Killer Who Doesn’t Kill’) ตำรวจสาวสายสืบก็กำลังวุ่นวายกับคดีที่น่าสงสัยนี้ ระหว่างที่เรียวและฮิเดะยูกิกำลังติดตามคุรุมิ ก็เกิดเหตุน่าเศร้าใจ เมื่อฮิเดะยูกิถูกฆ่าตาย ทำให้คาโอริ (Misato Morita จากซีรีส์ ‘The Naked Director’) น้องสาวของฮิเดะยูกิร้องขอให้เรียวเปิดโปงความจริงเบื้องหลังการตายของพี่ชาย


รีวิวหนัง ‘ซิตี้ ฮันเตอร์’

ที่จริงการ์ตูนเรื่องนี้มันก็เป็นมังงะที่อยู่มานานเหมือนกันนะ คนที่จะรู้จักคุ้นเคยขนาดอ่านการ์ตูนเล่มก็คงต้องเรียกว่ามีอายุได้ประมาณหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากจะเป็นมังงะ ก็ยังมีการสร้างเป็นการ์ตูนทางทีวี เวอร์ชันภาพยนตร์ก็มีทั้งแอนิเมชันและแบบคนแสดง โดยเฉพาะแบบคนแสดงนี่เป็นของฮ่องกงที่มีเฉินหลงเล่นเป็นพระเอกเลยด้วยซ้ำ เวอร์ชันซีรีส์ก็มีแล้วอีก ทั้งยังเคยถูกดัดแปลงไปเป็น ‘ซิตี้ ฮันเตอร์’ เวอร์ชันเกาหลีเลยด้วยซ้ำ ครั้งนี้ เหมือนกับการหยิบเอาการ์ตูนดังในอดีตกลับมาปัดฝุ่นใหม่ให้คนรุ่นเราได้รำลึกกันอีกหนว่า ครั้งหนึ่งก็เคยมีการ์ตูนที่พระเอกมีบุคลิกจอมหื่นแบบนี้

ซาเอบะ เรียว พ่อหนุ่มนักกวาดล้างอาชญากรตัวปั่นแห่งชินจูกุ เขาชื่นชอบสาวสวย เมื่อไหร่ที่เขาเห็นสาวสวยสักคน เขาจะไม่รีรอที่จะเข้าไปพูดคุย คือแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งไม่มีปิดบัง นัยว่ามีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงว่างั้นเถอะ ชอบทำหน้าทะเล้น และชอบพูดอะไรแบบ Beep Beep คือถ้าอ่านการ์ตูนมาก่อนก็คงจะเข้าใจตาคนนี้มันหื่นแค่ไหนยังไงอะนะ และเขาก็มักจะได้ทำงานหรือพบเจอกับสาวสวยทั้งนั้นซะด้วยสิ

Misato Morita ที่เล่นเป็นคาโอริ ในหนังเรื่อง ‘ซิตี้ ฮันเตอร์’

ภาคนี้ เขาเล่าเรื่องของเพื่อนคามิคุระที่เป็นคู่หูแต่ต้องจากไปเร็วเกินคาด ส่งผลให้คาโอริมุ่งมั่นอยากจะร่วมขบวนสืบคดี ก่อนที่หนังจะเล่าไปถึงกลุ่มวายร้ายที่วางแผนทดลองยาเพิ่มพลัง แต่ผลข้างเคียงคือทำให้เกิดอาการบ้าคลั่ง ทั้งคาโอริและซาเอบะ เรียว จึงต้องเข้าไปไขคดีนี้

หลังจากนายแพทไม่ได้รับชมคอนเทนต์ของพ่อหนุ่มนักสืบจอมหื่นในตำนานมานาน พอมาได้ดูเวอร์ชันนี้ก็ทำให้รู้สึกว่า หนังมันตั้งใจทำมาให้มีความใกล้เคียงกับฉบับมังงะอยู่มากพอควรเลยแหละ ซึ่งพ่อหนุ่ม เรียวเฮ ซูซูกิ ก็สวมบทบาทเอาไว้ได้ดี ใส่ความทะเล้น ขี้เล่น ทะลึ่งตึงตัง เข้าไป หนังอาจจะมีหน่มน้มหลายช็อตนิดนึงไรงิ นอกจากนี้ รถเก่งคันเล็กสีแดงที่เขาใช้นั่นก็ยิ่งทำให้ย้อนนึกถึงวันที่อ่านการ์ตูนเข้าไปใหญ่

โปสเตอร์หนังญี่ปุ่นทาง Netflix เรื่อง ‘City Hunter’
source: Netflix

สำหรับเวอร์ชันภาพยนตร์ฉบับ ค่อนข้างเดินเรื่องกระชับและรวบรัดพอสมควรในช่วงแรกๆ สองสามเหตุการณ์อาจเกิดขึ้นต่อเนื่องได้ในฉากเดียว ทำให้หนังมีเวลาเน้นช่วงแอ็คชันได้เต็มที่ ยิ่งช่วงหลังยิ่งใส่ยาวๆ ให้ผู้ชมได้ลุ้นสนุก หลายช็อตได้ฮา ได้หัวเราะ กลายเป็นหนังที่ดูสนุกโดยเฉพาะเมื่อมองว่า มันมาจากโลกที่ถูกสร้างไว้ในช่วงยี่สิบปีก่อน มันก็เหมือนเรากลับไปอ่านมังงะที่ออกมาในช่วงเวลานั้นอีกครั้ง โดยไม่ได้ตั้งใจจะปรับเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยอย่างที่หลายเรื่องเขาทำกัน

หนังมีบางส่วนที่เล่าถึงวงการคอสเพลย์ ทำให้มีกลิ่นอายโอตาคุอยู่หน่อย ๆ ซึ่งน้องที่เล่นเป็นสาวคอสเพลย์ ตอนปกติก็อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่พอแต่งแล้วก็เออน่ารักดีแฮะ เช่นเดียวกับ มิซาโตะ โมริตะ ที่ต้องให้เวลาผ่านไปสักพัก ถึงจะพบว่าน้องเขาก็มีเสน่ห์เหมือนกันนี่นา

ภาพจากหนังญี่ปุ่นในเน็ตฟลิกซ์ เรื่อง ‘City Hunter’

เวอร์ชันนี้น่าจะได้เสียงตอบรับที่ค่อนข้างแตกต่างไปพอสมควร ส่วนหนึ่งก็คงเพราะผู้ชมที่เปิดดูอยู่ในวัยที่แตกต่างกัน อีกทั้งโลกในตอนนี้มันก็เปลี่ยนไปมากแล้วด้วย บางคนอาจไม่ค่อยชื่นชอบในบุคลิกของตัวเอก แม้ว่าความจริงแล้ว คนทำเขาก็ดูจะตัดตอนความทะลึ่งทะเล้นของซาเอบะ เรียว ไปพอสมควร

ต่อเมื่อเรื่องราวที่เดินมาจนถึงฉากสุดท้าย บ่งบอกเราว่า คนทำคงไม่ต้องการจะที่เล่าสุดแค่ภาคนี้ เพราะเรื่องมันยังดูจะไปต่อได้ในภาคที่สอง มีบางตัวละครที่น่าจะถูกหยิบมาเล่าถ้ายังมีอีกภาค ซึ่งทั้งหมดก็คงต้องแล้วแต่ฟีดแบ็กที่เน็ตฟลิกซ์ได้รับนั่นแหละ


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์City Hunter / ซิตี้ ฮันเตอร์
กำกับYuichi Sato
เขียนบทTatsuro Mishima,​ Tsukasa Hojo (manga)
แสดงนำRyohei Suzuki, Misato Morita, Masanobu Ando, Fumino Kimura, Asuka Hanamura
แนว/ประเภทแอ็คชัน, คอมเมดี้, อาชญากรรม
เรทTV-MA
ความยาว102 นาที
ปี2024
สัญชาติญี่ปุ่น
เข้าฉายในไทย25 เมษายน 2024
ผลิต/จัดจำหน่ายNetflix

คะแนนหนัง ซิตี้ ฮันเตอร์

พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7.5
การดำเนินเรื่อง - 7.5
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษ และโปรดักชัน - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7

7.3

City Hunter

หนังญี่ปุ่นในเน็ตฟลิกซ์ที่สร้างมาจากมังงะเลื่องชื่อเมื่อราว 30 ปีก่อน เรื่องของนักสืบจอมทะเล้นที่รับไขคดีผ่านเว็บบอร์ด หลังสูญเสียคู่หู เขาก็ร่วมมือกับน้องสาวเพื่อสืบหาความจริงเบื้องหลังเหตุประหลาดที่เกิดขึ้นในชินจูกุ หนังและนักแสดงค่อนข้างดึงเอาความเป็นซาเอบะ เรียว ในเวอร์ชันมังงะออกมาได้ดี ยังพอเห็นความหื่นและชอบเน้นพลัง Beep Beep อยู่แต่แค่อาจลดดีกรีลงไปบ้าง เรื่องราวก็เดินอย่างฉับไว จนบางทีก็รู้สึกว่าไวไปนิด ขณะที่ฉากแอ็คชั่นก็ทำได้สนุก มีช็อตให้บันเทิงให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ พอมองเห็นว่าหนังน่าจะต้องการมีภาคต่อ แต่ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับเสียงตอบรับในภาคแรกนี้นี่แหละ

User Rating: 3.7 ( 1 votes)
Exit mobile version