น่าแปลกที่ตัวอักษรไม่ค่อยอยากจะออกจากหัวเอาเสียเลย ช่วงนี้ ปล่อยให้มันผ่านมาเป็นวันๆ ก็แล้ว แต่ก็ยังหาอารมณ์เขียนถึงหนังเรื่องที่เพิ่งไปดูมาได้ยากเย็นเสียเหลือเกิน
ครับ ผมไปดูหนังเรื่อง ‘ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น’ มาเรียบร้อยแล้วครับ แต่รอมันตกตะกอนอยู่ กลัวว่า ถ้ารอให้เนิ่นนานไป ผมจะหมดปัญญาเข็นตัวอักษรออกจากหัวเสียก่อน ขอเขียนมันเลยก็แล้วกัน ดีไม่ดี อย่าว่ากันนะครับ วันนี้ ฉลองเปลี่ยนธีมใหม่ด้วย โมเสร็จสรรพ แต่ก็ฟีลลิ่งก็ยังไ่ม่มา สงสัยต้องไปนั่งดูอีกรอบ (มีเวลาเปล่าเหอะ)
หนังเรื่องเป็นหนังวัยรุ่นครับ เข้าโปรแกรมฉายตอนช่วงปิดเทอมใหญ่พอดิบพอดี กระแสก็แรง คนไปดูกันเพียบ เต็มโรง รายได้ท่าจะไปได้สวย การบอกต่อก็เป็นอีกแรงที่ทำให้หนังเรื่องนี้พุ่งทะยาน ทั้งด้านรายได้และยอดคนดู
เรื่องราวของหนุ่มสาววัยกระเตาะทั้งสี่รุ่น 4 เรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ดำเนินไปพร้อมๆ กัน เป็นแง่มุมความรักที่หลากหลาย แตกต่าง แต่ก็จี๊ดโดนใจหลายๆ คน เพราะไม่ว่าใครก็คงเคยผ่านช่วงเวลาอันหอมหวาน ของความเป็นวัยรุ่นกันมาทั้งนั้น
หนังวัยรุ่นอะไรก็ไม่รู้ ดูเพลินและอินขนาด…
“พุ” กับ “ไม้” เพื่อนกันแบบ “เพื่อนแข่ง” แข่งขันกันทุกอย่าง หนังปูให้รู้เลยว่า สองคนนี้ชอบแข่งขัน ไม่เว้นแม้แต่การจีบสาว ชอบผู้หญิงคนเดียวกัน “นานา” มันก็เลยต้องแข่งกันหน่อย จะเสียเพื่อนหรือเปล่าไม่สน
“นานา” น่ารักจังเลย เล่นเรื่องแรก แต่กินหัวใจไปหมดแล้ว เซ็กซี่ดี แม้ไม่มีอะไรเท่าไหร่ เหอๆ
จากสาวน้อยน่ารักๆ ในแฟนฉัน วันนี้ โฟกัส กลายมาเป็นสาววัยรุ่นแฟนคลับจอมกรี๊ดแสบแก้วหูของ “ตี่ตี๋” เธอแสดงเป็น “โอ๋เล็ก” ที่ร้องเพลงทุกเพลงของศิลปินขวัญใจได้จนขึ้นใจ แต่ไม่รู้ความหมายสักคำ จนต้องไปเรียนภาษาจีน
ขำ ซึ้ง น้ำตาไหล และ … แสบแก้วหูพิลึก
โจ้” ผู้แอบรักข้างเดียว ดูจะโดนใจผมมากที่สุด แอบรัก “ซี” และพยายามจะทำทุกอย่างให้เธอรับรู้ แต่ถ้าเธอคิดกับเขาแค่เพื่อนล่ะ หัวใจมันจะแสนห่อเหี่ยวแค่ไหน
ผมเคยแอบรัก แต่ก็ไม่เคยกล้าทำอะไรแบบนั้นหรอก น้ำตาร่วงไปหลายหยดเลยเรา
อุบัติเหตุบนทางรถไฟสายรักมักเกิดขึ้นได้เสมอๆ ไม่เว้นแม้กับ “เหิร” ผู้กำลังขึ้นรถไฟไปเซอร์ไพรส์แฟน แต่กลับไปไม่ถึง เมื่อเจอกับสาวอกโตที่ชวนไปเที่ยวงานวันพระจันทร์เต็มดวงด้วยกัน หัวใจชายที่อ่อนไหวไปเพราะสาวญี่ปุ่น จะกลับมาได้ไหม
“นวล” ผู้น่าสงสาร…
4 เรื่อง 4 รุ่น 4 แง่มุมความรักของวัยหนุ่มสาว ต่างคนต่างได้รับประสบการณ์ของความรักครั้งนี้ในตอนท้าย ซึ่งก็คงเหมือนกับชีวิตจริงๆ ที่คนเรา มักได้รับบทเรียนจากอดีต เราต้องผ่าน ความสุขสมหวัง ความโศกเศร้า น้ำตา เสียงหัวเราะ ความผิดพลาด เราผ่านมันมา แต่เราก็ได้บทเรียนมาพร้อมๆ กันด้วย
แต่ในชีวิตจริง ไม่ได้มีทุกคน ที่รู้จักเอาประสบการณ์มาเป็นบทเรียน สงสัยว่า สิ่งที่ผ่านเขาไปนั้น อาจจะไม่ใช่ “ประสบการณ์” สำหรับเขาซะมากกว่า
หนังดำเนินเรื่องทั้งสี่ไปพร้อมๆ กัน แม้มันจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย เพราะผู้กำกับ “ทรงยศ” ไม่คิดจะทำตามหนังรวมเรื่องที่คนอื่นๆ ทำกัน มันคงท้าทายกว่า บางครั้ง แต่ละเรื่องก็ถูกเล่าอย่างสลับกัน บางครั้ง ก็มุ่งไปที่บางเรื่องมากหน่อย ทิ้งบางเรื่องไว้ก่อน พอเล่าจบแล้วค่อยหันกลับมาเล่าเรื่องที่ทิ้งไว้ใหม่ เพื่อรักษาอารมณ์ของหนังให้ขึ้นลงตามต้องการ
นักแสดงหญิงทุกคน “น่ารัก” ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น ต่าย ชุติมา (Seasons Change), แพท อังศุมาลิน (แสดงเป็น นานา) , จุก ธนิยา (แสดงเป็น นวล) และ โฟกัส (แฟนฉัน) ซึ่งต่ายกับแพทนี่ ความน่ารักมาคู่คี่สูสีกันมากจนไม่รู้จะเลือกใคร ส่วนโฟกัส ก็ยังตาแป๋วๆ เหมือนเดิม โตขึ้นเยอะเลยเนอะ หน้าตาเปลี่ยนไปนิดหน่อย ส่วนจุก เขาก็หน้าหมวยๆ ดี ขาวด้วย อิอิ
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ Sora Aoi หรือน้อง “อ้อย” ของหลายๆ คน ที่ทำเอาน้ำลายหกกันเป็นแถบ น่ารักใช้ได้ แต่ไม่ค่อยโดนใจผมเท่าไหร่หรอก (คงต้องตามหากันต่อไป) ทรงโตไม่ใช่สเป็กผมนี่นา ลีลาการแสดงของเธอ ผมก็ว่าไม่เท่าไหร่ แต่ก็เป็นสไตล์ผู้หญิงญี่ปุ่นอะนะ แต่คิดว่า หลายคนคงอิจฉา “เต๋อ” ที่ได้เล่นบทหวิวกับน้องอ้อย โชคดีเป็นบ้า…
เปิดเผยเนื้อหนังนิดนึงนะ ใครยังไม่ได้ดูเชิญข้าม
- ผมสงสัยนิดนึงในเรื่องของ “เหิร” เขารู้จัก Sora Aoi คนที่เป็นดาราเอวีที่โด่งดังมากๆ ของญี่ปุ่น แต่พอถามชื่อเธอ ซึ่งเธอก็เขียนในมือให้ว่า “Aoi” แล้วทำไมเหิรไม่สงสัยล่ะครับ ว่าเป็นคนเดียวกับที่ดูในดีวีดีแผ่นแท้แผ่นนั้น
- แล้วฉากนั้นของ เหิร กับ อาโออิ ช่างกล้ามาก …กันตรงนั้นเลยเหรอ
- ผมว่า เรื่องที่ใส่ลูกเล่นได้มากที่สุด น่าจะเป็น เรื่อง พุ-ไม้-นานา เล่นไปได้ถึงตอนจบทีเดียว แต่บางช่วงมันเลี่ยนไปหน่อยเท่านั้นเอง
- ซีเป็นพวกที่ขัดแย้งในตัวเองเหมือนกันเนอะ ตัวเองก็พูดเองแท้ๆ ว่า “ทำไมไม่บอกเขาไปเลย” ตอนดูหนัง แต่พอโจ้บอก ก็ดันไม่ชอบซะงั้น
หนัง Feel Good จบไปอีกเรื่อง มีคนเรียกมาอย่างนั้น ผมก็เรียกตาม ไม่รู้ว่ามันถือเป็นแนวของหนังหรือเปล่า เช่นเดียวกับ Coming-of-age อะแหละ