ภาพยนตร์

รีวิวหนัง Adrift รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน | ลอยเคว้งกลางทะเลแต่ต้องรอด

เรื่องคู่รักที่ต้องเอาตัวรอดจากมหาสมุทรเวิ้งว้าง เล่าเรื่องสลับเวลาน่าสนใจ

ได้เวลาพบกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่กำลังเตรียมเข้าฉายในบ้านเราอีกเรื่องหนึ่งแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของคนที่รักการแล่นเรือใบในทะเลแต่ต้องเจอกับพายุกระหน่ำจนต้องเคว้งคว้างกลางมหาสมุทร หนังแนวเอาชีวิตรอดกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มีเรื่องราวความรักผสมลงไปด้วย ‘Adrift’ หรือชื่อไทย ‘รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน’ นั่นเองครับ

Adrift รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน
ภาพจากหนัง ‘รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน’

ผลงานของผู้กำกับ Baltasar Kormákur ที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนัก แต่ถ้าพูดถึงหนังที่คนไทยเคยผ่านตาก็จะมี ‘2 Guns’ และ ‘Contraband’ เป็นผู้กำกับที่ชอบทำหนังเกี่ยวกับเรือและทะเลเป็นพิเศษ เรื่องนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ฉากเกือบทั้งหมดอยู่บนเรือที่ลอยเคว้งกลางทะเล

แล้วก็ถึงเวลาไปทำความรู้จักกับหนังเรื่องนี้กัน


เรื่องย่อหนัง ‘Adrift’

ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงที่ไม่น่าเชื่อของคู่รักนักล่องเรือ เมื่อ Tami Oldham (Shailene Woodley จาก ‘The Fault in Our Stars’ และ ‘Divergent’) สาวน้อยผู้รักการผจญภัย เธอข้ามน้ำข้ามทะเลจากบ้านเกิดที่อเมริกามาถึงฟิจิ ก็ได้พบกับ Richard Sharp (Sam Claflin จาก ‘Me Before You’, ‘Hunger Games’) ทั้งสองต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกัน

ด้วยนิสัยที่แตกต่างกัน แต่ต่างก็รักในการแล่นเรือไปบนท้องทะเลที่เวิ้งว้าง ส่งผลต่อชีวิตในช่วงเวลาถัดมาที่ทั้งคู่เลือกจะแล่นเรือเพื่อไปยังแคลิฟอร์เนีย

ตัวอย่างหนัง ‘รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน’

เมื่อต้องพบเจอกับพายุเฮอร์ริเคนลูกใหญ่ ส่งผลให้เรือเสียหายหนัก และหลงทางมาไกล ริชาร์ดบาดเจ็บหนัก แต่ทั้งคู่ต้องเอาตัวให้รอดกลางทะเลด้วยความหวังว่าจะกลับขึ้นฝั่ง

และรอดไปด้วยกัน


รีวิวหนัง ‘รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน’

อาจจะมองดูว่ามันก็เหมือนๆ กับหนังแนว Survival หรือหนังเอาตัวรอดทั่วๆ ไป แต่เมื่อได้ดูแล้ว หนังมีความแตกต่างอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวละครผู้หญิง เรื่องราวที่เกิดกลางทะเลลึก บนเรือลำเล็กๆ ที่ฝ่ายชายต่อขึ้นมาเอง

‘รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน’ เรื่องนี้เล่าเหตุการณ์เอาตัวรอดที่มีตัวละครสองตัวที่รักกันมาก และต้องพยายามท่ามกลางสภาวะที่สุ่มเสี่ยงต่อความเป็นความตาย หาใช่ตัวละครเดี่ยวๆ อย่าง ‘All It Lost’ ไม่

ภาพนิ่งจากภาพยนตร์ Adrift รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน
ภาพจากหนัง ‘รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน’

สิ่งที่ดูโดดเด่นเห็นประจักษ์ คือ การถ่ายภาพที่ออกมาสวยงาม โดยเฉพาะท้องฟ้ากลางทะเลยามเย็น ภาพมุมสูงที่แสดงให้เห็นถึงความเวิ้งว้างและเหลือเรือลำน้อยที่ลอยอยู่โดดเดี่ยว นอกจากนี้ยังมีโปรดักชั่นที่ทำได้ดีในฉากพายุกระหน่ำ

ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ อยู่ที่การเล่าเรื่องยังไงให้ออกมาน่าสนใจ หนังใช้วิธีการเล่าสลับเวลา เล่าเหตุการณ์หลังเรือเจอพายุจนพังและต้องเอาตัวรอด สลับไปกับการเล่าลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ที่ทั้งสองเจอกัน รักกัน จนพากันมาแล่นเรือ

เพราะโดยเส้นเรื่องจริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจนัก

โปสเตอร์หนัง Adrift รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน
โปสเตอร์หนัง ‘รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน’ เวอร์ชั่นไทย

แม้ว่าเวลาที่ทั้งสองได้ทำความรู้จักกันมันจะดูไม่ยืดยาวนัก อาจจะดูว่ารักกันเร็วไป แต่เรื่องแบบนี้มันก็อาจขึ้นได้ถ้าเจอคนที่ใช่จริงๆ ความรู้สึกก็อาจจะมากล้นจนถึงขั้นขอแต่งงานกันทั้งที่คบกันมาไม่กี่เดือนก็เป็นได้

ทั้งหนังก็พยายามจะทำให้เราเห็นความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันที่พวกเขาแล่นเรือออกกลางมหาสมุทรและเจอพายุรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ในวันนั้น ผมจึงไม่กังขานักกับความรักที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในหนัง

แต่ที่กังขาคือความไม่แนบเนียนที่มากพอในหนัง

ภาพเบื้องหลังการถ่ายทำหนัง รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน
ภาพจากหนัง ‘รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน’

โดยส่วนตัวแล้ว ก็มองว่าคู่พระนางต่างก็แสดงได้ค่อนข้างดี แสดงออกถึงความรักที่มีให้กันอย่างล้นเอ่อ แถมเชย์ลีนก็สุดจะเซ็กซี่ยามอยู่บนเรือ แต่ดูเหมือนชั้นเชิงในการเล่าจะมีดีแค่การสลับเวลาในครึ่งค่อนแรกของเท่านั้น

จะว่าไป หนังก็เข้าใกล้คำว่า “real” ในหลายๆ ช่วง รู้สึกคล้อยตามและมองว่ามีความเป็นไปได้ในความเป็นจริง รวมถึงหนังก็มีไดอะล็อกที่ค่อนข้างคมคายน่าหยิบเก็บกลับมาใช้เป็น quote จากหนัง แต่กับการดำเนินเรื่องราวกลับพบว่ายังไม่หลากหลายจนชวนให้รู้สึกหนังมีชั้นเชิงที่จะทำให้ผู้ชมอยู่กับหนังด้วยความรู้สึก “น่าติดตาม” ได้มากพอ

แม้หนังจะดำเนินเรื่องในลักษณะสลับเวลาสร้างความน่าสนใจ แต่หนังก็ยังมีความราบเรียบอยู่ไม่น้อย จนแทบไม่ตื่นเต้นอะไรกับฉากที่วางไว้เพื่อให้เราประหลาดใจภายหลัง ฉากจบที่ควรจะเรียกน้ำตามากที่สุดด้วยกรรมวิธีการเล่า

กลับกลายเป็นความเฉยชาไปอย่างน่าประหลาดใจ


ชื่อภาพยนตร์: Adrift / รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน
ผู้กำกับภาพยนตร์: Baltasar Kormákur
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Tami Ashcraft (book), Aaron Kandell
นักแสดงนำ: Shailene Woodley, Sam Claflin, Grace Palmer, Jeffrey Thomas, Elizabeth Hawthorne
ความยาว: 96 นาที
ปี: 2018
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Drama, Romance, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 26 กรกฎาคม 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Huayi Brothers, Lakeshore Entertainment, RVK Studios

รักเธอฝ่าเฮอริเคน

Adrift - 7

7

Adrift

Adrift เป็นหนังจากเรื่องจริงของการเอาตัวรอดจากทะเลเวิ้งว้างอีกเรื่อง ที่ใช้ตัวเอกเป็นผู้หญิงผู้ต้องต่อสู้กับสภาวะที่เลวร้ายของเรือที่พังยับเยินจากพายุ แฟนหนุ่มที่เจ็บหนักช่วยตัวเองไม่ได้ หนังน่าสนใจตรงที่เล่าสลับเวลา พาให้รู้จักกับชีวิตของทั้งคู่ก่อนมาลงเอยที่กลางสมุทร แต่ต่อจากนั้นก็เล่าเรื่องได้ราบเรียบยิ่งกว่าน้ำทะเล ก่อนจะเข้าสู่บทลงเอยที่ควรจะสะเทือนใจ แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย

User Rating: Be the first one !

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน
Back to top button

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ