รีวิวหนัง Alita Battle Angel อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล | นางฟ้าต่อสู้ภาคต้น

สัปดาห์ใหม่มาถึงพร้อมๆ กับหนังเรื่องใหม่ๆ บางเรื่องฉายแววว่าจะทำรายได้ดีในเมืองไทย แถมอยู่ในความสนใจของนายแพท แบบนี้ก็ต้องพาตัวเองไปดูกันเสียหน่อย อย่างเรื่องนี้ ‘Alita Battle Angel’ ชื่อไทยว่า ‘อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล’ หนังที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนญี่ปุ่นอีกที

ด้วยพล็อตที่ถูกใช้มาจนเราเคยชินแล้ว แต่เรื่องนี้เล่าเรื่องด้วยตัวละครเพศหญิง และมันมีองค์ประกอบที่ชักชวนให้น่าสนใจอยากติดตาม เรื่องราวของสาวน้อยไซบอร์กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ก่อนจะค้นพบตัวเองว่าเป็นนางฟ้านักต่อสู้นั่นแหละ

ได้เวลาเข้าโรงไปดูหนังแล้วนะ

---

เรื่องย่อหนัง ‘Alita Battle Angel’

เรื่องราวของหญิงสาวผู้ถูกพบเจอที่ภูเขาขยะและถูกเก็บมาเลี้ยง ภูเขาขยะนั้นเป็นที่ทิ้งขยะบนพื้นดินที่ซาเล็ม เมืองลอยฟ้าจะทิ้งลงมา เธอถูกฟูมฟักอีกครั้งด้วยร่างไซบอร์กของลูกสาวผู้จากไปของศัลยแพทย์ไซบอร์ก ดร.ไดสัน อิโดะ (Christoph Waltz) เธอจำอะไรไม่ได้เลย ดร. จึงตั้งชื่อให้เธอว่า อลิตา (Rosa Salazar) ตามชื่อลูกสาว

บัดนี้ร่างเธอกลายเป็นไซบอร์ก แม้จดจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ แต่เธอกลับได้พบว่า เธอมีความสามารถในการต่อสู้อยู่ในตัว มันคือทักษะการต่อสู้รูปแบบเฉพาะของดาวอังคารที่หายสาบสูญไป เธอคือสิ่งล้ำค่าจากกองขยะ

กลายเป็นของล้ำค่าชิ้นสุดท้ายที่ใครๆ ต่างตามหา

การได้รู้อดีตของตน ทำให้อลิตาหวังและฝันจะขึ้นไปข้างบนเมืองลอยฟ้า และหนทางเดียวก็คือการชนะการแข่งขันสุดอันตราย โดยได้รับการช่วยเหลือจากฮิวโก้ (Keean Johnson) มนุษย์หนุ่มในเมืองเศษเหล็ก (Iron City)

ทว่ายังมีสิ่งที่เธอต้องผจญเจอก็คือ บุคคลผู้อยู่เบื้องล่างทว่ามีความเชื่อมโยงกับเมืองซาเล็มเบื้องบน เว็กเตอร์ (Mahershala Ali) ชายผู้เป็นดั่งร่างทรงของผู้ทรงอำนาจที่อยู่บนซาเล็ม กับหญิงสาวผู้มีความหลังกับเมืองลอยฟ้า ชิเร็น (Jennifer Connelly)

การผจญภัยเพื่อค้นหาตัวตนจึงเริ่มต้นขึ้น

---

รีวิวหนัง ‘อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล’

ผลงานจาก Robert Rodriguez ผู้กำกับ ‘Sin City’ ที่หยิบเอางานไซไฟจากฝั่งญี่ปุ่นมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง กับผลงานที่เรียกได้ว่า โดดเด่นมากในเรื่องของงานซีจี แคปเจอร์โมชั่นที่แนบเนียนไปกับภาพนักแสดงจริง

เรื่องพล็อตนั้นมันอาจจะไม่มีอะไรใหม่เพราะมันคงถูกเล่ามาหมดแล้วในหนังเรื่องอื่น อีกทั้งคนเขียนบทก็น่าจะยังเลือกเล่าตามเวอร์ชั่นดั้งเดิม และอาจจะไปแตกหน่อในภาคต่อๆ (หากมี) เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ได้เร้าอะไร

งานภาพจึงดึงดูดและโดดเด่นกว่าเนื้อเรื่องโดยรวม

ความสนุกของหนังอยู่ที่ฉากแอคชั่นต่างๆ ที่สร้างออกมาได้น่าตื่นตาโดยเฉพาะเมื่อดูในโรง 3 มิติในระบบ IMAX แต่ทว่า หนังไม่ได้มีแต่ฉากแอคชั่นให้เราได้ดู

ภาพ 3 มิตินั้นถือว่าทำออกมาดีไม่มีส่วนไหนลอยออกมา ดนตรีก็ถือว่าเข้าที คงมีแต่บทนี่แหละมั้งที่ยังดูเฉยๆ

อลิตา มีให้กับผู้ชมอย่างครบรส เพราะโดยตัวบทหนังนั้นมีทั้งเรื่องรักโรแมนติกของสาวไซบอร์กกับมนุษย์หนุ่ม มีฉากกีฬา ความเร็ว และการต่อสู้ฟาดฟัน ซึ่งเหมาะกับผู้ชื่นชอบความเร้าใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ยังมีเรื่องของโลกในอนาคตที่เกิดสงครามครั้งใหญ่

โลกถูกแบ่งด้วยความสูงของการอยู่อาศัย เบื้องล่างกลายเป็นที่ชนชั้นที่ต่ำกว่า แร้นแค้นกว่าแต่ก็พอจะความสุขได้ ขณะที่โลกของคนด้านบนอาจยังไม่ถูกเล่าถึงสักเท่าไหร่ อาจเก็บไว้เล่าต่อภาคหน้า แต่ไม่ว่าจะเป็นโลกไหน ความดีกับความชั่วร้ายสิงรวมอยู่ในคนๆ เดียวกันได้เสมอ คนเรามีหลายมุมที่ต้องมองกันให้ลึกๆ เพื่อให้เห็นถึงแก่นแท้ที่ซ่อนอยู่ข้างใน

เอาใจช่วยหนังที่สร้างจากรากฐานแห่งเอเชีย ผ่านการปรุงแต่งในแบบอเมริกัน แต่จะไปต่อได้หรือไม่นั้น คงต้องเฝ้ามองกันต่อไป

---

ชื่อภาพยนตร์: Alita: Battle Angel / อลิตา แบทเทิล แองเจิ้ล
ผู้กำกับภาพยนตร์: Robert Rodriguez
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: James Cameron, Laeta Kalogridis
นักแสดงนำ: Eiza González, Rosa Salazar, Mahershala Ali, Jennifer Connelly, Ed Skrein, Keean Johnson
ความยาว: 122 นาที
ปี: 2019
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Romance, Sci-Fi, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 14 กุมภาพันธ์ 2562
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Twentieth Century Fox, Lightstorm Entertainment, Troublemaker Studios