รีวิวหนัง SISU: Road To Revenge เฒ่ามหากาฬ 2 | แอ็คชันโหด โคตรโม้
หลังเคยมีภาคแรกให้ได้ชมกันไปในปี 2022 ผ่านมา 3 ปี Jalmari Helander ผู้กำกับคนเดิม ก็จัดภาคสองมาให้เราได้ติดตามรับชม ภาคนี้มีชื่อว่า ‘SISU: Road To Revenge‘ หรือชื่อไทย ‘เฒ่ามหากาฬ 2‘ เรื่องราวของนายทอร์ปีคนเดิมที่โคตรตายยากและไม่กลัวตาย เลือกจะกลับบ้านเกิดที่กลายเป็นของรัสเซียไปแล้ว แต่ดันไปเจอศัตรูตัวร้ายที่ฆ่าทั้งครอบครัวของเขานี่ดิ
คิดเห็นเช่นไรกับหนังแอ็คชันภาคต่อเรื่องนี้?
นี่คือหนังภาคต่อที่เรียกได้ว่าพล็อตน้อย แต่ต่อยหนักอีกเรื่องหนึ่ง หนนี้ให้พระเอกจอมทรหดฆ่าไม่ตาย เดินทางกลับบ้านเก่าเพื่อเก็บไม้ไปสร้างใหม่ในที่ปลอดภัย แต่กลับเจอคู่อาฆาตตามไล่ล่าเอาชีวิต ภาคต่อสู้กันมันหยดแม้ฝ่ายศัตรูไม่ได้มาเป็นกองทัพ แต่เล่นทั้งฉากมอเตอร์ไซค์ไล่ล่า เครื่องบินรบทิ้งระเบิด และฉากบนรถไฟที่กำลังวิ่ง กลายเป็นหนังพล็อตน้อยที่โหดเอาเรื่อง บวกกับความโม้ไม่สนความจริงที่โคตรสร้างความบันเทิง
หนังยังแบ่งบทเหมือนเคย กับลีลาโหดดุดันและตายยากของตัวนำ แต่ดันทำได้ถึงพริกมากกว่าเดิม
เรื่องย่อหนัง ‘SISU: Road To Revenge’
หนังภาคนี้ เล่าเรื่องราวในปี 1946 เหตุเกิดตรงชายแดนระหว่างโซเวียดกับฟินแลนด์ เมื่อชายผู้ไม่ยอมตาย อาตามิ คอร์ปี (รับบทโดย ยอร์มา ทอมมิลลา จากหนังภาคแรก ‘SISU’) ขับรถกลับไปยังบ้านหลังเดิม (ที่ตอนนี้กลายเป็นดินแดนของสหภาพโซเวียตไปซะแล้ว) ซึ่งครอบครัวของเขาถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมในช่วงสงคราม เขากลับไปที่นั่น ไม่ใช่เพื่อไปอยู่หรอกครับ แต่เขาตั้งใจจะไปรื้อบ้านทั้งหลัง เพื่อนำไม้พวกนั้นขึ้นรถบรรทุกแล้วขับกลับฟินแลนด์ไปสร้างใหม่เพื่อเป็นเกียรติกับครอบครัวที่สูญเสียไปนั่นเอง
แต่ในระหว่างทาง เขากลับได้พบกับ เยกอร์ ดรากูนอฟ (รับบทโดย สตีเฟน แลงก์ จาก ‘Don’t Breathe’ และ ‘Avatar’) ผู้บัญชาการกองทัพแดง ที่เคยฆ่าพลเรือนไปหลายร้อยคน แน่นอนว่า รวมถึงครอบครัวของเขาด้วย
การมาครั้งนี้ เยกอร์มุ่งหมายจะจบงานที่คั่งค้างเอาไว้ จึงได้ไล่ล่านักรบผู้ไม่ยอมตายไปจนสุดทาง
รีวิวหนัง ‘เฒ่ามหากาฬ 2’
จากที่เคยคิดว่าต้องย้อนดูภาคแรกเพื่อทำการบ้านก่อนมาดูภาคต่อมั้ยนะ แต่เอาเข้าจริงก็พบว่า ไม่ได้มีความจำเป็นใด ๆ เพียงแค่จดจำฟีลคร่าวๆ ของภาคแรกได้ นั่นก็นับว่าเพียงพอแล้ว เมื่อพบว่าหนังมันไม่ได้พึ่งพาภาคแรกอะไรขนาดนั้น พล็อตของมันช่างสั้น เข้าใจง่าย และสร้างมาเพื่อความบันเทิงซะจริง ๆ
คอร์ปีได้เป็นตำนานเพราะเคยเอาชนะกองทหารนาซีได้ด้วยตัวคนเดียว แถมยังตายยากตายเย็นอีกต่างหาก แต่ครั้งนี้ ตำนานผู้นั้นได้หวนคืนสู่ดินแดนโซเวียตอีกครั้ง แต่กลับถูกชายอีกคนเข้ามาขวางทาง เพียงเพื่อชำระสะสางความเละเทะที่เคยทำไว้ ความปรารถนาหนึ่งเดียวของคนๆ นี้ก็เพียงต้องการโชว์ให้เห็นว่ามีบางสิ่งที่น่ากลัวกว่าความตาย
พล็อตมันมีเท่านั้น ชายผู้ไม่ตายต้องต่อสู้เอาชนะชายผู้เคยสังหารครอบครัวตัวเอง และมันคือการล้างแค้น!
และก็เช่นเดียวกับภาคแรก หนังยังคงเดินเรื่องด้วยฟีลเดิม ซอยแบ่งเรื่องราวออกเป็นตอนๆ ราวกับคนดูกำลังอ่านนิยายเล่มหนึ่งที่มีหลายบท แต่ละบทมีชื่อเป็นของตนเอง แล้วก็จบบทก็ต่อด้วยบทใหม่
ขณะที่งานถ่ายภาพ ก็จะเน้นทัศนียภาพที่เวิ้งว้าง ตัวละครไม่ต้องมาก กับฉากโหดเหี้ยมที่ถูกถ่ายทำอย่างเป็นเอกลักษณ์ วิวสวยงามกับบทแอ็คชันสุดระห่ำ แถมก็ไม่ได้ใ่ส่ใจเรื่องความสมจริงอะไรขนาดนั้น มันจึงมีความโม้อยู่ไม่หน่อย ถ้าคุ้นเคยมาจากภาคแรก ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร อาจจะเข้าใจฟีลหนังเลยด้วยซ้ำ
เพราะหนังมันเล่าถึงชายผู้ที่ไม่ยอมตาย แถมยังไม่เคยยอมแพ้ แม้ต้องเจอศัตรูที่เก่งกาจมากมายก็ตาม
Taglines: When they took his family, he took revenge.
ครั้งนี้ ศัตรูคู่อาฆาตของคอร์ปีเป็นชายวัยผู้เฒ่าอีกคน ที่ถูกบีบให้ออกมาตามล่าเขา แม้ไม่ได้มาเป็นกองทัพเหมือนภาคแรก แต่เขาก็มีกองกำลังของตน ฉากระห่ำของภาคนี้จึงทั้งฉากขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ล่า ทั้งขับเครื่องบินรบโจมตีใส่รถบรรทุก ทั้งลุยเดี่ยวบนรถไฟที่กำลังวิ่ง มันช่างเป็นอะไรที่ย่อยง่าย บันเทิงเชิงสะใจ ไม่มีเว้นวรรค ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งของหนัง
และแน่นอน ไม่ต้องคิดเรื่องความสมเหตุสมผลอะไรขนาดนั้น ดูเอามันส์ ซึ่งก็มันส์จริงๆ ซะด้วย
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
| ชื่อภาพยนตร์ | SISU: Road To Revenge / เฒ่ามหากาฬ 2 |
| กำกับ | Jalmari Helander |
| เขียนบท | Jalmari Helander |
| แสดงนำ | Jorma Tommila, Stephen Lang, Richard Brake |
| แนว/ประเภท | แอ็คชัน, สงคราม |
| เรท | R |
| ความยาว | 89 นาที |
| ปี | 2025 |
| สัญชาติ | สหราชอาณาจักร, ฟินแลนด์, สหรัฐอเมริกา |
| เข้าฉายในไทย | 4 ธันวาคม 2025 |
| ผลิต/จัดจำหน่าย | Subzero Film Entertainment, Good Chaos, Cosmic Snowball, Screen Gems, Sony Pictures Releasing |
คะแนนรีวิวหนัง เฒ่ามหากาฬ 2
พล็อตและบท - 6
การแสดง - 7
การดำเนินเรื่อง - 7.5
เทคนิคพิเศษ โปรดักชั่น การถ่ายภาพ - 8
ความสนุก - 7.5
7.2
SISU: Road to Revenge
นี่คือหนังภาคต่อที่เรียกได้ว่าพล็อตน้อย แต่ต่อยหนักอีกเรื่องหนึ่ง หนนี้ให้พระเอกจอมทรหดฆ่าไม่ตาย เดินทางกลับบ้านเก่าเพื่อเก็บไม้ไปสร้างใหม่ในที่ปลอดภัย แต่กลับเจอคู่อาฆาตตามไล่ล่าเอาชีวิต ภาคต่อสู้กันมันหยดแม้ฝ่ายศัตรูไม่ได้มาเป็นกองทัพ แต่เล่นทั้งฉากมอเตอร์ไซค์ไล่ล่า เครื่องบินรบทิ้งระเบิด และฉากบนรถไฟที่กำลังวิ่ง กลายเป็นหนังพล็อตน้อยที่โหดเอาเรื่อง บวกกับความโม้ไม่สนความจริงที่โคตรสร้างความบันเทิง หนังยังแบ่งบทเหมือนเคย กับลีลาโหดดุดันและตายยากของตัวนำ แต่ดันทำได้ถึงพริกมากกว่าเดิม





