ดูเหมือนนับวันยิ่งได้เห็นหนังเกาหลีใต้มีความหลากหลายและก้าวออกไปไกลห่างบ้านเรามากขึ้นทุกที วันนี้ พวกเขามีหนังแอคชันไซไฟอวกาศออกฉายในระบบสตรีมมิงของ Netflix เรื่องราวของกลุ่มตัวเอกนักเก็บขยะนอกโลก กับหนังเรื่องใหม่ ‘Space Sweepers’ หรือชื่อไทย ‘ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล’
ผลงานจากพระเอกหน้ามน ซงจุงกิ กับดาราสาวหน้าสวยอย่าง คิมแทรี ที่มีนักแสดงต่างชาติร่วมทัพ ผสมกับซีจีคุณภาพเยี่ยม และพล็อตเรื่องที่อาจไม่ถึงกับแปลกใหม่แต่ก่อให้เกิดเป็นหนังไซไฟอวกาศที่น่าติดตามได้ไม่เบา
ว่าแล้ว เราก็ได้เวลาเปิดเรื่องกันละทุกคน
เรื่องย่อหนัง ‘Space Sweepers’
เหตุการณ์ของโลกในปี 2092 ที่เบื้องล่างเต็มไปด้วยสภาพอากาศที่เลวร้ายต่อการอยู่อาศัยของเหล่ามนุษย์ แต่คนรวยนาม ซัลลิแวน (Richard Armitage) เขาสร้างอาณาจักรแห่งใหม่ลอยฟ้าเหนือโลกด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำยุค และมีเพียง 5% ของมนุษย์โลกเท่านั้นที่จะได้ขึ้นไป โดยผ่านการกลั่นกรองอย่างดี
แต่มนุษย์ที่เหลือต้องทุกข์ทนอยู่บนโลกที่ไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัยนั้นต่อไป
และบางส่วนก็ทำได้เพียงเป็นคนที่ได้ขึ้นไปทำงานอยู่บนนั้น นอกโลกเต็มไปด้วยขยะอวกาศที่ต้องมีคนจัดเก็บ และดูเหมือนธุรกิจนี้จะมีหลายเจ้าที่แย่งชิงกันทั้งที่สร้างรายได้ให้กับพวกเขาเพียงน้อยนิด หนึ่งในนั้นก็คือ สี่สหายที่ใช้ยานวิคทอรีดำรงชีพด้วยการเป็นนักกวาดขยะอวกาศ
- แทโฮ (Song Joong Ki/ซงจุงกิ จากซีรีส์เรื่อง ‘Arthdal Chronicles’ และ ‘Descendants of The Sun’) นักบินยานอวกาศอัจฉริยะ
- กัปตันจาง (Kim Tae Ri/คิมแทรี จากหนังเรื่อง ‘The Handmaiden’ และซีรีส์เรื่อง ‘Mr. Sunshine’) อดีตโจรสลัดสาวผู้ต่อต้าน UTS
- ไทเกอร์พัค (Jin Seon Kyu/จินซอนคยู จากหนังเรื่อง ‘Extreme Job’ ซีรีส์เรื่อง ‘Kingdom’ และ ‘Doctors’) อดีตผู้นำแก๊งค้ายาที่หลบหนีโทษอยู่
- บั๊บ (Yoo Hae Jin/ยูแฮจิน จากหนังเรื่อง ‘Confidential Assignment’ และ ‘A Taxi Driver’) หุ่นแอนดรอยด์ช่างจ้อที่อยากทำผิวหนังเทียม
แทโฮ เป็นอดีตทหารมีชื่อที่กำลังตามหาลูกสาวที่ชื่อ ซูนี ทั้งสองต้องพลัดพรากจากกันเพราะเหตุเลวร้ายครั้งหนึ่ง และการค้นพบเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งที่ทางองค์การยักษ์ประกาศว่าเป็นแอนดรอยด์ที่บรรจุระเบิดทำลายล้างไว้ภายใน ทำให้เขาได้ไอเดียในการหาเงิน
ไม่ว่าจะเพื่อหลุดพ้นจากความจนหรือเพื่อใช้มันตามหาซูนี มันก็ดีกับเขาทั้งนั้นแหละ ว่ามั้ย?
รีวิวหนัง ‘ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล’
ไซไฟอวกาศแบบเต็มขั้น อีกหนึ่งพัฒนาการด้านภาพยนตร์จากเกาหลีใต้ ที่จะพาทุกคนไปตะลุยจักรวาลกับภารกิจสุดว้าวซ่าของเหล่าแก๊งคนเก็บขยะอวกาศ ผ่านพล็อตที่ว่าด้วยเรื่องราวของภารกิจที่เกี่ยวข้องกับเด็กน้อยคนหนึ่ง
โลกอนาคตที่เลวร้าย คนย้ายไปอยู่บนอวกาศ
ภาพลักษณ์ของโลกในอนาคตที่แทบจะไม่มีใครมองเห็นเป็นแบบอื่น ป่าสูญสิ้น ทะเลทรายแผ่ขยาย ดินกลายเป็นกรดพืชไม่อาจเติบโต ฝั่นควันฟุ้งทั่วทุกหนแห่งแทบมองไม่เห็นดวงอาทิตย์ ผู้คนต้องสวมหน้ากากกรองอากาศตลอดเวลา สภาพของโลกมนุษย์ไม่ต่างกับที่เราเห็นในหนังอย่าง ‘Blade Runner 2049’ เลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่า มนุษย์ต้องคิดหาหนทางอยู่รอด
แต่ก็นั่นแหละ ผู้ที่จะได้รับสิ่งที่ดีกว่าย่อมจะมีเพียงน้อยนิด พวกเขาต้องผ่านการคัดกรอง UTS Corporation ที่ถูกจัดตั้งขึ้น ผู้คนถูกแบ่งแยกออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งถูกเลือกให้ไปอยู่บนเมืองที่สร้างใหม่ในวงโคจรดาวเทียม กับที่เหลือที่ต้องใช้ชีวิตบนพื้นโลกที่มีสภาพเลวร้ายตามยถากรรม
ส่วนแก๊งพระเอกของตัวนี่สิ สี่เกลอต่างที่มาที่ประกอบธุรกิจเก็บขยะอวกาศแลกกับรายได้อันน้อยนิด โดยใส่ให้บทพระเอกอย่างแทโฮมีปมหลังกับลูกสาวที่พลัดพรากและเขาเฝ้าตามหาก่อนเธอจะหลุดวงโคจร และให้ตัวร้ายเป็นเจ้าของ UTS Corp. ที่มีอายุยืนยาวและมีเบื้องหลังที่ขมขื่น
ซัลลิแวนคนนี้เป็นเจ้าของเทคโนโลยีล้ำยุคทุกอย่าง มีไอเดียบรรเจิดที่จะสร้างดาวอังคารเป็นที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ แต่อีกส่วนหนึ่งเขาก็เป็นเหมือนเผด็จการที่พยายามจะควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในกำมือ เขาคิดแต่จะจัดการคนที่แสดงตนเป็นฝ่ายตรงข้ามให้สิ้นซาก เรียกได้ว่าเป็นพวกที่มุ่งเน้นเป้าหมายไม่สนใจวิธีการ และบังเอิญว่า สิ่งที่ UTS กำลังต้องการดันมาตรงกับที่แก๊งกวาดขยะกลุ่มนี้พบเจอเข้าโดยบังเอิญ หุ่นเด็กหญิงแอนดรอยด์ที่มีระเบิดทำลายล้างอยู่ภายในที่แทโฮมองว่าเป็นโฮกาสแห่งรายได้
เรียกได้ว่า พล็อตไม่ได้ใหม่นัก หยิบจับอะไรที่เคยถูกเล่าไว้แล้วมาจัดเรียงองค์ประกอบใหม่ให้กลายเป็นหนังไซไฟอวกาศเรื่องแรกๆ ของแดนกิมจิ
‘Space Sweepers’ กับ ซีจีระดับสากล
สิ่งที่ชัดเจนในหนังไซไฟอวกาศเรื่องนี้ ก็คือ การใช้เทคนิคด้านภาพสร้างเหตุการณ์เคลื่อนไหวในอวกาศ ซึ่งทีมงานของพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่า มีดีมากพอจะสร้างความประทับใจในด้านเทคนิคการสร้างภาพมากทีเดียว
หนังอย่าง ‘ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล’ มีช็อตที่ต้องสร้างฉากแอคชันกลางอวกาศอยู่เยอะมาก ด้วยการรับชมผ่านจอทีวี นายแพทไม่พบว่าจะมีภาพตอนไหนที่ไม่เนียนตา ทว่า บางฉากก็ยังมีปัญหาในด้านการออกแบบวิชวลพอประมาณ ฉากของการแข่งขันและเก็บของกลางอากาศ ด้วยวัตถุในเฟรมมีมากเกินนั้นมีมากเกิน อาจจะทำให้คนดูรู้สึกไม่เคลียร์และมึนงงกับงานภาพได้ง่าย
เรื่องราวที่ค่อนข้างยาวอยู่นิดหน่อย 136 นาที ด้วยบทที่พยายามจะจบให้ลงอย่างที่ต้องการ ครึ่งหลังมีช่วงให้ลุ้นเอาใจช่วยอยู่หลายหน แต่อาจจะไม่ถึงกับมีช่วงพีคที่โดดออกมาอย่างชัดเจน และพอหนังใช้เวลายืดยาวก็ทำให้เรื่องราวดูยืดเยื้อ
ทั้งหมดจึงทำให้หนังเรื่องนี้น่าชื่นชมในด้านเทคนิคเลยล่ะครับ
ซับไตเติลไทยที่ชวนปวดหัว จนหันไปดูพากย์ไทย
ปัญหาอีกด้านที่นายแพทพบเจอคือ การที่หนังมีบทพูดที่ค่อนข้างมาก พูดกันไว ซับไทยค่อนข้างมีปัญหา คนที่ชอบดูแบบซาวแทร็คและเปิดซับไตเติลไทยอาจอ่านแล้วต้องทำความเข้าใจสองต่อ จึงมีเกิดความติดขัดในการเข้าใจเนื้อเรื่องตามมา หนทางแก้ไขคือ กลับมาเปิดดูใหม่ด้วยแบบพากย์ไทย ซึ่งพบว่าสามารถเข้าใจเนื้อเรื่องได้ทั้งหมด
ขณะที่ตัวละครเอง แต่ละคนต่างก็ทำหน้าที่ได้ดีในบทบาทของตน หนังพยายามเข้าหาสิ่งที่เกาหลีมักทำได้ดีอย่างพาร์ทดราม่า แต่ก็มีอีกปัญหาคือเสียงพากย์ของบางตัวละครที่ไม่ค่อยเข้าปาก อาจทำลายอรรถรสไปบ้างบางส่วน
เอาเป็นว่า เป็นหนังที่ทึ่งในเทคนิคภาพ แต่ก็ยังไม่ถึงกับทำให้ประทับใจมากนัก
ชื่อภาพยนตร์: Space Sweepers / ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล / Spaceship Victory / 승리호
ผู้กำกับภาพยนตร์: Jo Sung Hee (ผลงานการกำกับ A Werewolf Boy และ Phantom Detective)
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Jo Sung Hee
นักแสดง: Song Joong Ki/ซงจุงกิ, Kim Tae Ri/คิมแทรี, Jin Seon Kyu/จินซอนคยู, Yoo Hae Jin/ยูแฮจิน, Richard Armitage
ดนตรีประกอบ:
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Drama, Fantasy, Sci-Fi
ความยาว: 136 นาที
ประเทศ: เกาหลีใต้
ปี: 2021
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/-, USA/-
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 5 กุมภาพันธ์ 2021 บน Netflix
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Bidangil Pictures, Dexter Studios
ชนชั้นขยะปฏิวัติจักรวาล
บทและพล็อต - 6
งานภาพ - 8.2
เพลง/ดนตรีประกอบ - 7
โปรดักชัน - 7.9
การดำเนินเรื่อง - 5.2
การแสดง - 6.3
6.8
Space Sweepers
หนังไซไฟอวกาศเรื่องแรกๆ ของเกาหลีใต้ เรื่องราวโลกในอนาคตที่สภาพแวดล้อมย่ำแย่ จนต้องออกไปอยู่กันนอกโลก และมีแก๊งแข่งกันเก็บกวาดขยะ เรื่องราวที่ดูได้สนุกเอาเพลิน หนังค่อนข้างยาวแต่เอาคนไม่อยู่เท่าไหร่ เอาเป็นว่า เป็นหนังที่ชวนทึ่งในเทคนิคภาพแต่ยังไม่ถึงกับทำให้ประทับใจมากนัก
