รีวิวหนัง 5 แพร่ง | 5 เรื่อง 5 ความกลัว

หนังผีสัญชาติไทยที่น่าจะโดดเด่นที่สุดในรอบปี เปิดตัวแรงด้วยรายได้ 15 ล้านเพียงวันแรกที่เข้าฉาย

ในที่สุด วันนี้ ผมก็พาตัวเองไปดู ‘5 แพร่ง’ จนได้ หลังจากจดๆ จ้องๆ มาหลายวัน หนังผีสัญชาติที่น่าจะโดดเด่นที่สุดในรอบปี เปิดตัวแรงด้วยรายได้ 15 ล้านเพียงวันแรกที่เข้าฉาย (อ้างอิงจากเว็บไซต์ GTH) วันนี้ เลยไปสัมผัสด้วยสายตาตัวเองในโรงสยามพาวาลัย พารากอนซีเนเพล็กซ์

จองไว้ตั้งแต่เที่ยง กว่าจะได้ดูตั้งรอบ 19.25 ในที่สุดก็ได้ดูตัวอย่างหนัง ‘รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ’ ในโรงกับเขาซะที ตัวอย่างหนังที่ทำให้หลายคนหวั่นไหว กับทำให้หลายคนรู้สึกโดนจี้ใจดำเข้าอย่างแรง

หนังไทยจาก GTH ห้าแพร่ง

กับ 5 เรื่องที่ร่วมกันสร้าง “ความกลัว” ให้กับหลายคน ที่ถูกเล่าออกมาดั่งหนังสั้น ผมคงไม่อาจจะเล่าลงลึกมากมายได้ เพราะจะกลายเป็นการเล่าเนื้อหนังจนหมด นับว่ายากมากในการเขียนถึงเสียจริงๆ

ผมคงไม่เล่าแต่ละแพร่งแบบไล่เรียงตามหนังจริง เพราะอาจทำให้ลดทอนความสดใหม่ในการดูไปเปล่าๆ

นิโคล เทริโอ กลับมาอีกครั้ง หลังงานแรกๆ ไม่เปรี้ยง ได้พิสูจน์ความสามารถทางการแสดงให้ประจักษ์ ด้วยสถานการณ์ที่ใกล้ตัวไม่น้อย กับบทแม่ที่ต้องเจอเหตุการณ์ลูกหายในเต็นท์ “รถมือสอง” ของตัวเอง โอ๋-ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ เจ้าของแพร่ง หยิบเอาแง่มุมของรถมีประวัติ ที่ถูกโมใหม่จนไม่เหลือเค้าที่มาอันน่าปกปิด นิโคลเล่นเป็น นุช เจ้าของเต็นท์รถที่ต้องอยู่คนเดียวท่ามกลางรถนับร้อยคันเหล่านั้น..เพื่อตามหาลูกน้อยที่หายตัวไป

เล่นคนเดียว กลัวกันทั้งโรงเชียวนะนั่น

“หลาวชะโอน” หนังเรื่องย่อย ที่หยิบเหตุการณ์จริงมาเป็นปลูกเป็นเรื่องใหม่สอนใจได้ชะงัด กอล์ฟ-ปวีณ ภูริจิตปัญญา ร่วมงานกับ เก้า-จิรายุ ละอองมณี ที่สวมบทบาท เป้ เด็กชายที่ก่อความผิดด้วยการปาหินใส่รถ จนต้องหนีโทษทัณฑ์ทางโลกมาอยู่ในวัดอันแสนห่างไกล ก่อนจะเจอเรื่องน่าสะพรึงกลัวอันเกินจิตใจของเขาจะรับไหว ซึ่งถือว่า เป็นการวางโครงเรื่องที่ค่อนข้างสมบูรณ์มากในบรรดา 5 แพร่ง ด้วยแง่มุมของความเป็นเด็กมีปัญหาทางครอบครัว จนก่อเหตุเลว และไปเจอเหตุร้าย ณ หลาวชะโอน

บทเรียนสอนใจได้ดี มีมุมสะเทือนใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ทีเดียว

โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล สร้างความประทับใจ “คนกลาง” ในภาคก่อนด้วยความน่ากลัวบวกความฮา มาในภาคนี้ก็ไม่ทำให้คนดูต้องผิดหวังอย่างเคย เพียงแต่สิ่งที่อาจจะทำได้ไม่เท่า “คนกลาง” ก็คงจะเป็นที่ “คนกอง” ดูจะไม่น่าสะพรึงกลัวสักเท่าไหร่ หากเน้นไปที่ความฮาเสียมากกว่า สังเกตได้จากเสียงหัวเราะลั่นโรง เมื่อได้ทีมนักแสดงกลุ่มเดิมที่มากันอย่างครบถ้วน พร้อมตัวชูโรงตัวใหม่ กับการล้อเลียนหนังผีอีกหน โดยเฉพาะ “แฝด” ที่ มาช่า วัฒนพานิช คนเดิมเคยฝากความทรงจำเอาไว้ เรื่องราวในฉากหนึ่งของการถ่ายทำหนังผี ที่น้องคนนั้นที่เล่นเป็นผี เธอเกิดตายระหว่างถ่าย แต่ห่วงว่างานแสดงครั้งแรกของเธอจะไม่ลุล่วง จึงกลับมาป่วนกองถ่ายอีกครั้ง แพร่งนี้ คุณจะได้พบกับมาช่าในมุมที่แปลกใหม่ไม่เคยเห็นที่ไหน

เป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของมาช่าจริงๆ

โปสเตอร์หนัง ‘Phobia 2’ แบบที่ 1

แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ สลัดภาพจากแฟนฉัน และเด็กหอ โตขึ้นเป็นหนุ่มบนรถบรรทุก ที่รับสองหนุ่มสาว “Backpackers” ชาวญี่ปุ่นนักโบกขึ้นร่วมทาง ก่อนที่จะได้เห็นว่าอะไรที่เขาขนมา จากหนังตัวอย่าง เราคงได้เห็นภาพคล้ายซอมบี้วิ่งตามไล่ล่ารถบรรทุกคันนั้น ในแพร่งนี้ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ เปิดเผยที่มาที่ไปของพวกมัน เขาหยิบเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมเข้าควบรวมจนกลายเป็นหนังซอมบี้ขึ้นมา หนังมีที่มาที่ไปอยู่พอควร แต่อาจจะไม่ทำให้บางคนเข้าใจมากนัก อันนี้ มันเป็นสไตล์ ซอมบี้ไม่ใช่สิ่งที่พบเห็นได้จากหนังผีไทยนัก แต่มันถูกนำมาใช้เพื่ออธิบาย “ความบ้า” ของบางสิ่งหรือเปล่า

ฉากที่ดูร้ายแรงที่สุด คงเป็นตอนจบของมัน ที่บ่งบอกอะไรบางอย่างได้ดี

ผมยอมรับว่า ประทับใจกับหลายแพร่งในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่แพร่งที่ดูจะได้ใจจากผมไปน้อยที่สุด ก็เห็นจะเป็น “ห้องเตียงรวม” ของผู้กำกับ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ที่เลือก แดน วรเวช ดานุวงศ์ มารับบทหนังส่วนใหญ่เอาไว้เกือบจะคนเดียว กับเรื่องราวของ ตี้ ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาเรียกร้องห้องเดี่ยวแต่กลับต้องมาอยู่ร่วมห้องกับชายแก่ที่รอวันถอดเครื่องช่วยหายใจ การดำเนินเรื่องทำได้ดีในการสร้างความน่ากลัว แต่กลับสอบตกเรื่องการอธิบายที่มาที่ไป และไม่ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการสื่อ

ความเห็นนี้ อาจจะไม่ตรงกับบางคนได้ อย่าว่ากันเลยนะ

โปสเตอร์หนัง ‘Phobia 2’ แบบที่ 2

โดยรวม ผมประทับใจตรงแง่มุมของหลายแพร่งที่ผู้กำกับพยายามนำเสนอ โดยส่วนตัว ผมไม่ได้กลัวผีในแต่ละแพร่งแต่อย่างใด แต่ผมรู้สึกสนุกดีที่เห็นคนข้างๆ ผมรู้สึกกลัวภาพบนจอยักษ์ และเห็นคนอีกข้างก็ดูจะกลัวเอามากเช่นกัน เห็นปิดหน้าปิดตาใหญ่เชียว มุกตกใจถูกนำมาใช้ไม่บ่อยนัก ซึ่งถือเป็นเรื่องดี ที่มันทำให้ผมสะดุ้งได้ในจังหวะที่เขาอยากให้ผมสะดุ้ง แต่ละเรื่อง ผมรู้สึกถึงจุดร่วมที่พูดถึง “เหตุบนท้องถนน” ทั้งการปาหินเข้าใส่รถ ความประมาทที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ การขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย ธุรกิจที่มาหากินกับสมบัติของคนตาย ส่วนอีกแพร่งที่ดูเกี่ยวข้องน้อยที่สุด ก็ยังมีฉากอุบัติเหตุบนท้องถนน ผมไม่มีปัญหากับการเรียงเรื่อง เรียงแบบนี้ก็ถือว่าดีแล้ว คนดูอื่นๆ ก็น่าจะชื่นชอบเช่นเดียวกัน

ถ้ายังไม่ได้ดูก็อย่าลืมซื้อตั๋วเข้าไปดูกันนะครับ คนดูอาจจะเต็มโรงหน่อยเพราะกระแสดีมาก แต่หนังดี เราต้องสนับสนุนสิ จริงมั้ยครับ?

Exit mobile version