ไม่ทันได้เตรียมตัวสักเท่าไหร่ กับการเข้าไปชมภาคสุดท้ายของภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมเยาวชน ที่ขายดิบขายดีทั่วโลก ศีกพ่อมดมหาเวทย์ ระหว่าง Harry Potter และ Lord Voldemort ที่ยืดเยื้อยาวนานมาเป็นเวลาหลายปี จากนักแสดงเด็กๆ หน้าตาอ่อนเยาว์ ตอนนี้ กลายเป็นนักแสดงหนุ่มบรรลุนิติภาวะไปเรียบร้อยแล้ว วันนี้ ผมได้ไปชมมาแล้วครับ หนังพ่อมดที่คราวนี้ ชื่อยาวเป็นพิเศษ ‘Harry Potter and the Deathly Hallows : Part 1’
ส่วนชื่อไทยน่ะเหรอ ก็ยาวไม่แพ้กัน ‘แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1’ นี่คือภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นโดยแยกออกเป็น 2 ภาคย่อย ด้วยเรื่องราวที่ค่อนข้างขมวดปม อาจมีเรื่องต้องเล่า และไม่อาจลดทอนบางจุดลงได้ หรือด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดก็น่าจะใช่…ด้วยเช่นกัน
และด้วยความที่ไม่ได้เตรียมไปสักเท่าไหร่ เลยพบว่า เรื่องราวบางส่วนไม่อาจถูกปะติดปะต่อจนผสานรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวได้ เนื้อหาบางส่วนของภาคก่อนๆ ถูกหลงลืม พอมาดูภาคนี้เลยมีมึนบ้าง แนะนำว่า ถ้าหากไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ขนาดที่จำได้ทุกอย่างของ Harry Potter ทั้ง 7 เล่ม ควรหาภาคก่อนมาปูพื้นตัวเองก่อน จะเป็นการดีที่สุดครับ
เริ่มต้นภาคสุดท้าย ทำผมงุนงงนิดหน่อย เมื่อชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ปรากฏขึ้นมา มันไม่ใช่ภาษาอังกฤษครับ ทำไมมันดูเป็นอักษรรัสเซียเสียมากกว่า แต่ก็เอาน่า ตัวละครพูดอังกฤษ มีซับภาษาไทย ดูรู้เรื่องแน่นอน ไม่ต้องห่วงกังวลอันใด
โลกมนุษย์ที่มีโลกแห่งเวทมนตร์ทับซ้อนอยู่ กำลังถูกอำนาจที่กล้าแกร่งสุดขีดของลอร์ดโวลเดอร์มอร์ – คนที่คุณก็รู้ว่าใคร และเหล่าผู้เสพความตายที่บินทะยานไปทุกที่ ทุกแห่งกลายเป็นพื้นที่อันน่าหวาดกลัวของเหล่าพ่อมดแม่มด ไม่พ้นแม้แต่ในกระทรวงเวทย์มนตร์ และแฮร์รี่ พอตเตอร์ กลายเป็นบุคคลที่ถูกกล่าวถึงไม่หยุดหย่อน
บุคคลที่เรารักมานาน บัดนี้หลานคนกลายเป็นพวกเดียวลอร์ดแห่งความมืด ขณะที่กลุ่มคนอีกฝั่งถือเอา แฮร์รี่ เป็นความหวังเดียวและความหวังสุดท้าย ทุกคนพร้อมถวายชีพเพื่อปฏิบัติการสุดยิ่งใหญ่นี้ ขณะเดียวกัน บุคคลที่ชื่อ “Harry Potter” ก็เป็นผู้ที่ลอร์ดและผู้เสพความตายต้องการตัวมากที่สุดด้วย
เมื่อบุคคลที่ถูกฝากความหวังไว้มากที่สุด กลายเป็นบุคคลที่วายร้ายกำลังหมายหัวมากที่สุด เรื่องราวจะเป็นเช่นไร
หนังถ่ายภาพออกมาได้สวยงามมากเลยครับ ไม่รู้ว่าไปหาโลเกชั่นสวยๆ หลายต่อหลายแห่งนี้มาจากไหน มุมกล้องสวยๆ ทำให้ภาพยนตร์เรื่องดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน ด้วยตัวละครที่โตขึ้นมาเป็นหนุ่มสาว การดำเนินเรื่องบางส่วนจึงหนีไม่พ้นเรื่องราวความรัก กลายเป็น Harry Potter ในมุมที่เติบโตขึ้นกว่าที่เคยเป็น ขณะเดียวกัน ตัวละครหลักต่างก็ออกมาแก้ไขทุกอย่างเอง พ้นจากอ้อมอกของโรงเรียนเวทย์มนตร์ ไร้คนคอยค้ำจุนกำลังใจอย่างศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์อีกต่อไป ภาพของการเป็นเด็กนักเรียนจะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว
แต่สถานการณ์ที่เคร่งเครียดก็ยังถูกเล่าสลับไปกับฉากที่ผ่อนคลาย ภาคนี้ เราได้พบการผจญภัยที่มีฉากหลังหลายๆ ที่ในช่วงกลางเรื่องเยอะมาก บางครั้งก็ดูผ่อนคลาย บางคราวก็ดูเคร่งเครียด เรื่องราวที่เหมือนพันธมิตรแห่งวงแหวนเดินทางไปทั่วเพื่อตามหาบางสิ่งบางอย่างตามร่องรอยที่ค้นพบ
จุดประสงค์ที่สำคัญ … คือการโค่นล้มอำนาจของลอร์ดแห่งความมืด
แต่ไหนแต่ไรมา เรารู้จักแต่สิ่งที่ถูกเรียกว่า “ฮอร์ครักซ์” สิ่งซึ่งพวกเขาต้องตามหาให้พบและทำลายทิ้งให้สิ้นซาก หากพวกเขาทำลายมันได้หมด จะส่งผลให้ลอร์ดถูกทำลายไปด้วย และ “เครื่องรางยมทูต” ก็เป็นดั่งอาวุธชุดสุดท้ายที่ต้องได้มาครอบครองเพื่อปฏิบัติการโค่นล้มดังกล่าว แต่มันไม่ง่ายเพราะลอร์ดโวลเดอร์มอร์กร้าวแกร่งถึงขีดสุดแล้วนั่นเอง
ดูหนังทั้งเรื่อง พบว่า นักแสดงแต่ละคนทำหน้าที่สื่อสารอารมณ์ได้ดี แต่ที่สะกดหัวใจมากที่สุด คงไม่พ้น Emma Watson น่ารักเป็นที่สุด ไม่ต้องหุ่นเซ็กซี่เร้าใจ แต่แค่นี้แหละ พอแล้ว
หากจะสนใจว่า เมื่อใครสักคนที่เป็นที่รักต้องมีอันจากไป ฉากที่สมควรจะได้เห็นที่สุด คือ ฉากเรียกน้ำตา แต่มันหาได้เกิดเช่นนั้นไม่ในหนังเรื่องนี้ ความตื่นเต้นตื่นตา รอยยิ้มเสียงหัวเราะ เขาสร้างได้ แต่น้ำตา เขายังทำไม่ถึง กระนั้น ภาคนี้ยังดูมีมาตรฐานที่ดีกว่าหลายๆ ภาคที่ผ่านๆ มา ทว่า…
ดูหนังจบ รู้สึกสะดุด ไม่อยากให้หยุดแค่นั้น ขออีกครึ่งมาดูให้จบเลยได้มั้ยล่ะเนี่ย?
ชื่อภาพยนตร์ : Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 / แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 1
ผู้กำกับภาพยนตร์ : David Yates
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Steve Kloves (screenplay), J.K. Rowling (novel)
ประเภท/แนว : Action/Fantasy/Adventure
นักแสดงนำ : Ralph Fiennes, Daniel Radcliffe, Emma Watson, Helena Bonham Carter, Alan Rickman, Bill Nighy, Jason Isaacs, Michael Gambon, Bonnie Wright, Rupert Grint, Tom Felton, Brendan Gleeson
ความยาว : 146 นาที
เรท : สหรัฐฯ PG 13, ไทย น 13+
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย : 18 พฤศจิกายน 2553
ยังครับ อย่าคิดว่า บทความนี้จะจบง่ายๆ ใครๆ เขาเขียนสั้น แต่เรานั้นไม่ ใครเขียนแยก เราแปลกกว่าเขา เพราะเราชอบรวมทั้งต่อนเป็นก้อนเดียว หุหุ HarryPotter สร้างมา 7 ภาคแล้ว เปลี่ยนผู้กำกับฯ ไปเรื่อย มีใครบ้างที่ทำ Harry ในภาคภาพยนตร์ถูกใจคุณบ้าง ลองมาดูกัน
- Harry Potter and the Sorcerer’s Stone (2001)
- Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002)
- Harry Potter and the Prisoner of Azkaban (2004)
- Harry Potter and the Goblet of Fire (2005)
- Harry Potter and the Order of the Phoenix (2007)
- Harry Potter and the Half-Blood Prince (2009)
- Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1 (2010)
- Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2 (2011)
ขอบคุณ : Kapook
