งงมั้ยครับ เมื่อเห็นชื่อของหนังสองเรื่องวางแปะอยู่บนสุดของ entry นี้ …
มันไม่มีอะไรมากไปกว่า ผมได้ดูหนังสองเรื่องนี้ไล่เลี่ยกัน แต่ไม่สามารถจะมานั่งเขียน 2 entry ได้ (เพราะเวลามันมีน้อย) ผมก็เลยจับมาเขียนด้วยกันเสียเลย อาจจะดี หรืออาจจะไม่ดี ผมก็ไม่แน่ใจนักหรอกครับ แต่ก็จะลองเขียนๆ ดู
นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมได้ดูหนัง Harry Potter โดยที่ไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อน ผมหยุดอ่านหนังสือนิยายแฟนตาซีเรื่องนี้ที่เล่มที่สี่ เนื่องจากไม่ใช่แฟนตัวจริงของมัน แล้วก็ไม่เคยซื้ออ่านเองสักครั้ง ได้แต่อาศัยหยิบยืมเอาจากคนโน้นคนนี้มาอ่าน เมื่อไม่มีที่หยิบยืม รวมทั้งไม่ได้กระตือรือร้นที่จะหยิบยืม จึงยังผลให้ไม่ได้อ่าน
Harry Potter and the Order of Phoenix จึงเป็นภาคแรกที่ผมได้ดูหนัง โดยไม่ต้องเปรียบเทียบสิ่งที่อยู่ในหนังกับจินตนาการ และได้ติดตามเนื้อเรื่องอย่างคนไม่รู้อะไรมาก่อน…
ผมกลับพบว่า ภาคนี้สนุกดีแฮะ
ไม่ต้องรู้ว่า เรื่องมันจะเป็นยังไงต่อ แล้วมันจะจบยังไง แค่ตามเนื้อเรื่องไป ก็เท่านั้น ไม่ต้องเปรียบเทียบจินตนาการ และความสุขในวันที่เราอ่านหนังสือ แค่ตามเนื้อเรื่องไป ก็เท่านั้น…
ภาคที่ห้านี้ ตัวละครสาวๆ เริ่มจะสวยๆ กันขึ้นเยอะละ ไม่ว่าจะ เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ที่เริ่มจะโดดเด่นน้อยลง นับแต่วันที่กิ๊กกับรอน และแฮร์รี่พบรักกับ โช แชง ส่วนโช แชง แม้ว่าหน้าจะกลมไปหน่อย แต่ก็น่ารักแบบเอเชียๆ ดี ภาคนี้ยังมีตัวหนึ่ง ไม่รู้จะเห็นเหมือนกันหรือเปล่านะ แต่ผมคิดว่า เธอน่ารักมากๆ เลย นั่นคือ ลูน่า เลิฟกู๊ด ไงละครับ
น่ารักจริงๆ ให้ดิ้นตาย
——————————
ถัดจากนั้นมาไม่กี่ราตรี ผมก็ได้ดูหนังอีกเรื่อง ด้วยเหตุที่เช่ามาแล้ว ยังไม่ได้ดู แถมจะต้องเอาไปคืนในวันนั้นก่อนเที่ยงคืนเสียด้วย
ในที่สุด ก็พบว่า ละครยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร ม่ายช่าย…. แต่เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ จนเสี่ยงว่าจะดูไม่ทันเสียแล้ว แต่ก็ได้โอกาสสำหรับเสี่ยงดวง ได้ดูหนังเรื่องนี้ก่อนละครจบ
House of Wax
จริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่า อยากดูอะไรมากมายนักเมื่อตอนที่หยิบ แค่รู้สึกว่า ไม่รู้จะดูอะไรเท่านั้นเอง (ที่อยากดู มันก็เป็นหนังวันเดียวเสียนี่) แต่พอได้ดูแล้วก็ เออ … มันก็โอเคนี่หว่า แม้ว่า พล็อตเรื่องมันจะดูจงใจๆ ไปหน่อยก็เหอะ
ที่เจ๋งก็คือ เบื้องหลังงานสร้างของหนังเรื่องนี้ เขาใช้ขี้ผึ้ง (Wax) จริงๆ มาถ่ายทำนี่แหละ แบบว่า ไม่มีอะไรจะแสดงตัวตนและลักษณะของขี้ผึ้งได้ดีเท่าขี้ผึ้งหรอก จริงมั้ยครับ?
เรื่องราวของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่หวังจะไปดูฟุตบอลนัดสำคัญ แต่ทว่า ระหว่างทางพวกเขากลับต้องเจอสิ่งไม่คาดฝัน เมื่อไปเจอกับเมืองประหลาดและน่าสะพรึงกลัว ยิ่งเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไป คนดูอย่างผมก็ยิ่งได้รับรู้มากขึ้นว่าอะไรเป็นอะไร เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน และที่ตระเตรียมใจรอรับไว้ มันสั่นสะเืทือนหัวใจเราไม่เบาทีเดียว
แม้ว่า ท้ายที่สุด เราเองจะคิดได้ว่า “มันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงขึ้นมาได้หรอก มันก็มีแต่ในหนังเท่านั้นแหละ” ก็ตาม
สุดท้าย ก็เป็นความบันเทิงอีกรูปแบบที่ได้เห็นไอเดียใหม่ๆ ในการสร้างหนังขึ้นมา เพราะคงไม่มีเรื่องไหนทำหุ่นขี้ผึ้งเป็นแกนหลักของหนังหรอก (เท่าที่รู้อะนะ)
สุดท้าย เมื่อดูหนังจบ มันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี สรุปว่า ถึงจะได้ดูหนัง แต่ก็ไม่ทันเวลาเส้นตายอยู่ดี สุดท้าย ก็ต้องไปเสียค่าปรับจนได้สิเรา
—————————
พอก่อนดีกว่า วันหน้าจะมาเขียนให้อ่านใหม่นะจ๊ะ
อยากดู แฮรี่สุดๆ เลย แต่ไม่มีเวลา (เงินก็ไม่ดี) T_T
ตอบเฉพาะแฮรี่
สำหรับคนที่อ่านหนังสือภาคห้ามา ก็บอกได้ว่าในหนังสือภาคนี้ไม่สนุกสุดแล้วในความเห็นฉัน หมายถึงถ้าเทียบกับภาคอื่น เลยเป็นเหตุให้ฉันรู้สึกว่าหนังสนุกดีเฮะ เพราะว่าตัดความเยิ่นเย้อในหนังสือออกไป ดำเนินเรื่องได้เร็วดี และเพราะไม่คาดหวังมากด้วยมั้ง เลยรู้สึกว่าได้รับผลเกินกว่าที่คาด
ฉันว่าคุณ Pat เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือแล้วพอดูหนังพบว่าภาคนี้สนุกแล้วไม่บ่นว่าดูไม่รู้เรื่องนะ ที่พูดแบบนี้เพราะน้องที่ทำงานบอกว่า ถ้าคนไม่อ่านหนังสือมา น่าจะดูไม่สนุก เพราะหนังเดินเรื่องเร็ว ไม่บอกที่มาที่ไป ไม่อธิบายเหตุผลเท่าไร ซึ่งฉันก็ไม่มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ เพราะตัวเองอ่านหนังสือมาแล้วนั่นเอง เลยไม่สามารถบอกได้ว่าข้อสังเกตุของน้องเขาเป็นตามนั้นจริงหรือไม่
หมายเหตุ ชอบน้องรักดีเหมือนกัน ^^