รีวิวหนัง Exit 8 ทางออกหมายเลขแปด | หลง หลอน สะท้อนสังคม
วันนี้ ผมมีโอกาสได้เข้าไปดูหนังญี่ปุ่นเรื่องใหม่ที่เพิ่งเข้าฉายในไทย บทหนังที่พัฒนามาจากเกมและเล่าเรื่องของการเดินหาทางออกภายในรถไฟฟ้าใต้ดินของชายหนุ่มที่เพิ่งได้รับรู้จากแฟนเก่าว่าเธอตั้งท้อง หนังที่ใช้ตัวแสดงน้อยอย่าง ‘Exit 8’ หรือชื่อไทย ‘ทางออกหมายเลข 8’ จะออกมาสนุกอย่างไร และมีอะไรสอดแทรกอยู่ในนั้น เรามาลองดูกันครับ
คิดเห็นเช่นไรกับหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้?
เรื่องแบบนี้จะพบเจอได้ในหนังญี่ปุ่นเท่านั้นแหละมั้ง หนังที่เล่นกับที่แคบ เดินไปเดินมาตามทางเดินของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน พาคนดูรู้สึกไม่อาจวางใจ เฝ้ามองอย่างค้นหาความผิดปกติไม่ต่างอะไรกับตัวละคร ชื่นชมเลยที่เขาใช้พื้นที่อันจำกัดมาสร้างสรรค์เรื่องราวได้ แถมมีอะไรใหม่ในทุกครั้งที่ตัวละครเดินหาทางออก ตัวละครที่มีน้อยต่างทำหน้าที่กันได้สุดยอด โดยเฉพาะนิโนะมิยะและลุงโคจิ
นอกจากนี้ เนื้อในของหนังก็ยังแฝงความหมายและสะท้อนสังคมอยู่ในนั้นอีกด้วยครับผม
เรื่องย่อหนังญี่ปุ่น ‘Exit 8’
มันเป็นเรื่องกระทาชายนายหนึ่ง (รับบทโดย นิโนะมิยะ คาซึนาริ จากหนังเรื่อง ‘Gantz’ และซีรีส์ ‘Vivant’) เขาอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ขณะนั้น เขาก็ได้รับสายจากอดีตแฟนสาว (รับบทโดย โคมัตสึ นานะ จากหนังเรื่อง ‘The Last 10 Years’ และ ‘Farewell Song’) ที่เพิ่งเลิกกันไปไม่นาน แต่เธอมาบอกว่า กำลังตั้งท้องกับเขา และเฝ้าแต่ถามว่า จะทำยังไงกันดี
ในระหว่างนั้น เขาก็พบว่า ตนเองไม่สามารถจะออกไปจากสถานีแห่งนี้ได้ เฝ้าวนไปวนมาอยู่แต่ในนั้น พบแต่เพียงป้ายให้คำแนะนำสามสี่ข้อกับเขาเท่านั้น
รีวิวหนังไซโคเฮอร์เรอร์ ‘ทางออกหมายเลข 8’
นี่คือหนังจากเกมชื่อดัง แต่มันถูกดัดแปลงออกมาให้กลายเป็นบทหนัง ใส่เรื่องราวเข้าไปเพื่อให้ประโยชน์ในการบอกเล่าในรูปแบบภาพยนตร์ ผู้ชมจะได้พบกับหนังญี่ปุ่นที่แบ่งเป็นบทๆ ตามแต่จะเล่าถึงตัวละครไหน เป็นชายที่หลงทาง เป็นคุณลุงที่ร่วมทาง หรือจะเป็นเด็กชายอีกคน แต่ทุกคนต่างก็หลงทางอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดินแห่งเดียวกัน
หนังสร้างจากเกม หาทางออกต้องมีกติกา
มีเพียงป้ายบอกคำแนะนำเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องชี้นำทางให้กับพวกเขา ป้ายนั้นบอกกับพวกเขาว่า 1. ให้มองหาและอย่ามองข้ามความผิดปกติ 2. ให้หันกลับทันทีที่เจอความผิดปกติ 3. อย่าหันกลับถ้าไม่เจอความผิดปกติ และ 4. ทางออกหมายเลข 8 คือทางออกเดียวเท่านั้น ฟังแล้วอาจดูเป็นเรื่องง่าย แต่ความจริงมันไม่ใช่เลย
หนังเรื่องนี้ที่ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อตัวละคร ใช้พื้นที่ถ่ายทำแบบจำกัด คนดูจะได้เห็นเพียงทางเดิน ผนังกระเบื้องสีขาว ป้ายบอกทาง และป้ายโฆษณา ทั้งยังต้องถูกบังคับให้มองหาความผิดปกติไปพร้อม ๆ กับตัวละคร ราวกับตัวเองก็เป็นหนึ่งในคนหลงทางอยู่ในสถานีเมโทรด้วย สับสนและมึนงงกับทางออกที่หาไม่เจอสักที
การวนซ้ำ ที่มาพร้อมกับความอึดอัด
สิ่งที่เห็นคือ หนังพยายามจะบอกเล่าให้ในทุกครั้งที่ตัวละครเดินวนหา มีบางสิ่งที่แตกต่างออกไป เพื่อสร้างความฉงน และหลีกพ้นความจำเจ แต่ยังไงก็ดี มันก็คงเลี่ยงไม่ได้หรอก เพราะคนดูจำต้องอดทนท่ามกลางความอึดอัดของพื้นที่เดิม ๆ ที่ถูกฉายซ้ำไปซ้ำมา
มีบ้างบางส่วนที่ชวนให้ตื่นตกใจ บางส่วนก็ชวนให้สงสัย คุณลุงคนนั้น (รับบทโดย ยามาโตะ โคจิ จากซีรีส์ ‘Vivant’) ที่ดูน่ากลัว ๆ น่ะเขาเป็นใคร แล้วเด็กชายคนนั้นอีกล่ะ ไม่พอ เรายังได้เจอกับแฟนสาวของชายผู้หลงทางด้วยอีก
Taglines: Do not overlook any anomalies.
ด้วยรูปการนำเสนอของหนัง เน้นหนักไปที่หมุนกล้องไปมา เน้นการถ่ายแบบลองเทค มันดูจะเหมาะกับการฉายที่เน้นภาพมากที่สุด ทำให้ได้พบว่าการฉายแบบ 4DX ใช้ประโยชน์จากเอฟเฟกต์ต่างๆ น้อยมากเมื่อเทียบกับความยาวหนัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูหนังจบ คนดูจะมองเห็นว่าสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อคืออะไร บทสรุปของมันมีประเด็นนิดเดียวจริง ๆ แต่นำมาขยายใหญ่โดยใช้เล่าให้มีความลึกลับของการหาทางออกไป
ขณะเรื่องที่หยิบมาเล่าก็ตั้งใจสะท้อนถึงปัญหาสังคมบางอย่างไปพร้อม ๆ กัน
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
| ชื่อภาพยนตร์ | Exit 8 / ทางออกหมายเลขแปด / 8番出口 |
| กำกับ | เก็งคิ คาวามุระ (Genki Kawamura) |
| เขียนบท | Kotake Create, Kentaro Hirase, Genki Kawamura |
| แสดงนำ | Kazunari Ninomiya, Yamato Kochi, Nana Komatsu, Kotone Hanase |
| แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ผจญภัย, สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, ลึกลับ |
| เรท | N/A |
| ความยาว | 95 นาที |
| ปี | 2025 |
| สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
| เข้าฉายในไทย | 4 ธันวาคม 2025 |
| ผลิต/จัดจำหน่าย | AOI Promotion, Story, Toho |
คะแนนรีวิวหนัง ทางออกหมายเลข 8
พล็อตและบท - 7
การแสดง - 8
การดำเนินเรื่อง - 7.5
งานถ่ายภาพ โปรดักชั่นและเทคนิคพิเศษ - 7.8
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
7.6
Exit 8
เรื่องแบบนี้จะพบเจอได้ในหนังญี่ปุ่นเท่านั้นแหละมั้ง หนังที่เล่นกับที่แคบ เดินไปเดินมาตามทางเดินของสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน พาคนดูรู้สึกไม่อาจวางใจ เฝ้ามองอย่างค้นหาความผิดปกติไม่ต่างอะไรกับตัวละคร ชื่นชมเลยที่เขาใช้พื้นที่อันจำกัดมาสร้างสรรค์เรื่องราวได้ แถมมีอะไรใหม่ในทุกครั้งที่ตัวละครเดินหาทางออก ตัวละครที่มีน้อยต่างทำหน้าที่กันได้สุดยอด โดยเฉพาะนิโนะมิยะและลุงโคจิ นอกจากนี้ เนื้อในของหนังก็ยังแฝงความหมายและสะท้อนสังคมอยู่ในนั้นอีกด้วยครับผม













