รีวิวหนัง 007 SPECTRE | องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย เจมส์ บอนด์

ที่มาที่ไปขององค์กรร้าย SPECTRE ที่เชื่อมโยงทุกภาคและสาวบอนด์คนสวยคนใหม่

หลังจากได้ทราบจากหลายทางว่าวันนี้ รถจะติดขัดเพราะหลายงานที่จัดขึ้นพร้อมกัน ผมจึงเลือกเดินทางไปดูหนังในบริเวณที่น่าจะเลี่ยงเหตุดังกล่าวได้ ซึ่งก็พบว่าทุกอย่างไหลลื่นอย่างดี ไปถึงห้าง ซื้อตั๋วหนัง ทานข้าวแล้วเข้าโรงหนังแบบชิลๆ เพื่อเก็บตกหนังแฟรนไชส์ดังที่สร้างติดต่อกันจนเป็นภาคที่ 24 ภาคนี้ใช้ชื่อสั้นๆ อีกครั้งว่า ‘SPECTRE’ ที่มีชื่อไทยว่า ‘องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’

ภาพจากหนัง ‘องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’

ยังคงเป็น Daniel Craig เจ้าเดิมที่มารับบทเป็นสุดยอดสายลับ James Bond 007 เป็นภาคที่สี่

หลังจาก ‘Skyfall’ พยายามอย่างยิ่งที่จะแสดงให้เราเห็นว่า เจมส์ บอนด์ เป็นผู้ชายทีมีอดีต และนำเสนออดีตเก่าๆ ของเขาออกมาให้เราได้เห็น ในภาคนี้ ดูเหมือนหนังก็ยังคงเจตนาเดิม พาเราย้อนกลับไปสู่อดีตของบอนด์


เรื่องย่อหนัง ‘SPECTRE องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’

ในภาคนี้ เจมส์ บอนด์ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ฆ่าได้อย่างไม่ผิดกฏหมายยังคงรับหน้าที่โดย Daniel Craig เขาตามไปสืบค้นหาตัวของคนที่ต้องสงสัยรายหนึ่งถึงที่เม็กซิโก แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่ามันทำให้เขาได้พบร่องรอยอีกอย่างที่เขาจะกลับไปไล่ล่าหาความจริง

ตัวอย่างที่ 3 ของ ‘องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’ (ซับไทย)

ระหว่างทางของการค้นหา เขาก็ได้พบกับสาวสวยที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งสาวของบอนด์ เธอคือ ดร.สวอนน์ (Léa Seydoux) ความรักก่อเกิดไวเกินกว่าจะตั้งตัว แต่เธอก็เป็นตัวสำคัญที่ทำให้เขาเกิดปัญหาเหมือนเช่นเคย ส่วนที่อังกฤษเองก็กำลังมีปัญหา เมื่อองค์กรต้นสังกัดของเขาที่ดูแลโดย M (Ralph Fiennes) ก็กำลังระส่ำเพราะพวกเขากำลังจะยุบดับเบิ้ลโอทิ้ง

สิ่งที่บอนด์ได้มาคือ ‘SPECTRE’ องค์กรชั่วร้ายจากอดีตที่กำลังกลับมาผงาดอีกครั้ง

พยัคฆ์ร้าย 007 ภาคนี้กำกับโดย Sam Mendes ที่เคยกำกับ Skyfall เอาไว้ในกาลก่อน


รีวิวหนัง ‘องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’

เชื่อว่าหลายคนคงเคยดูภาคก่อนหน้านี้ ‘SKYFALL และหลายคนอาจจะพูดเหมือนๆ กันว่า ภาคนั้นมันน่าประทับใจกว่านี้มาก ซึ่งมันก็เข้าใจได้

เพลงธีมไม่ค่อยติดหูสักเท่าไหร่

‘Writing’s on the Wall’ กับน้ำเสียงของ Sam Smith ใครอาจจะบอกว่าชอบเพลงนี้ แต่สำหรับผมนั้น ภาพที่สวยสดงดงามของไตเติลเจมส์ บอนด์ ที่ขึ้นมานั้นไม่อาจปฏิเสธได้ หากแต่เพลงที่ประกอบอยู่นั่น ผมกลับรู้สึกว่ามันก้องกังวานแต่ไม่อาจเข้าถึงและซึมซับจับจิตจับใจได้มากที่ควร จบแล้วก็จบกัน ไม่มีตะกอนหลงเหลือไว้อีกต่อไป

แต่ที่น่าชื่นชมกลับเป็นดนตรีประกอบที่เหลือของ ‘องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’ ที่ทำได้ดี ผสมผสานเสียงดนตรีที่หลากหลายเกี่ยวพันกับสถานที่ที่บอนด์เดินทางไป เพลงที่ใช้เมโลดี้ประจำของหนังนั่นก็แซ่บจี๊ดจ๊าดน่าดู

แอ็คชั่นระห่ำ ลองเทคน่าประทับใจ

จริงๆ ก็คงจะพอรู้กันว่าหนังภาคต่อระดับตำนาน James Bond 007 เรื่องนี้ มุ่งเน้นภารกิจระดับยากๆ แต่ไม่ทิ้งลายความเท่และเก่งกาจในด้านการบู๊ ซึ่ง ‘องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’ ก็ทำไว้ในขั้นน่าพอใจตามสมควร เริ่มด้วยฉากลองเทคที่เริ่มกันตั้งแต่ต้นเรื่อง ถือเป็นการเปิดเรื่องที่น่าตื่นตาอยู่ไม่หยอก ต่อด้วยการพะบู๊บนเฮลิคอปเตอร์ที่ลุ้นระทึก

หลังจากนั้นก็มีแอ็คชั่นเข้ามาเป็นระยะแต่ไม่ชวนให้สะใจสักเท่าไหร่ จนหนังเริ่มผ่อนแอ็คชั่นลงไป เพราะหนังหันไปให้ความสำคัญกับฉากนิ่งๆ ของการพูดจาและการเดินทางของตัวตนของบอนด์แทน ก่อนจะกลับมาสนุกลุ้นกันอีกครั้งในช่วงท้ายเกม แม้ว่าพระเอกคนนี้จะเก่งทั้งรถ ทั้งเรือ ทั้งเครื่องบิน แต่ก็ดูไม่น่าจะทำให้แฟนๆ บอนด์ผู้รอคอยได้หนำใจกันสักเท่าไหร่

สงสัยมันคงจะดูเพอร์เฟกต์เกิน

แต่ต้องยอมรับว่า แดเนียล เครก ก็ยังเป็นเจมส์ บอนด์ คนที่แสดงตนเป็นสายลับ 007 ได้เท่ ดิบ ดุดัน และดูเป็นคนมากที่สุดเท่าที่มีบอนด์เกิดขึ้นมาในโลกภาพยนตร์ หากแต่น่าเสียดายที่องค์กรลับอย่าง ‘SPECTRE’ ที่นำโดยผู้ชายที่ชื่อ Ernst Stavro Blofeld (Christoph Waltz) ดูไร้ความน่ากลัวต่างไปจากที่คาดอยู่มากโข

การดำเนินเรื่องหนังทำให้เราหลุดจากเส้นเรื่องไปบ้างในช่วงระยะสั้นๆ เราอาจมึนงงว่า บอนด์มาที่นี่ทำไมจนกระทั่งพวกเขาพูดถึงมัน ทุกอย่าง ดูเหมือนถูกจัดวางมาแล้วตามสูตร มันเลยดูไม่มีอะไรแปลกใหม่นัก

ภาพจากหนัง ‘องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’

รำลึกถึง 007 ภาคก่อนๆ

เนื้อเรื่อง ‘องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’ ค่อนข้างตามรอย ‘SKYFALL’ อยู่บ้างตรงที่พยายามจะย้อนรอยอดีตของสายลับผู้มีปม ด้วยการสร้างเบาะแสแล้วพาเราไปยังจุดหมาย เจมส์ บอนด์ ต้องร่อนเร่ไปหลายประเทศเพื่อเก็บข้อมูลและทำภารกิจให้ลุล่วงด้วยตัวคนเดียว ยิ่งสืบค้นก็ยิ่งพบแต่อดีตของตัวเอง

ยิ่งสืบก็ยิ่งค้นพบผู้ชักใยคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นในแต่ละภาคที่ผ่านๆ มา แต่ดูคนเขียนบทจะพยายามอยู่ไม่น้อยที่จะร้อยเรื่องราวในภาคเก่าๆ ให้มันเชื่อมโยงกัน

แทรกใส่ปมเล็กปมน้อยเข้ามาจนชักจะล้นจอ

ภาพจากหนัง ‘องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย’

เลอา เซย์ดูซ์ สาวบอนด์ที่สวยที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์

ตั้งแต่แรกเห็นหน้าเธอบนจอ ผมพบว่า Madeleine Swann (Léa Seydoux) คนนี้นี่แหละที่เป็นสาวบอนด์ที่สวยสะดุดตามากที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ชาติบอยด์ เธอดูมีเสน่ห์ชวนมองชวนหลงใหล แม้ว่าความสัมพันธ์ของเธอกับบอนด์จะดูรวดเร็วและรวบรัดอยู่สักหน่อยก็ตามที

ขณะที่สาวอีกคนที่โผล่เข้ามาเพียงไม่นาน อย่าง Lucia (Monica Bellucci) เธอน่าจะกลายเป็นสาวของบอนด์ที่อายุมากที่สุดไปแล้ว แต่แน่นอน ผมไม่สนใจคนมีอายุสักเท่าไหร่

มองดูโดยรวมๆ สำหรับแฟนหนังที่ตามกันมาตั้งแต่ ‘CASINO ROYALE’, ‘QUANTUM OF SALACE’, ‘SKYFALL’ คงไม่อาจพลาด ‘SPECTRE’ ไปได้ พวกเขาจำเป็นยิ่งที่จะต้องติดตามเรื่องราวเพื่อให้ครบถ้วน แต่ถ้าจะคาดหวังให้หนังดูน่าสนุกตื่นเต้น มีชั้นเชิงและกลมกล่อมเพียงพอจะเป็นหนังบอนด์ขึ้นหิ้งได้แล้วล่ะก็…

ต้องขอยอมรับว่า ‘อาจไม่เท่าที่หวัง’


ชื่อภาพยนตร์: SPECTRE / 007 Spectre / องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย
ผู้กำกับภาพยนตร์: Sam Mendes/แซม เมนเดส
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: John Logan (screenplay), Neal Purvis (screenplay),
นักแสดงนำ: Daniel Craig/แดเนียล เครก, Christoph Waltz, Léa Seydoux/เลอา เซย์ดูซ์, Monica Bellucci/โมนิก้า เบลลุชชี่, Ben Whishaw, Ralph Fiennes/ราล์ฟ ไฟนส์
ความยาว: 148 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/น13+, MPAA/13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 5 พฤศจิกายน 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: B24, Columbia Pictures, Danjaq, Eon Productions, Metro-Goldwyn-Mayer (MGM)

องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย

SPECTRE - 7

7

007 SPECTRE

เนื้อเรื่อง 'องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย' ค่อนข้างตามรอย 'SKYFALL' อยู่บ้างตรงที่พยายามจะย้อนรอยอดีตของสายลับผู้มีปม ด้วยการสร้างเบาะแสแล้วพาเราไปยังจุดหมาย เจมส์ บอนด์ ต้องร่อนเร่ไปหลายประเทศเพื่อเก็บข้อมูลและทำภารกิจให้ลุล่วงด้วยตัวคนเดียว ยิ่งสืบค้นก็ยิ่งพบแต่อดีตของตัวเอง ยิ่งสืบก็ยิ่งค้นพบผู้ชักใยคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นในแต่ละภาคที่ผ่านๆ มา แต่ดูคนเขียนบทจะพยายามอยู่ไม่น้อยที่จะร้อยเรื่องราวในภาคเก่าๆ ให้มันเชื่อมโยงกัน

User Rating: Be the first one !
Exit mobile version