รีวิวหนัง Where the Crawdads Sing ปมรักในบึงลึก | เรื่องราวของสาวบึงน้ำ

อาจดูเหมือนใครๆ รอบตัวต่างก็จะได้ดูหนัง ‘Where the Crawdads Sing’ ในโรงกันไปหมดแล้ว แต่ความจริง ก็คงมีมากมายหลายคนที่ยังไม่ได้ดู และรออยู่ว่าเมื่อไหร่จะมีให้ชมได้ใน Netflix และเมื่อวันนั้นมาถึง ผมก็เป็นคนหนึ่งไม่พลาดต้องเปิดดู ‘ปมรักในบึงลึก’ หนังที่ดัดแปลงสร้างมาจากนิยาย

จากผลงานการเขียนที่โด่งดังไปทั่วโลกของฝีมือของ Delia Owens สู่การดัดแปลงเป็นบทหนังโดย Lucy Alibar และกำกับโดย Olivia Newman ผู้กำกับหญิงจากหนัง ‘First Match’ และกำกับบางตอนของซีรีส์หลายเรื่อง [แต่นี่คงเป็นหนังเรื่องแรกที่นายแพทได้รับชม] ครั้งนี้เธอได้รับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกผู้คนเรียกขานกันว่า ‘สาวบึงน้ำ’

และนี่คือชีวิตอันน่ารันทดของเธอ

เรื่องย่อหนัง ‘Where the Crawdads Sing’

มันคือเรื่องราวของ คยา คลาร์ก (Daisy Edgar-Jones จากหนังเรื่อง ‘Fresh’ และซีรีส์เรื่อง ‘Normal People’) ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวในบ้านริมบึง ผู้คนในเมืองเล็กๆ นี้ต่างก็มองเธอเหมือนตัวประหลาด เป็นคนนอก ดูถูกเหยียดหยามเธอ เรียกเธอว่า สาวบึงน้ำ เธอเติบโตขึ้นมาอย่างน่ารันทด จนวันหนึ่ง เกิดเหตุคนตายที่ริมบึง ไร้รอยนิ้วมือ ไร้รอยเท้า ไร้เบาะแสใดๆ แต่ทุกคนในเมืองนั้นต่างก็พุ่งเป้าและคาดคิดว่าฆาตกรนั้นต้องเป็นสาวบึงน้ำผู้นี้ ส่งผลให้เธอต้องถูกขังคุก

แต่ยังโชคดีที่มี ทอม มิลตัน (David Strathairn จากหนังเรื่อง ‘Good Night, and Good Luck.’ และ ‘Godzilla’) ชายคนที่ยินดีจะว่าความเรียกร้องความยุติธรรมกลับคืนมาให้เธอ

ชีวิตในวันเก่าของคยา เธอได้พบและรู้จักกับผู้ชายสองคน หนึ่งในนั้น คือ เทต (Taylor John Smith จากหนังเรื่อง ‘Shadow in the Cloud’ และ ‘Blacklight’) ชายหนุ่มในครอบครัวที่ฐานะไม่ดีนักแต่คือคนที่มองเห็นพรสวรรค์ในตัวคยา และคอยโอบอุ้มชีวิตเธอเรื่อยมา กับอีกคน เขาคือ เชส แอนดรูวส์ (Harris Dickinson จากหนังเรื่อง ‘The King’s Man’ และซีรีส์เรื่อง ‘Trust’) ชายที่ร่ำรวยกว่าและมุ่งหวังจะเธอไปพบกับชีวิตที่ดี แต่ในวันที่เธอต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเช่นนี้ เธอจะเหลือใครสักคนข้างกายหรือไม่เล่า?

รีวิวหนัง ‘ปมรักในบึงลึก’

ด้วยวิธีการเล่าของหนังทำให้เรื่องมันน่าติดตาม ด้วยหนังเริ่มต้นที่เหตุคนตายริมบึง ที่พาให้คยากลายเป็นผู้ต้องหาที่ถูกขังอยู่ในคุก รอเป็นจำเลยในศาล ก่อนที่หนังจะพาผู้ชมไปพบกับเรื่องราวในอดีตตั้งแต่วัยเยาว์ของเธอ จนถึงวันเติบโตกลายเป็นสาวสวยผู้โดดเดี่ยวในบ้านริมบึง สลับกันไปกับการว่าความในศาล ทำให้ผู้ชมสนใจติดตามว่า แท้ที่จริงแล้ว ผลสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร

ต้องบอกว่า หนังเรื่องนี้ทำให้นายแพทอินได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยเพราะภายในเรื่องราว มันเล่าถึงทั้งความรุนแรงในครอบครัวของนางเอก อันเป็นเหตุให้เกิดการแตกแยก จนในที่สุด คยาต้องถูกทิ้งให้เติบโตอย่างโดดเดี่ยวในบ้านหลังนั้น เพระสิ่งที่พ่อพร่ำสอน ทำให้เธอกลายเป็นคนที่ไม่ไว้ใจใคร นับวันจึงแปลกแยกจากผู้คนเข้าไปทุกที ขนาดพยายามจะเข้าเรียนยังถูกเพื่อนบูลลี่จนต้องวิ่งหนีออกมา ก็คงไม่แปลกที่ชาวเมืองจะมองเธอเหมือนเป็นคนนอก แม้ในเมืองนี้จะโคตรเล็ก ผู้คนเหยียดหยามเธอ ทั้งๆ ที่ควรจะสงสารในชะตากรรมอันน่าหดหู่ หนังทำให้ดูเหมือนความตายริมบึงของชายคนหนึ่งกลายเป็นเพียงเรื่องเล็ก สิ่งที่เธอต้องเผชิญนั่นสิคือเรื่องใหญ่

ไม่แปลกใจตัวเองที่ดูหนังเรื่องนี้ไปแล้วจะน้ำตาซึมเพราะรู้สึกสงสารในชะตากรรมของคยา

ส่วนเรื่องคดีมีคนตายและทนายความคนเก่งต้องต่อสู้นั้น เป็นเพียงเส้นเรื่องที่นำพาให้เรารู้จักกับอดีตของคยาเท่านั้น แต่ก็ส่งเสริมให้เรื่องมันดูน่าสนใจขึ้น เพราะมันจะทำให้คนดูสงสัยใคร่รู้ว่า แท้จริงแล้ว คยาคือคนฆ่าหรือเป็นคนอื่นกันแน่ [ซึ่งหนังก็ทำให้ผู้ชมคิดไปได้เรื่อยอยู่] และเธอจะหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหลายหรือไม่ แถมในหนังยังสัญญะบางอย่างที่บอกใบ้ไว้ ใครจับจุดได้ก็คงเดาทุกอย่างได้ตั้งแต่ครึ่งเรื่องผ่านพ้นแล้ว

ในความเลวร้ายก็ยังมีสิ่งที่ดี เมื่อผู้ชายที่ไม่มองว่าเธอประหลาด แต่เข้ามาโอบอุ้มเธอด้วยความรักและปรารถนาดี แม้จะมีบางสิ่งที่ผิดพลาดไปบ้างก็ตาม

ชอบใจที่หนังเล่าเรื่องปัญหาสังคมที่ถูกหยิบมาใส่ในชีวิตของคยา ทั้งเรื่องพ่อที่ก่อความรุนแรงในครอบครัว เรื่องการแตกสลายของครอบครัว ความโดดเดี่ยวแต่ไม่ย่อท้อ สายตาที่เหยียดหยาด ถ้อยคำที่บูลลี่ แต่เธอยังโตขึ้นมาได้ พร้อมกับมีงานอดิเรกที่ทำเองคนเดียวไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับใคร อย่างการศึกษาชีวิตสัตว์ในทุ่งน้ำก่อนนำมาวาดภาพประกอบ ก่อนที่มันจะกลายเป็นหนังสือภาพสร้างรายได้ให้ตัวเอง

งานภาพโดดเด่นเพราะธรรมชาติที่งดงาม ปรุงเพิ่มด้วยการมีนางเอกคนสวย Daisy Edgar-Jones ส่งเสริมให้เป็นหนังที่น่าประทับใจอีกเรื่องหนึ่ง… น่าเสียดายที่ไม่ได้ชมในโรงภาพยนตร์!

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง