ชีวิตของผมช่วงนี้ เข้าโรงหนังบ่อยจริงๆ วันก่อนเยือน Scala ไปชม ‘The King’s Speech’ วันนี้ ผมเปลี่ยนจุดหมาย ไปเยือน Major Cineplex รัชโยธิน กับงานที่มีชื่อเรียกว่า ‘เนื้อคู่ฯ อยากดูเรื่อยๆ ไปจนแก่’ งานพิเศษๆ ของคนรักซิทคอมที่ชื่อ ‘เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร’ ซีซั่นที่สองของ “เนื้อคู่ประตูถัดไป” ที่เจอข่าวช็อค เพราะหลุดผังตั้งแต่ยังฉายไม่จบซีซั่น ในที่สุด ก็ผุดไอเดียนำ 3 ตอนสุดท้ายมาฉายขึ้นจอหนัง ความพิเศษคือ มันมีอยู่จอเดียวที่ได้ฉายซิทคอม 3 ตอนนี้
หลังจากพยายามเดินทางด้วยวิธีที่รวดเร็วที่สุดอย่าง รถไฟฟ้าใต้ดิน และจักรยานยนต์รับจ้าง ในที่สุด นายแพทก็มาถึงที่หมายเลทจากเวลาฉายที่เขาตั้งไว้ไปนิดๆ
แต่ก็พบว่า สามารถเข้าชมซิทคอมในโรงหนังได้อย่างครบถ้วนไม่ขาดไปสักวินาทีเดียว วันนี้ เข้าโรงที่ 13 บนที่นั่งชั้น 2 สาบานได้ว่าไม่เคยมานั่ง วันนี้ ที่นั่งดูสูงๆ ยังไงไม่รู้ เห็นเครื่องฉายอยู่ตรงหน้า เห็นจอหนังที่ต่ำลงไป เป็นอะไรที่นายแพทแปลกหูแปลกตาสุดๆ เลยอะครับ
การฉาย ‘เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร’ 3 ตอนที่ไม่ได้ออนทีวี ก็เริ่มต้นขึ้น ด้วยเสียงของโอปอล์ หันหน้าซ้ายขวาหาเจ้าของเสียงอยู่ ไม่รู้อยู่ตรงไหน แต่ก็ต้องหันกลับมาที่จอหนังอีกครั้ง เมื่อภาพของตัวอย่างหนังใหม่ ‘SuckSeed ห่วยขั้นเทพ’ (เข้า มีนา 54) และความเดิมตอนที่แล้วมันปรากฏขึ้น…
เนื้อคู่ฯ ทั้งสามตอน ถูกฉายต่อเนื่องกัน ไม่มีโฆษณาคั่น จากที่ดูบนจอทีวีเล็กๆ เปลี่ยนมาดูจอใหญ่ มีคนร่วมดูอยู่ในห้องเดียวกันมากมาย ทำให้ได้เห็นว่า เวลาคนสนุกสนานกับซิทคอมเรื่องนี้แล้วแสดงออกถึงความฮาของมันผ่านเสียงหัวเราะ มันยิ่งใหญ่เพียงใด ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมมันถึงกลายเป็นซิทคอมที่เมื่อ “ถูกปลดกลางอากาศ” แล้วมีคนเรียกร้องแทนมัน
ก่อนทุกอย่างจะจบลง ยังมีการฉายบทสัมภาษณ์ความรู้สึกของทั้งผู้กำกับฯ นักแสดง ต่อซิทคอมเรื่องนี้ และความรู้สึกหลังได้รับรู้ข่าวการถูกถอดออกจากผัง ซันนี่บอกว่า มันเป็นการจบแบบ “เท่มาก” มันใช่จริงๆ ไม่เคยมีซิทคอมเรื่องไหนจบไปโดยมีเสียงเรียกร้องมากขนาดนี้ คำขอบคุณหลุดออกมาจากปากคุณมุก ผู้กำกับฯ หลายคำมาก ฟังแล้วน้ำตาคลอ
ปิดท้ายการฉายด้วยการออกมาพูดขอบคุณของทีมงานซิทคอม และพี่ยงยุทธ ทองกองทุน และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกส่งท้ายงาน โอปอล์บอกว่า ถ้าหากใครรู้จักนายทุนใจดี จะมาช่วยเป็นสปอนเซอร์พาทีมงานละครซิทคอมตระเวนโร้ดโชว์ และฉาย 3 ตอนนี้ไปทั่วดินแดนสยาม ก็คงจะดีมากๆ และหากว่าสิ่งที่ฝันเอาไว้เป็นจริง เราอาจได้ดูตอนจบจริงๆ ของ “เนื้อคู่ฯ The Movie” ในโรงหนังก็เป็นได้
ผมเดินจากมา เพราะท้องมันร้องบอกว่า “หิว” เนื่องจากยังไม่ทานอะไรอีกเลยหลังจากบ่าย นี่ก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มแล้ว ที่พึ่งของผมอยู่ใกล้ๆ บ้าน แวะเข้าร้านแล้วก็ไปจัดการโช้ยต่อให้หายหิว แล้วถึงได้มาเขียนบล็อกนี่แหละครับ
หวังว่า ทุกท่านจะชอบในทุกบทความที่ผมเขียน หากจะคัดลอกไปใช้ กรุณาลิงก์กลับมาหาผมบ้างนะครับ!
