รีวิวหนัง What’s for Dinner, Mom? เมนูนี้ ยังคิดถึง | เมนูที่ไม่อิ่ม

ผ่านเข้าสู่สัปดาห์ของการกลับบ้านไปไหว้พ่อแม่กันแล้วล่ะ สงกรานต์คือเทศกาลสำคัญของคนไทย แต่วัฒนธรรมอาหารเป็นสิ่งที่มีอยู่ในทุกชนชาติ วันนี้ ผมได้พบกับหนังที่เล่าเรื่องอาหารอีกเรื่องหนึ่ง แถมยังเล่าถึงสองชนชาติในเรื่องเดียวกัน ผมกำลังพูดถึง ‘เมนูนี้ ยังคิดถึง’ ครับ

หนังเรื่องนี้มีชื่ออังกฤษว่า ‘What’s for Dinner, Mom?’ เล่าเรื่องของสองลูกสาวลูกครึ่งไต้หวันและญี่ปุ่น พวกเธอต้องข้ามไปมาระหว่างสองประเทศสองวัฒนธรรม เป็นหนังเกี่ยวกับอาหารที่มีอาหารจากสองชาติในเรื่องเดียว

ดูจากพล็อตเรื่องแล้วน่าสนใจดี

เรื่องย่อหนัง ‘What’s for Dinner, Mom?’

หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวดราม่าของครอบครัวเล็กๆ ครอบครัวหนึ่ง ลูกสาวสองคน ทาเอะ ฮิโตโตะ (Haruka Kinami) และโย ฮิโตโตะ (Izumi Fujimoto) ที่มีพ่อเป็นคนไต้หวันและมีแม่เป็นคนญี่ปุ่น ชีวิตของพวกเธอดำเนินอยู่กึ่งกลางระหว่างสองวัฒนธรรม

20 ปี หลังการจากไปของแม่ (Michiko Kawai) ทาเอะและโย เดินทางกลับมาที่บ้านเก่าของพวกเธาซึ่งกำลังจะถูกรื้อถอน เพื่อเก็บของที่แม่เธอสะสมไว้ ทาเอะพบกล่องสีแดงที่เต็มไปด้วยสูตรอาหารที่เขียนด้วยลายมือของแม่ ในสูตรและจดหมายเหล่านี้ บอกเล่าเรื่องราว ความรักระหว่างพ่อกับแม่

การเดินทางจากญี่ปุ่นเพื่อตามสามีไปใช้ชีวิตที่ไต้หวัน และช่วงเวลาสุดท้ายที่ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง เมื่ออ่านบันทึกจบ ทาเอะ ตัดสินใจทำตามสิ่งที่บันทึกบอกไว้ เธอเดินทางไปไต้หวันเพื่อติดตามวันเวลาและรำลึกถึงความรักของแม่ที่มีให้เธอ

รีวิวหนัง ‘What’s for Dinner, Mom?’

หนังเรื่องนี้มันสร้างโดยดัดแปลงจากหนังสือที่เขียนโดยเจ้าของเรื่อง Tae Hitoto มันจึงเป็นเรื่องราวที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของเด็กสาวสองคนที่เติบโตมาจากสองวัฒนธรรม ช่วงวัยเด็ก พวกเธอเติบโตในไต้หวัน ก่อนที่เวลาต่อมา เธอจะได้ย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่น

สิ่งที่เราเห็นได้ชัดเจนจากหนังเรื่องนี้ ก็คือ ความรักความผูกพันของคนในครอบครัว คนที่อยู่ใกล้กัน มีความสัมพันธ์ระดับใกล้ชิด ย่อมจะต้องมีเรื่องขัดแย้งและไม่เข้าใจกันในครอบครัว แต่สิ่งที่ยึดโยงเอาไว้แน่นหนา

คือความรัก และอาหาร “รสมือแม่”

เมื่อสองสาวต้องสูญเสียผู้กำเนิดทั้งสองชีวิต โดยเฉพาะมารดาที่เลี้ยงดูกันมาอย่างชิดใกล้ อาหารที่พวกเธอทานอยู่ทุกวันมาจากฝีมือและความตั้งใจล้วนๆ จากผู้กำเนิดตัวเอง การเลี้ยงดูที่แสนเอาใจใส่ การดุด่าว่ากล่าวไม่เคยเกิดขึ้น จดหมายสั้นๆ นั่นเสียอีกที่ทรงพลังต่อการเปลี่ยนแปลงความคิดของลูก

ถือว่าหนังให้เวลากับช่วงเวลาของอาหารไต้หวันมากพอสมควร แม้ว่าอาหารญี่ปุ่นจะถูกแตะต้องน้อยไปหน่อยก็ตาม ทว่าหนังไม่ได้เล่าเรื่องการทำอาหารเป็นกิจจะลักษณะเหมือนหนังอาหารเรื่องอื่นๆ และหนังก็มีปัญหาพอสมควรในหลายๆ จุด

อย่างแรกเลยคือ หนังไม่มีโฟกัสที่แน่นอนในการเล่าเรื่อง ไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วหนังต้องการจะสื่อถึงอะไรที่ชัดๆ สองคือการดำเนินเรื่องที่เรียบเรื่อยหนักมากแม้จะมีคนที่ขำไปกับบางมุกในหนัง เหมือนว่าหนังน่าจะถึงบทสรุปได้แล้วแต่ก็ยังคงดำเนินต่อ อีกทั้งยังไม่มีจุดพีค ไม่มีรู้สึกว่านี่คือหนังกำลังจะจบ แล้วหนังก็จบลงไป

การตัดต่อที่ทำได้ไร้ชั้นเชิง หลายหนที่มีฉากเล็กฉากน้อยแทรกเข้ามาแล้วก็เฟดดำไปโดยไม่มีการเชื่อมโยงแต่ละฉากที่ลื่นไหลและส่งผลต่อกัน

ในขณะที่หลายฉากในบ้านโดยเฉพาะในครัว การจัดแสงเรียกได้ว่ามืดมาก จนมองเห็นตัวละครเป็นเงาทะมึน กลายเป็นว่าสะท้อนถึงความหม่นหมองแทนที่จะส่องแสงให้เห็นถึงแง่มุมดีๆ ของชีวิตเพื่อจะได้มีพลังสู้ต่อไป

แถมหนังหลุดช่วงเวลาที่จะใช้อาหารที่สามารถดึงดูดผู้ชมให้อยู่กับหนัง และหันไปเล่าเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องมากเกิน การแสดงในหลายๆ จุดก็ไม่ชวนสร้างอารมณ์ร่วม รวมไปถึงการแคสต์ตัวละครแม่ที่ไม่ชวนให้รู้สึกเชื่อถือได้มากพอ

แต่ ‘เมนูนี้ ยังคิดถึง’ ก็ยังมีส่วนดีอยู่บ้าง ในช่วงที่หนังถ่ายทำขั้นตอนการทำอาหาร โดยโคลสอัพภาพเจาะจงไปที่ขั้นตอนต่างๆ ของการทำอาหาร มันชักชวนให้น้ำย่อยออกมาเริงระบำเสียเหลือเกิน นั่งดูไปก็ได้ยินเสียงท้องตัวเองร้องไป ทั้งๆ ที่ก็เพิ่งจะทานมาหยกๆ

ถ้ามองถึงเนื้อในของหนังจริงๆ แล้ว มันมีความเรียลอยู่ค่อนข้างสูง เพราะไม่ได้ประดิดประดอยอะไรให้ดูเกินเลยจากความจริง หากแต่เมื่อมองมันจากความเป็นหนังแล้ว มันมีองค์ประกอบที่ยังไม่ดีพอ อาจจะต้องอาศัยการเดินเรื่องและตัดต่อให้ออกมาน่าสนใจและเรียกอารมณ์ร่วมของผู้ชมให้มากกว่านี้

เพราะมันกลายเป็นหนังที่เรียกน้ำย่อยแต่ไม่สามารถอิ่มได้ในตัวเอง

ชื่อภาพยนตร์: What’s for Dinner, Mom? / เมนูนี้ ยังคิดถึง
ผู้กำกับภาพยนตร์: Mitsuhito Shiraha
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Tae Hitoto (novel), Mitsuhito Shiraha
นักแสดงนำ: ฮารุกะ คินามิ/Haruka Kinami, อิซุมิ ฟุจิโมโตะ/Izumi Fujimoto, มิชิโกะ คาวาอิ/Michiko Kawai
ความยาว: 117 นาที
แนว/ประเภท: Drama, Family
ประเทศ: ญี่ปุ่น
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/ทั่วไป, MPAA/
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 13 เมษายน 2017
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Gaga, Is.Field, Mongkol Cinema