รีวิวหนัง ดีว่า..ราวี Diva La Vie | อย่าหลงลืมความดีงามที่อยู่ในตัวเรา
ไม่ว่าใครก็ใครก็เคยผ่านช่วงเวลาดี ๆ ของยุค 90’s ที่มีนักร้องหลายคนประสบความสำเร็จด้วยยอดขายเทประดับล้านตลับ คงมีสักช่วงเวลาที่นึกถึงมัน และถ้ามีหนังสักเรื่องที่เล่าอะไรแบบนั้น ก็คงพร้อมจะให้ความสนใจใช่มั้ยครับ และตอนนี้ก็มีหนังไทยที่เล่าเรื่องนี้แล้ว มันคือหนังที่ชื่อ ‘ดีว่า..ราวี’ หนังสุดท้ายปลายปีจากค่ายหนัง GDH559 ครับ
คิดเห็นเช่นไรกับหนังไทยเรื่องนี้?
หนังไทยที่เล่าเรื่องของดีว่าซุปตาร์ตัวแม่แห่งยุค 90’s ที่ตกต่ำถึงขีดสุดจนต้องจัดคอนเสิร์ตเพื่อหวังกลับเข้าวงการ และต้องพึ่งพาสามตัวตึงแห่งยุคนี้อย่างแก๊งตาคลี จนไป ๆ มา ๆ ก็มีซุปตาร์เคป๊อปมาร่วมคอนด้วย หนังคอมเมดี้ที่เน้นฮาไม่ยั้ง พร้อมสร้างซีนหลุดโลกจนเหมือนเอาแฟนตาซีมาใส่ แต่ไม่พ้นเข้าประเด็นดราม่าที่โดนใจจนทำน้ำตาซึม
แม้จะมีบางมุกที่ไม่โดนต่อมเรา แต่บางช่วงก็ดูล้น ๆ ไปแต่หนังก็มีหลายส่วน รวมทั้งเสียงร้องของแจ๊คกี้ นักแสดงรับเชิญที่ส่งเสริมให้หนังสนุกเพิ่มขึ้นไปอีก
เรื่องย่อหนัง ‘Diva La Vie’
ปลายฝัน มาร์กาเรต เฮง (แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นช์ จากละครเรื่อง ‘เกมล่าทรชน’) เธอคือดีว่าที่โด่งดังในอดีต เป็นเจ้าของตำนานสองล้านตลับ แต่ห่างหายไปจากวงการถึง 7 ปี ตอนนี้เธออยู่อย่างยากลำบาก ต้องเอาของแบรนด์เนมมาขาย ในที่สุดเมื่อไม่ไหว เธอก็คิดหวนคืนกลับวงการอีกครั้ง ด้วยการจัดคอนเสิร์ต และเพื่อเรียกกระแสให้คอนครั้งนี้เกิดขึ้น จำเป็นต้องพึ่งพาแก๊งตาคลี
แก๊งตาคลีประกอบไปด้วย พิตต้า พี (ปิงปอง ธงชัย ทองกันทม) แร็ปเปอร์ปากดี, ไลลา (นินิว เพชรด่านแก้ว) ลูกทุ่งสายมู และคอปเตอร์ (นุนิว ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์) ปรินซ์ออฟทีป็อป สามตัวตึงเจนซีของวงการตอนนี้
แต่ระหว่างทางก่อนถึงวันคอนเสิร์ต ทั้งวันงานแถลงข่าว วันซ้อม วันอะไรต่อมิอะไร เรื่องราวมากมายก็เกิดขึ้น พลิกผันให้พวกเขาฟาดฟันกันไปไม่ยั้ง ถึงขั้นต้องหาแขกรับเชิญใหม่เป็น อเล็กซ์ คิม (เก่ง หฤษฎ์ บัวย้อย จากหนังเรื่อง ‘วิมานหนาม’) ซุปตาร์จากแกนกิมจิให้มาช่วย..หรือจะมาป่วนเพิ่มก็ไม่รู้
แล้วคอนเสิร์ตครั้งแรกในรอบ 7 ปีของดีว่าผู้รักสีแดงจะไปได้ดีแค่ไหน คงต้องมาพิสูจน์ไปด้วยกัน
รีวิวหนัง ‘ดีว่า..ราวี’
กลับมาอีกครั้ง กับผลงานจากผู้กำกับ เติ้ล กิตติภัค ทองอ่วม คนที่เคยมีผลงานเขียนบทซีรีส์ ‘เนื้อคู่ประตูถัดไป’ และกำกับ ‘ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เดอะซีรีส์’ หนนี้ เขากลับมาพร้อมกับหนังใหญ่ที่เล่าถึงมหากาพย์ความวายป่วงในวงการเพลง แน่นอนว่า เขาคงใส่จริตความฮาสไตล์หลากเพศเข้ามาอย่างเต็มเปี่ยมเช่นเคย
หนนี้ เขาเล่าถึงซุปตาร์ยุค 90’s ที่เงียบหายไปหลายปีจนความนิยมตกต่ำ แต่ก็ยังคงยึดติดอยู่กับความโด่งดังของตนเอง เมื่อความลำบากจากการขัดสนเงินทองมันบีบคั้นหนักเข้า เธอเลยต้องกลับมามีแสงอีกครั้ง ทั้งที่เคยทำตัวเกรี้ยวกราดจนสร้างศัตรูไว้เยอะแยะทั่ววงการ หนนี้ เธอได้กลับไปรวมตัวกับป้ากบ (นิมิตร ลักษมีพงศ์ จากซีรีส์ ‘เนื้อคู่ประตูถัดไป’) ผู้จัดการคนเดียวที่ยังรักเธอสุดลิ่มทิ่มประตู
เอาจริง ๆ มันก็พาให้เราย้อนไปนึกถึงช่วงวันเก่าเหมือนกันนะ ทั้งพาหลายคนในช่วงเวลานั้นกลับมาปรากฏบนจอ ใส่เรื่องราวของยุคที่ยังขายเทปกันอยู่ ค่ายที่โปรโมตกันโครมๆ เมื่อศิลปินในสังกัดทำยอดเกินล้านตลับ สีสันที่ฉูดฉาดของคอสตูม แต่สิ่งที่หนังอยากจะสื่อก็คงเป็นการจมไม่ลงของซุปตาร์แห่งกาลอดีตบางคน ที่ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่มันเป็นไปตามวันและเวลา
หนังหยิบชีวิตของคนผู้นั้นมาให้ได้คิดในภารกิจหวนคืนวงการ…
นอกจากเรื่องคนยึดติดที่คิดหวนคืนวงการแล้ว ก็ยังมีเรื่องการเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ความโด่งดังและความสำเร็จที่เป็นแรงส่งต่อไปถึงคนรุ่นถัดๆ มา แล้วก็ยังมีเรื่องของความดีในตัวตนให้คนในหนังและคนที่นั่งดูได้ย้อนคิดและมองหาความดีงามในตัวเราเอง ไม่ว่าเราจะตกต่ำแค่ไหน ถูกทำร้ายยังไง ก็ไม่ควรหลงลืมที่จะหยิบมันออกมาใช้กับคนรอบกาย ธีมนี้สอดประสานได้ดีกับเพลงหลักในหนังเลยล่ะ
ท่ามกลางประเด็นของหนังที่น่าสนใจ หนังบอกเล่าด้วยกลิ่นอายความตลกโปกฮาและเพี้ยนสุดติ่ง บทหนังมีความหลุดโลกและซ่องแตกอยู่ไม่น้อย แม้จะชวนเราฮาได้เป็นส่วนใหญ่ แต่หลายช็อตหลายช่วง ก็ทำเรางงว่าทำไมเขาขำกัน ถึงอย่างนั้น ก็ต้องบอกว่า นักแสดงต่างทำหน้าที่ของตัวเองตามโจทย์ที่ได้รับมากันได้ดี พาผู้ชมฮาร่วนไปได้เรื่อย ๆ หนังมีทั้งส่วนดีเด่น ส่วนที่แอบแฟนตาซี ส่วนที่เรื่อยเปื่อย และส่วนที่ดราม่าน่าสนใจ
นอกจากจะชอบในประเด็นที่เล่นในหนังแล้ว เสียงร้องของแจ๊คกี้ก็น่าชื่นชม อีกส่วนนั่นก็คือ ดราม่าเรียกน้ำตาที่มาพร้อมกับประเด็นโดน ๆ
หนังไทยเรื่องนี้มีชื่อภาษาอังกฤษสองชื่อ หนึ่งคือ ‘Diva La Vie’ และ ‘Beauty and the Beat’ แต่ชื่อสองน่าจะตรงใจกับคนที่ดูหนังแล้วซะมากกว่า แม้จะเดินเรื่องด้วยความวายป่วง แต่ก็มองเห็นถึงความต้องการที่จะสดุดีวงการเพลงไทยยุค 90’s ซึ่งเขาก็ไม่ลืมที่จะหยิบตัวตึงของวงการยุคนั้นกลับมาให้คนดูที่คิดถึงได้ซึ้งใจกัน ทั้งยังมี cameo ที่แฟนหนัง GTH/GDH ทุกคนต้องรู้จักเข้าเสริมทัพด้วย
กลายเป็นอะไรที่บันเทิงสุด ๆ แล้วสำหรับหนังไทยส่งท้ายปีนี้ 2025 นี้!
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
| ชื่อภาพยนตร์ | ดีว่า..ราวี / Diva La Vie / Beauty and the Beat |
| กำกับ | กิตติภัค ทองอ่วม |
| เขียนบท | N/A |
| แสดงนำ | ชาเคอลีน มึ้นช์, หฤษฎ์ บัวย้อย, ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์, ธงชัย ทองกันทม, นินิว เพชรด่านแก้ว, นิมิตร ลักษมีพงศ์, รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์ |
| แนว/ประเภท | คอมเมดี้, เพลง |
| เรท | น13+ |
| ความยาว | 120 นาที |
| ปี | 2025 |
| สัญชาติ | ไทย |
| เข้าฉายในไทย | 10 ธันวาคม 2025 |
| ผลิต/จัดจำหน่าย | GDH 559, อิทธิปาธา |
คะแนนรีวิวหนัง ดีว่า..ราวี
พล็อตและบท - 7.5
การแสดง - 7.9
การดำเนินเรื่อง - 7.5
การถ่ายภาพ โปรดักชั่นและเทคนิคพิเศษ - 7.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
7.5
Diva La Vie
หนังไทยที่เล่าเรื่องของดีว่าซุปตาร์ตัวแม่แห่งยุค 90's ที่ตกต่ำถึงขีดสุดจนต้องจัดคอนเสิร์ตเพื่อหวังกลับเข้าวงการ และต้องพึ่งพาสามตัวตึงแห่งยุคนี้อย่างแก๊งตาคลี จนไป ๆ มา ๆ ก็มีซุปตาร์เคป๊อปมาร่วมคอนด้วย หนังคอมเมดี้ที่เน้นฮาไม่ยั้ง พร้อมสร้างซีนหลุดโลกจนเหมือนเอาแฟนตาซีมาใส่ แต่ไม่พ้นเข้าประเด็นดราม่าที่โดนใจจนทำน้ำตาซึม แม้จะมีบางมุกที่ไม่โดนต่อมเรา แต่บางช่วงก็ดูล้น ๆ ไปแต่หนังก็มีหลายส่วน รวมทั้งเสียงร้องของแจ๊คกี้ นักแสดงรับเชิญที่ส่งเสริมให้หนังสนุกเพิ่มขึ้นไปอีก













