เคยมีบ้างมั้ย? ที่คุณอยากจะลบบางคนออกไปจากชีวิต เคยมีบ้างหรือเปล่า ที่เคยคิดอยากมีอุปกรณ์อะไรสักอย่าง ที่จะทำหน้าที่นั้นให้กับเรา ลบคนที่ไม่ต้องการจะเห็นทิ้งไปด้วยเหตุผลบางอย่าง เพราะแค้น หรือเกลียดชัง กลัว หรือทำให้เราเสียประโยชน์ ถ้ามีคนสร้างมันจริงๆ ขึ้นมาล่ะ ‘DELETE’ คงเป็นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนกับสิ่งนั้น
source: GDH
ผลงานจาก ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ผู้กำกับที่มีผลงานการันตีฝีมืออย่าง ‘Shutter ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ’ และ ‘โฮมสเตย์’ ที่ขนทั้งทีมงานผู้อยู่เบื้องหลังผลงานชิ้นเยี่ยมมากมาย พร้อมพรั่งทั้งนักแสดงที่ทุกคนรู้จักคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี มากับไอเดียและเรื่องราวที่ถูกเติมแต่งให้กลายเป็นบทซีรีส์สำหรับลงในบริการสตรีมมิ่งระดับโลกได้อย่างไม่อายใคร
ได้เวลาออนแอร์ให้ดูรวดเดียวทั้ง 8 ตอนพร้อมกันแล้ววันนี้
เรื่องย่อซีรีส์ ‘DELETE’
เหตุมันเริ่มต้นขึ้นในวันหนึ่ง จู่ๆ ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งโผล่มาเบื้องหน้า ลิลลี่ ลลิตา (ฟ้า ษริกา จากหนังเรื่อง ‘ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ’) และขอให้เธอถ่ายรูปด้วยมือถือหน้าตาประหลาด ก่อนที่เด็กคนนั้นจะหายไปต่อหน้าต่อตา จากนั้น เรื่องราวของการลบก็ได้เริ่มต้นขึ้น
เอม อาทิตย์ (ณัฏฐ์ กิจจริต จากหนังเรื่อง ‘เร็วโหด..เหมือนโกรธเธอ’ และ ‘แอปชนแอป’) เจ้าของเพจดังเจ้าของหนังสือ ‘Lost & Found’ ที่อยู่กับ อร (ออกแบบ ชุติมณฑน์ จากหนังเรื่อง ‘ฉลาดเกมส์โกง’ และ ‘คนหิว เกมกระหาย’) ภรรยาสาวที่เป็นช่างภาพ แต่เขากำลังหมดรักเธอ และกำลังคบชู้กับหญิงอีกคน
ทู (ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ จากหนังเรื่อง ‘วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ’) ไฮโซเจ้าของกิจการฟาร์มที่รับช่วงต่อมาจากพ่อที่ป่วย เขาเป็นสามีของ ลิลลี่ สาวสวยผู้ดูแลแกลเลอรี่ พวกเขาเป็นทะเลาะกันบ่อยๆ หลังฝ่ายภรรยาเคยแท้งลูก ขณะที่ลิลลี่เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องกับผู้ชายที่ไม่ใช่สามีของเธอ
เมื่อเกิดเหตุ ลิลลี่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ทำให้ ยุทธชัย (นพชัย ชัยนาม จากหนังเรื่อง ‘ลอง ลิฟ เลิฟว์’) ตำรวจมือดีต้องออกสืบหาความจริง หลังพบความน่าสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับคดีคนหายที่ยังปิดไม่ลง
รีวีวซีรีส์ ‘DELETE’
มันเป็นซีรีส์ที่เริ่มต้นเรื่องมาได้อย่างน่าสนใจ ด้วยฉากของเด็กสาวคนหนึ่งที่ยื่นมือถือให้คนที่ไม่รู้จัก แล้วบอกให้ถ่ายรูปตน และทำให้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องตกใจสุดขีด เมื่อการกดปุ่มของตนเป็นเหตุให้เด็กสาวตรงหน้าหายไป ก่อนจะปูด้วยเรื่องราวของสองครอบครัวที่ต้องมาเกี่ยวข้องกันเพราะการคบชู้ แม้ว่าเรื่องราวในช่วงนี้ อาจค่อนข้างนิ่งเนือย แต่ทุกสิ่งที่เล่ากำลังกรุยทางไปสู่อะไรที่ระทึกกว่า เมื่อผ่านสองตอนแรกไปได้ ความน่าสนใจและน่าติดตามจะเพิ่มพูนขึ้นเป็นกอง
หลังจากปูเรื่องเสร็จแล้ว บทซีรีส์ก็หันไปเล่าถึงตัวละครตัวอื่นบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ยุทธชัย ตำรวจสายสืบที่มีแฟ้มข้อมูลคนหายอยู่กับตัว และกำลังได้เบาะแสการหายตัวไปที่เกิดขึ้นอีกครั้ง หรือจะเป็น จูน จรินทร์พร (ชาร์เลท วาศิตา จากละครเรื่อง ‘ลายกินรี’ และ ‘พระนคร 2410’) น้องสาวต่างมารดาของทู เด็กสาวในโรงเรียนประจำ ที่ฉลาด และเรียนเก่ง แต่ก็มีปมเรื่องพ่อที่ไม่ค่อยใส่ใจ จนกลายเป็นเด็กที่มีนิสัยขี้ขโมย และเป็นคนที่สนิทสนมกับลิลลี่
source: GDH
นอกจากนี้ ก็ยังมี โต้ง (เจ้านาย จินเจษฎ์ จากซีรีส์เรื่อง ‘ฉลาดเกมส์โกง เดอะซีรีส์’) ลูกชายครู ที่เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนของจูน แล้วก็ยังมี ธีร์ (สมภพ เบญจาธิกุล) พ่อของทูที่ป่วยหนัก ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา
ถึงตอนนี้ การเดินเรื่องเริ่มจะชวนลุ้นระทึกมากกว่าเดิม แถมยังคาดเดาได้ยากกว่าเดิม ใส่เซอร์ไพรส์ระหว่างทางจนทำให้เรื่องมันดูน่าติดตามขึ้น รวมทั้งการเปิดเผยถึงกฎกติกาของการใช้งานมือถือที่ลบคนได้ ที่เปิดโอกาสให้คนดูเริ่มคาดหมายในสิ่งที่จะเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้น
ซีรีส์เรื่องนี้ หยิบเอาเรื่องเทคโนโลยีที่ผู้คนใช้มันราวกับเป็นอีกหนึ่งอวัยวะ ที่ขีดเขียนมันให้กลายเป็นอาวุธที่สามารถสังหารคนได้ เพียงกดถ่ายแล้วจะลบผู้ที่ถูกถ่ายให้หายไปได้ แถมถ้าไม่มีหลักฐานเป็นคลิประหว่างลบจริงๆ ก็คงยากที่จะหาตัวคนผิดได้ ซึ่งแต่ละตัวละครก็มีเหตุผลของการลบที่แตกต่างกันไป แม้ในใจคนดูจะรู้สึกกังขาว่า เหตุผลเหล่านั้น มันเพียงพอ หรือสมควรแก่การลบเป้าหมายจริงๆ งั้นหรือ
source: GDH
บางคนอยากจะลบใครบางคนไปเพราะความรัก บางคนอาจเลือกลบใครอีกคนเพราะความเชื่อใจ ความผิด ความแค้น ความเจ็บปวด หรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกอย่างต่างเป็นความลับที่ไม่ต้องการเปิดเผย บางคนอาจตั้งใจ และบางคนบอกว่าทำไปเพราะไม่มีทางเลือก เลยทำให้มือถือกลายเป็นอาวุธ ขณะที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเอง แทนที่จะใช้อำนาจหน้าที่ไปอย่างที่ถูกที่ควร หากกลับใช้ไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน
แต่ไม่ว่ายังไง ทุกการลบ (ที่เทียบได้กับการฆ่า) ย่อมมีผลตามมา เหมือนกับการทำผิด ยังไงก็มีร่องรอยเหลืออยู่ และไม่มีทางที่มันจะหายจางไปเอง เมื่อได้เริ่มใช้มือถือถ่ายรูป และลบใครบางคนให้หายไป แล้วจะไม่มีวันหวนกลับ ถ้าไม่อยากรับผลของมันที่จะตามมา ก็ไม่ควรจะเริ่มตั้งแต่เแรก
source: GDH
สิ่งที่พอจะมองเห็นก็คือ ตัวละครทุกตัวต่างมีโมเมนต์และบทบาทของตนเอง แม้บางตัวมาโผล่มาไม่มากนัก แต่ก็มีผลต่อการเดินของเรื่องราว อีกส่วนก็คือ มันมีเหตุการณ์ย่อยที่น่าสนใจแทรกเข้ามาในเรื่องด้วย ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากทีวีที่เล่าถึงการรณรงค์ทางการเมืองดังเข้ามา อีกฉากเป็นครูที่กำลังสอนเรื่องอำนาจอธิปไตยด้วย อาจเป็นความตั้งใจอะไรบางอย่างที่ผู้สร้างอยากจะแทรกเข้ามา
ถ้าพูดถึงเรื่องการแสดงของแต่ละคน ต่างก็ทำหน้าที่กันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ ชาร์เลท วาศิตา ที่ทำได้อย่างโดดเด่น แถมยังมีบทที่ส่งด้วยอีกต่างหาก
ส่วนตัวยังอยากให้ 2 ตอนแรก เปิดมาให้น่าตื่นเต้นกว่านี้หน่อย เพราะมันอาจไล่คนดูบางกลุ่มออกไปจนไม่ทันได้เห็นเรื่องราวที่ชวนระทึกตื่นเต้นบวกเซอร์ไพรส์ในช่วงที่เหลือได้ และก็เช่นเคย นี่เป็นพาร์ทเปิด 8 ตอนแรกที่จะนำไปสู่พาร์ทต่อที่จะมาในวันไหน…ไม่รู้เหมือนกันครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | DELETE |
ผู้กำกับ | โอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ |
ผู้เขียนบท | จิรัศยา วงษ์สุทิน, ทศพร เหรียญทอง, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ |
นักแสดง | ไอซ์ซึ ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์, ณัฏฐ์ กิจจริต, ฟ้า ษริกา สารทศิลป์ศุภา, ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง, เจ้านาย จินเจษฎ์ วรรธนะสิน, ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา, ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม |
แนว/ประเภท | ระทึกขวัญ, ดราม่า, สยองขวัญ, โรแมนติก |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 8 ตอน ซีซัน 2: x ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 28 มิถุนายน 2023 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | GDH, จอกว้างฟิล์ม, Netflix |
คะแนนซีรีส์ Delete
พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7
การดำเนินเรื่อง - 6.8
เพลงและดนตรีประกอบ - 6.8
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7.1
6.9
Delete
ผลงานซีรีส์ของทีม GDH และจอกว้างฟิล์ม เรื่องราวระทึกขวัญที่เล่าถึงการใช้มือถือลบชีวิตคนได้ เริ่มต้นอาจเล่าปูเรื่องแบบเนือยไปนิดนึง ทำให้บางคนอาจเทไปก่อน แต่ถ้ายังไปต่อ ก็จะพบว่าหลังผ่านไป 2 ตอน เรื่องราวก็เริ่มสนุกขึ้น มีช่วงลุ้นระทึก มีพลิกเซอร์ไพรส์มากขึ้นในช่วงหลัง ทำให้โดยรวม ทำได้ค่อนข้างโอเค และต้องไปตามต่อกันในภาคหรือพาร์ทสอง