ภาพยนตร์รีวิว

รีวิวหนัง Die Hard 4.0 – Live Free Or Die Hard | ปลุก ‘อืด’ ตายยาก

กลับมาอีกครั้งกับเจ้าตำนานคำว่า อึดตายยาก เมื่อ Bruce Willis ปลุกหนังขายดีของตัวเองกลับมาอีกครั้ง

แม้จะไม่มีความรู้สึกว่า อยากดูหนังแอ็คชั่นเรื่องนี้ตรงไหน แต่ในที่สุด เมื่อคนข้างๆ อยากดู ก็เลยต้องไปดูจนได้ละครับ ‘Die Hard 4.0’ ที่ในบางประเทศจะใช้ชื่อว่า ‘Live Free Or Die Hard’

บรูซ วิลลิส ในหนัง ดายฮาร์ด 4.0
บรูซ วิลลิส ในหนัง ‘ดายฮาร์ด 4.0’

กลับมาอีกครั้งกับเจ้าตำนานคำว่า “อึดตายยาก” กับภาคใหม่ที่ทิ้งห่าง 3 ภาคก่อนมาหลายปี ภาคนี้ชื่อไทยคือ “ปลุกอึดตายยาก” ซึ่งก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน โดยไม่ต้องเดา ว่าพระเอกของเราคนนี้ ไม่มีวันตายในเรื่องแน่นอน (ไม่ได้ spoil ด้วยนะเออ ใครๆ ก็เดาได้จริงมะ)


รีวิวหนัง ‘ดาย ฮาร์ด 4.0 ปลุกอึด ตายยาก’

Bruce Willis ปลุกหนังขายดีของตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตันแล้วหรือไร เลยคิดว่าจะกลับมาปลุกกระแสความนิยมในตัวเองอีกครั้ง หลังจากแสดงเรื่องไหนๆ มาก็เงียบฉี่ไปหมด และดูท่าว่าจะได้ผลเสียด้วย คนแห่ไปหูกันยกใหญ่เลยทีเดียว

John McClane ในภาคนี้ ต้องมายุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ป่วนเมืองครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ เมื่อมือ(ไม่)ดีคิดปิดระบบสาธารณูปโภคของคนทั่วประเทศ ทั้งน้ำ ทั้งไฟฟ้า พลังงาน และอื่นๆ ทุกอย่าง ด้วยการแฮ็คระบบทุกระบบ จ้างแฮ็คเกอร์หนุ่มมือดีเจาะระบบ แล้วจัดการฆ่าทิ้ง

แต่ยังเหลือแฮ็คเกอร์หนุ่มอีกคน Matt Farrell ที่ John ได้รับมอบหมายภารกิจให้นำตัวมาส่ง FBI แต่กลับพบว่า เหตุการณ์เลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศ พัวพันกับเด็กหนุ่มคนนี้ ผู้กำลังถูกตามล่า ฮีโร่ของ John McClane ที่ไม่เชี่ยวเรื่องดิจิตอลแบบวายร้าย แต่กลับเชี่ยวชาญด้านอะนาล็อกมากกว่า กลับต้องมาร่วมล่าวายร้าย หยุดยั้งแผนการชั่ว และรักษาตัวให้รอด อีกทั้งยังต้องรักษาชีวิตลูกสาวที่ไม่ค่อยกินเส้นกับตัวเองอีกด้วย

Die Hard 4: Live Free Or Die Hard – Official® Trailer [HD]

ฉากวินาศสันตะโรทั้งหลายนั้น เราคงได้เห็นกันไปบ้างแล้วจากหนังตัวอย่าง แต่ของจริงในโรงก็ใช่ว่าจะไม่มีเพิ่มเติม สนุกสนานครับสำหรับคนที่ชอบอะไรๆ แบบมันๆ ดำเนินเรื่องสนุกตื่นเต้นเลยทีเดียว พล็อตก็ใช้ได้ บางเรื่องอาจจะไม่สมเหตุสมผลนัก แต่ถ้าคิดว่าจะมาดูอะไรมันๆ ประเภทพังของ พังตึก พังถนน ฯลฯ ก็เชิญครับ มีให้ดูแน่ๆ ไม่ต้องห่วง

เพราะเหตุการณ์ตายยากแบบนี้ ไม่มีอยู่ในชีวิตจริงๆ หรอกครับ


เกร็ดเกี่ยวกับหนัง ‘Die Hard’

– Lucy McClane แสดงโดย Mary Elizabeth Winstead หน้าตาสวยดีครับ หน้าตาแบบฝรั่งสไตล์นึงที่ชอบเลยอะ เธอเคยแสดงในหนังอย่าง Final Destination 3 มาแล้วด้วย ดูเหมือนเธอจะโด่งดังจากงานด้านทีวีมาก่อนนะเนี่ย หนังส่วนใหญ่ที่เธอแสดงมักไม่ใช่หนังใหญ่เท่าไหร่ หาเรื่องที่เข้าฉายในบ้านเรายากมาก ที่ดังหน่อย ก็อย่างเช่น ‘The Ring Two’, ‘Sky High’

Die Hard 4.0 เป็นชื่อที่ใช้กับบางประเทศอย่าง UK และไทย เป็นต้น ส่วนบางประเทศ เขาจะใช้ชื่อ ‘Live Free or Die Hard’ กำกับโดย Len Wiseman คนที่กำกับ ‘Underworld’ และ ‘Underworld: Evolution’ นั่นแหละครับ

หนังดายฮาร์ทแต่ละภาค

มาดูกันสักนิดว่า หนังภาคต่อเรื่องนี้นั้น สร้างกันมาในปีไหนกันบ้าง

  • ‘Die Hard’ (1988) ภาคแรกของหนังเรื่อง สร้างขึ้นเมื่อปี 1988 เชียวนะท่าน สมัยนั้น คนอึดยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลยอะ
  • ‘Die Hard 2’ (1990) 2 ปีต่อมาก็ได้ชมภาคสองต่อเลย
  • ‘Die Hard: With a Vengeance’ (1995) หายไปถึงเกือบ 5 ปี ผู้ชมถึงจะได้พบกับภาคสาม ไหงเริ่มห่างแล้วละ จำไม่ได้แล้วละ ยังเด็กๆ อยู่เลย เหอๆ
  • ‘Live Free or Die Hard’ (2007) ห่างจากภาคสามไปถึง 12 ปีทีเดียว กลับมาที นายอึด ก็กลายเป็น “นายอืด” เสียแล้วละ

กว่าจะเป็น ‘Live Free or Die Hard’ เนี่ย

หนังเรื่องนี้มีมาหลายชื่อมาก ไม่ว่าจะเป็น

  • ‘Die Hard : Reset’ ชื่อนี้ บ่งบอกพล็อตมากไปนิด
  • ‘Die Hard : Tear of the Sun’ อันนี้ ไม่รู้ว่าสื่ออะไรนะ
  • ‘Die Hard 4’ ตรงๆ เลยอะ
  • ‘Die Hard 4.0’ บ่งบอกความเป็นดิจิตอลที่มีใน Die Hard ยุคใหม่
  • ‘Die Hard : Die Hardest’ ตั้งแต่แบบนี้ แล้วภาคหน้า(ถ้ามี) พี่จะตั้งอะไรละครับ

Maggie Q เธอแสดงเป็น Mai Lihn ในเรื่อง เป็นแฟนของวายร้ายของเรื่องอย่าง Thomas Gabriel ผมว่าเธอเซ็กซี่ทั้งหน้าทั้งตัวเลยอะ เธอก็คือสาวเซ็กซี่ใน ‘MI:3’ นั่นเอง ชื่อเต็มๆ ของเธอ Maggie Denise Quigley เป็นลูกครึ่งโปแลนด์-ไอร์แลนด์ แต่โด่งดังมาจากหนังฮ่องกงก่อนจะข้ามยังฝั่งฮอลลีหวูด

– ยังมีอีกคนที่ยังไม่ได้พูดถึงเลย เขาคือ Justin Long เป็นนักแสดงที่ไม่ค่อยคุ้นหน้ามากนัก ดูหน้าเด็กๆ แต่ความจริงเขาอายุ 29 แล้วนะครับเนี่ย เคยแสดงในเรื่อง ‘The Break-Up’ ด้วย นอกนั้นก็ยังมี ‘Herbie Fully Loaded’, ‘Crossroads’ (ปี 2002), ‘Jeepers Creepers’ และ ‘Galaxy Quest’ ไม่ได้ดูเลยสักกะเรื่อง นอกจาก ‘The Break-Up’


ปิดท้ายโปสเตอร์หนัง ที่เน้นส่งเสริม Bruce Willis แบบจริงๆ จังๆ นัยว่า เรื่องนี้ ขายพระเอก “อึด” และ “อืด” คนนี้คนเดียว

PatSonic

บล็อกเกอร์ผู้ชอบดูหนังหลากแนว ฟังเพลงหลายสไตล์ มีเวลาว่างก็จะออกไปท่องเที่ยว บางเวลาก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน หยิบซีรีส์ขึ้นมาดู แล้วก็จะหยิบมาเขียนให้ทุกคนได้อ่านกัน

7 คอมเมนต์

  1. tears of the sun คือชื่อที่ตั้งขึ้นให้คล้องกับหนังอีกเรื่องของ bruce willis ที่ฉายในปี 2003 ครับ… ของฝรั่งเศส retour en enfer แปลว่า return to hell -_-“

  2. ผมชอบเรื่องนี้แฮะ ทำลายข้าวของกันมันหยด รถเด๋งยันเครื่องบินเจ็ท

  3. ไหงไม่ใส่หน้า redirect เอาไว้ใน http://www.cityblue.net/blog/ สักพักหล่ะ ยังงี้คนที่เข้าทาง cityblue ประจำก็ 404 สิ

    ยังจำชื่อ patsonic ไม่ค่อยได้

  4. ใส่ไว้พักนึงแล้วละครับ พอดี กำลังย้ายมาอยู่ที่เซิร์ฟเวอร์ใหม่ ยังไม่เรียบร้อยดี ขอบคุณที่เตือนครับ เดี๋ยวไปทำใหม่

  5. โอ้ เปลี่ยนชื่อเว็บซะทำเกือบผมจำไม่ได้เลยนะเนี่ย
    ถ้าไม่เห็นคำว่า Pat ตรงชื่อเว็บนะคงคิดว่าหลงแล้วแหงๆ 55+

    ถึงแม้คนสมัยนี้จะชอบอะไรล้ำ แต่ก็ยังชอบธรรมชาติอยู่ดีใช่มั้ยครับ ^^
    [ถึงแม้คนสมัยนี้จะชอบ Transformers แต่ก็ยังชอบ Die Hard อยู่ดีใช่มั้ยครับ :D]

    ออกแนวล้ำมันก็ดี แต่ดิบๆนี่สิหัวใจมนุษย์ :P

  6. Justin Long นี่ .. ผมจำหน้าเค้าได้จาก Apple Ad นะครับ..

    “Hi, I am a mac and I am PC !!”
    คนนั้นแหละครับคนที่เล่นเป็น Mac User นะ

Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ