รีวิวหนัง The Adam Project ย้อนเวลาหาอดัม | อนาคตมาถึงเร็วกว่าที่คิด

เรื่องของหนุ่มผู้ย้อนเวลาพลาด กลับได้เจอตัวเองในวัยเด็กและร่วมกันทำภารกิจ

พล็อตหนังที่เล่นกับเส้นเวลายังคงขายได้ทุกยุคทุกสมัย ด้วยเพราะมันเปิดให้สามารถสร้างเรื่องราวที่เหนือจินตนาการไปได้ไกล แต่ขณะเดียวกัน มันก็ต้องใช้พลังความคิดในการสรรค์สร้าง มันจึงสร้างปัญหาเรื่องความสมจริงได้ง่ายมาก วันนี้ คอนเทนต์ใน Netflix มีหนังใหม่แนวไซไฟที่เล่าเรื่องการย้อนเวลาเพิ่มมาอีกเรื่องแล้ว และนั่นคือ ‘The Adam Project’ ชื่อไทยว่า ‘ย้อนเวลาหาอดัม’ ครับ

Ryan Reynolds, Walker Scobell และ Mark Ruffalo ในหนังไซไฟเรื่อง ‘The Adam Project’

ผลงานจากทีมผู้สร้างหนัง ‘Free Guy’ ไม่ว่าจะเป็น Shawn Levy ผู้กำกับ หรือ Ryan Reynolds นักแสดงนำ รวมทั้ง Dan Cohen และ George Dewey ผู้อำนวยการสร้าง แต่คราวนี้ พวกเขาหันมาเล่าเรื่องไซไฟย้อนเวลาที่มีพล็อตเกี่ยวกับครอบครัว

ว่าแล้วก็พูดถึงเรื่องย่อกันก่อนเลยละกัน


เรื่องย่อหนัง ‘The Adam Project’

เรื่องมันเกี่ยวกับ อดีม รี้ด (Ryan Reynolds จากหนังเรื่อง ‘Free Guy’, ‘Red Notice’ และ ‘Deadpool’) ชายผู้ขับอากาศยานในปี 2050 ย้อนเวลากลับไปในอดีต แต่ดันเกิดความผิดพลาดทำให้เขาย้อนเข้ามาอยู่ในช่วงปี 2022 พร้อมกับอาการบาดเจ็บ จึงเข้ามาหลบพักที่บ้านระหว่างซ่อมแซมยาน เขาจึงได้พบกับ อดัม (Walker Scobell) ตัวเขาเองในวัย 13 ขวบที่สูญเสียพ่อไป เหลือเพียงแต่แม่เอลลี่ (Jennifer Garner) ที่กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว

เขาจำเป็นต้องทำภารกิจให้ลุล่วงด้วยการย้อนไปยังปี 2018 ที่ซึ่งลูอิส รี้ด (Mark Ruffalo จากหนังเรื่อง ‘Dark Waters’, ‘Foxcatcher’ และ ‘Begin Again’) พ่อของเขายังมีชีวิตอยู่

ย้อนเวลาหาอดัม | ตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ | Netflix

และเพราะยานยุคนั้นเกิด detect ได้ว่าสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ จึงต้องใช้ตัวเขาเองในวัยเด็กเพื่อสั่งการให้ยานทำงาน และนั่นก็ทำงานอดัมสองคนต้องร่วมเดินทางไปทำภารกิจสุดอันตราย พร้อมๆ กันกับรักษาแผลใจในวัยเด็กของตน


รีวิวหนัง ‘ย้อนเวลาหาอดัม’

หนังเรื่องนี้มีพล็อตไม่ซับซ้อน แต่เหตุและผลของการย้อนเวลาและภารกิจนั้น อาจจะดูซับซ้อนอยู่นิดหน่อย จึงต้องใช้บทสนทนาเพื่อเป็นตัวบอกเหตุและผลนั้น มันคือเรื่องราวของชายหนุ่ม ผู้ที่หลบหนีตัวร้ายในเวลาอนาคตเพื่อกลับไปสู่อดีต ก่อนที่จะเกิดเหตุที่ส่งผลถึงอนาคตของพวกเขา ซึ่งฟังดูก็อาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไร

แต่ในความคิดของผม ความน่าสนใจมันอยู่ที่ การร่วมเดินทางผจญภัยไปด้วยกันระหว่างอดัมสองคน คนละวัย นี่แหละ

Walker Scobell และ Ryan Reynolds ในหนัง ‘ย้อนเวลาหาอดัม’

หนังเล่าเรื่องของคนเดียวกันที่มีชีวิตอยู่กันคนละช่วงเวลา แต่กลับสามารถพูดคุย แบ่งปันอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ร่วมกัน โดยที่หนังไม่ได้สนใจเรื่อง Time Paradox อะไรนั่นอย่างจริงจัง ทั้ง Ryan Reynolds และ Walker Scobell ต่างก็สวมบทบาทเป็นคนๆ เดียวแต่ต่างวัยได้อย่างกลมกลืน เคมีของพวกเขาเข้ากันดี สามารถรับส่งมุขโบ๊ะบ๊ะชวนอารมณ์ได้ตลอด เหลือเชื่อว่านี่คืองานแรกของของวอล์กเกอร์ เป็นเด็กที่น่ารักและแสดงได้ดีเลย

การที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วได้มาเจอตัวเองในวัยเด็ก มันเหมือนการขุดตะกอนบางอย่างให้ลอยขึ้นมา เราอาจเคยเป็นเด็กแบบหนึ่ง แต่เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ สิ่งดีๆ ในตัวเราอาจหดหายไป เรากลายเป็นผู้ใหญ่ที่ตัวเราเองในวัยเด็กไม่ค่อยภาคภูมิใจสักเท่าไหร่ ขณะเดียวกัน วัยเด็กของเราก็มีบางด้านที่ไม่น่าเก็บมาจดจำนัก แต่มันก็ส่งผลต่อสิ่งที่เราเป็นในตอนโตด้วย

โปสเตอร์หนังแบบหนึ่งของ ‘The Adam Project’

ขณะเดียวกัน การที่เขาย้อนเวลามายังปี 2022 เป็นผิดพลาด แต่ก็ทำให้เขาพบทั้งตัวเองในวัยเด็กกับแม่ในวัยสาว ที่จริงแล้วเขาต้องย้อนไปในปี 2018 เพื่อเจอกับพ่อที่ตายจากไปนานแล้ว แต่การผิดพลาดของเขาก็เป็นผลดี เพราะด้วยอาการบาดเจ็บ การซ่อมยานจึงเป็นไปไม่ได้ จำเป็นต้องใช้อดัมวัยเด็กที่ยังสุขภาพสมบูรณ์ อดัมทั้งสองคนจึงต้องทำภารกิจร่วมกัน

บทบาทแม่ของ Jennifer Garner อาจจะไม่มีอะไรมากมายนัก แต่สำหรับอดัม เธอคือคนสำคัญกับเขาเสมอ เป็นเขาที่พยายามปลอบใจด้วยซ้ำ แต่สำหรับ Zoe Saldana (จากหนังเรื่อง ‘I Kill Giants’, ‘Guardians of the Galaxy’ และ ‘Star Trek Beyond’) ผู้รับบทเป็น ลอร่า แฟนสาวของอดัม เธอดูจะมีบทบาทที่สำคัญต่อภารกิจของเขาอยู่ไม่น้อย น่าเสียดาย เมื่อหนังที่มีดาราร่วมแสดงมากมายเรื่องนี้ มีเวลาให้ตัวละครบางตัวน้อยจนไม่หนำใจ และกว่าจะได้เจอกับตัวพ่ออย่าง Mark Ruffalo เวลาของหนังก็ผ่านไปเกือบครึ่งเสียแล้ว

ถ้าจะว่ากันถึงเรื่องเทคนิคพิเศษในหนังเรื่องนี้ ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี เมื่อดูผ่านทีวีจอใหญ่ไม่มีอะไรให้กังขา การออกแบบฉากแอคชันก็ชวนอึ้งชวนลุ้นได้พอสมควร ชอบในไอเดียอาวุธของอดัมตรงที่มันดูคล้ายไลท์เซเบอร์จริงๆ แต่เป็นแบบหนึ่ง แถมฟังก์ชันการทำงานก็ยังดูน่าใช้น่ามีไว้สักอัน ด้านดนตรีประกอบถือว่าทำได้โอเค น่าเสียดายก็ตรงเมื่ออยู่ในจอทีวีสมัยนี่ บางเสียงจะเบาไป ทำให้ขาดอรรถรสอย่างที่ควรจะเป็น นอกเหนือจากจอที่เล็กกว่าโรง บรรยากาศที่ไม่มืดและอยู่ในบ้านที่พร้อมจะมีอะไรดึงความสนใจได้ตลอดเวลา

Ryan Reynolds ผู้รับบทนำในหนัง ‘ย้อนเวลาหาอดัม’

นอกเหนือดาราฮอลลีวู้ดที่เขียนถึงไปทั้งหมดแล้ว หนังยังมี Catherine Keener (จากหนังเรื่อง ‘Sicario: Day of the Soldado’, ‘Incredibles 2’ และ ‘Get Out’) ที่สวมบทตัวร้ายในหนังเรื่องนี้ เธอเล่นเป็น มายา ซอเรียน คนที่ฉวยใช้เทคโนโลยีย้อนเวลาก่อโกลาหลในโลกอนาคตจนทำให้อดัมคิดใช้เทคโนโลยีเดียวกันนั้นย้อนกลับมาแก้ไขอดีต หนังไม่ได้ส่งให้บทของเธอโดดเด่นมากนัก ส่วนหนึ่งก็เพราะมันใช้เวลากับเรื่องดราม่าชีวิตของพระเอกเสียเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง

โดยรวมๆ หนังมีประโยคโดนหลายจุด แอคชั่นพอสนุก ดราม่าพออิน จัดว่าพอเพลิน


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์The Adam Project / ย้อนเวลาหาอดัม
กำกับShawn Levy
เขียนบทJonathan Tropper, T.S. Nowlin, Jennifer Flackett, Mark Levin
แสดงนำRyan Reynolds, Walker Scobell, Mark Ruffalo, Jennifer Garner, Zoe Saldana, Catherine Keener
แนว/ประเภทComedy, Action, Sci-Fi, Adventure
เรทPG-13
ความยาว106 นาที
ปี2022
สัญชาติสหรัฐอเมริกา
เข้าฉายในไทย11 มีนาคม 2022 [ทาง Netflix]
ผลิต/จัดจำหน่าย21 Laps Entertainment, Maximum Effort, Skydance Media

ย้อนเวลาหาอดัม

พล็อตแลบท - 6.9
การดำเนินเรื่อง - 7.1
การแสดง - 7.5
งานภาพและเทคนิคพิเศษ - 7.1
ดนตรีประกอบ - 7

7.1

The Adam Project

เรื่องของอดัมที่ย้อนอดีตกลับมาพร้อมภารกิจ แต่ผิดพลาดจนเจอตัวเองในวัยเด็ก สองอดัมจึงย้อนอีกครั้งเพื่อพบกับพ่อที่ตายไปนานแล้วและทำภารกิจให้สำเร็จ มันจึงเป็นหนังไซไฟย้อนเวลาที่เน้นเล่าเรื่องดราม่าครอบครัวมากกว่าแอคชันอยู่นิดนึง แต่หนังก็มีประโยคโดนๆ หลายจุด ชอบเคมีระหว่างสองอดัม ที่เหลือแอคชั่นพอสนุก ดราม่าพออิน โดยรวมๆ แล้ว จัดว่าพอเพลิน

User Rating: Be the first one !
Exit mobile version