ดูเหมือนตอนนี้ ผมจะไม่ค่อยมีเวลาเข้าโรงหนังสักเท่าไหร่ พอมีอันจะได้เข้าก็ต้องมีอันจะอดเข้าเสมอไป แต่จนแล้วจนรอด วันนี้ก็ยังสู้อุตส่าห์เข้าโรงดูหนังจนได้ และก็เป็นหนังที่หลายคนหมายมั่นจะต้องเข้าไปชมในโรงให้ได้ ด้วยเสียงลือเสียงเล่าอ้างอันเป็นที่กล่าวขานว่าหนังเรื่องนี้มันช่างสุดยอดยิ่งนัก ไม่ใช่ใครอื่นไกล ก็ ‘Foxcatcher’ หรือชื่อไทย ‘ปล้ำแค่ตาย’ เรื่องนี้นี่เอง
เรื่องย่อหนัง Foxcatcher
ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องราวจริงที่เกิดขึ้นกับนักมวยปล้ำพี่น้องและมหาเศรษฐีแห่งตระกูลดังตระกูลหนึ่ง ย้อนกลับไปในยุคสมัยที่โลกนี้ยังมีโอลิมปิกเกมส์ในปี 1984 สองศรีพี่น้องนามว่า Dave Schultz (Mark Ruffalo) ผู้พี่ และ Mark Schultz (Channing Tatum) ผู้น้องที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์มาครองได้พร้อมๆ กัน พวกเขายังคงเตรียมตัวและฝึกซ้อมเพื่อเข้าแข่งขันชิงแชมป์โลกและโอลิมปิกครั้งหน้าอยู่
แต่จู่ๆ มาร์คก็ได้รับการติดต่อจากมหาเศรษฐีอย่าง John du Pont (Steve Carell) ให้ย้ายเข้าไปเตรียมตัวแข่งขันในแคมป์ของเขา ด้วยถ้อยคำหว่านล้อมอย่างดิบดี มาร์คเลือกที่จะย้ายก้นเข้าไปอยู่ โดยที่เดฟไม่ได้สนใจข้อเสนอดังกล่าว เลือกที่จะอยู่กับครอบครัวและการงานที่เริ่มจะลงหลักปักฐานไปบ้างแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตเกิดขึ้นอีกครั้งกับมาร์ค เมื่อเขาย้ายไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ และได้พบว่าตนกลายเป็นคนที่สนิทกับเจ้าของบ้านมากที่สุด เขากลายเป็นสมาชิกของทีมที่สุดจะน่าภาคภูมิใจ ‘Team Foxcatcher’ แปะหราอยู่บนอกเสื้อของเขา เจ้าของบ้านที่มีแต่ของสะสมเป็นเจ้าจิ้งจอกเต็มบ้าน ถ้วยรางวัลมากมายเต็มห้อง แต่เขาก็ได้พบกับเรื่องราวบางอย่างในคฤหาสน์หลังโตใบนั้น อันนำพาให้ชีวิตของเขาต้องพบกับปัญหายุ่งยากอีกครั้ง
เพราะเชื่อมั่นเขาจึงมา หากแต่บางสิ่งกำลังบั่นทอนความเชื่อมั่นนั้น
รีวิวหนัง ‘ปล้ำแค่ตาย’
ความที่มาร์คเชื่อว่า ตนเองประสบความสำเร็จใต้ร่มชายคาของพี่ชายมาตลอด เมื่อได้มาอยู่กับเศรษฐีรายนี้จึงคิดจะกางปีกบินเอง โดยหารู้ไม่ว่า มีบางสิ่งที่เขาจะไม่รู้เลย ถ้าไม่ได้เข้าไปอาศัยกินอยู่หลับนอนอยู่ในบ้านหลังนั้น และนั่นทำให้คนดูอย่างเราๆ ได้รู้ว่า ตัวละครอย่าง จอห์น มีแง่มุมด้านลึกมากพอให้ชื่นชมลีลาการแสดงของ สตีฟ คาร์เรลล์ ว่าทำได้ดีเพียงใด เราอาจจะรู้สึกทั้งสงสารและสมเพชตัวละครตัวนี้อยู่ในใจ
ขณะที่แชนนิ่ง เททั่ม เองก็สลัดภาพเก่าๆ ทิ้งไปได้เยอะทีเดียว เมื่อเขาต้องกลายสภาพเป็นนักมวยปล้ำที่ดูล่ำบึ้ก เดินไปมาอย่างเก้งๆ ก้างๆ มีความคิดเป็นของตัวเองและเชื่ออย่างฝังหัวไม่ยอมฟังใคร เขาได้โอกาสแสดงทักษะด้านมวยปล้ำอยู่หลายหน และเขาก็แสดงมันได้เหมือนกับนักมวลปล้ำจริงๆ มาก จนเราคิดว่านี่คือบทบาทที่โดดเด่นชิ้นโบแดงของเขาเลยทีเดียว
ขณะที่มาร์ค รัฟฟาโล่ ในบทพี่ชายไว้เคราของมาร์ค ชูลท์ซ ที่ถูกน้องไม่ไว้วางใจหนีจากอ้อมอกแห่งความผูกพันไปอยู่กับคนอื่น เขาแสดงได้ดีแต่ดูไม่เห็นความโดดเด่นเท่ากับสองคนแรก กระนั้น เขาก็ยังได้เข้าชิงสมทบชายบนเวทีลูกโลกทองคำ
ด้วยวิธีการเล่าเรื่องแบบที่ใช้คำพูดน้อย ดนตรีน้อย ปล่อยให้คนดูได้เห็นและพิจารณาเอาเองจากพฤติกรรมของตัวละคร เราจะได้เห็นฉากเล็กฉากน้อยเรียงร้อยด้วยมุมกล้องนิ่งๆ พร้อมกับความเงียบ ซึมซับเอาบางสิ่งที่ตัวละครไม่ได้พูดตามแต่ใครจะเก็บอะไรได้ Bennett Miller (ผู้กำกับ ‘Capote’, ‘Moneyball’) เลือกจะใช้ดนตรีประกอบเฉพาะบางฉากที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งมักเป็นฉากที่ต้องการเปลี่ยนอารมณ์ของหนัง จากนิ่งเป็นเคลื่อนไหว จากเรียบเรื่อยๆ เป็นกดดัน ทำให้หนังหลายช่วงสาดใส่ความกดดันใส่ผู้ชมอยู่เข้มข้น
และอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ ฉากบางฉากในนั้นจึงส่งสสารบางอย่างมายังผู้ชมได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
ทำน้อยได้มากอาจจะเป็นนิยามหนึ่งของหนังอย่าง ‘ปล้ำแค่ตาย’ ได้อยู่ หนังมีความดาร์กและหม่นกระจายอยู่ตลอดเวลา นี่คงไม่ใช่หนังที่คุณจะตีตั๋วเข้าไปเพื่อหาความสนุกหรรษา เพราะนี่คือหนังดราม่าที่มีกีฬามวยปล้ำเป็นส่วนประกอบหลักของเรื่อง หากคุณใฝ่หาหนังที่มีชั้นเชิง นี่ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณควรได้ดู
น้ำที่ว่านิ่งๆ อยู่ ดูๆ ไปอาจไหลอยู่ลึกๆ ก็เป็นได้นะครับ
ชื่อภาพยนตร์: Foxcatcher / ปล้ำแค่ตาย
ผู้กำกับภาพยนตร์: Bennett Miller
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: E. Max Frye, Dan Futterman
นักแสดงนำ: Steve Carell, Channing Tatum, Mark Ruffalo, Sienna Miller, Vanessa Redgrave
แนว/ประเภท: Biography, Drama, Sport, Thriller
ความยาว: 134 นาที
เรท: ไทย/ , USA/R
สัดส่วนภาพ: 1.85 : 1
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 8 มกราคม 2558
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Annapurna Pictures, Likely Story, Media Rights Capital
ปล้ำแค่ตาย
Foxcatcher - 10
10
Foxcatcher
ทำน้อยได้มากอาจจะเป็นนิยามหนึ่งของหนังอย่าง ปล้ำแค่ตาย ได้อยู่ หนังมีความดาร์กและหม่นกระจายอยู่ตลอดเวลา นี่คงไม่ใช่หนังที่คุณจะตีตั๋วเข้าไปเพื่อหาความสนุกหรรษา เพราะนี่คือหนังดราม่าที่มีกีฬามวยปล้ำเป็นส่วนประกอบหลักของเรื่อง หากคุณใฝ่หาหนังที่มีชั้นเชิง นี่ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณควรได้ดู
1 คอมเมนต์