รีวิวซีรีส์ Bon Appétit, Your Majesty เมนูรักพิชิตใจราชา | ส่วนผสมดี เคมีลงตัว
ดูท่าจะเป็นซีรีส์เกาหลีที่เกาโดนใจคนดูไม่น้อยในช่วงนี้เลย หลังเห็นมีคนตัดช็อตเล็กช็อตน้อยออกมาเป็นไวรัลกันไม่หยุด กับเรื่องราวของเชฟอาหารฝรั่งเศสที่ข้ามเวลาไปอยู่ในยุคโชซอน ก่อนได้เข้าวังไปเป็นหัวหน้าแม่ครัวคอยคิดเมนูใหม่ ๆ ให้พระราชาสุดหล่อ ‘Bon Appétit, Your Majesty’ หรือชื่อไทย ‘เมนูรักพิชิตใจราชา’ ซึรีส์ไฮบริดชนิดที่รวมเอาทั้ง ข้ามเวลา+อาหาร+โรแมนติก+คอมเมดี้+ซากึก เข้าไว้ด้วยกัน เช่นนั้น ต้องขอลองชิม เอ้ย ลองเปิดดูสักหน่อยแล้วสินะ
คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้?
เมื่อคนเขียนบทหยิบโชซอนสมัยพระเจ้าอีฮอนมาเป็นพื้นหลัง พานางเอกข้ามเวลาจากยุคปัจจุบันไปเป็นหัวหน้าห้องเครื่องผู้ต้องรังสรรค์เมนูใหม่เสิร์ฟพระราชานักชิมทุกวี่วัน มันจึงพาคนดูฟินไปกับฉากชวนจิ้นของคู่พระนาง บวกกับได้ชมฉากโคลสอัปอาหารที่ชวนน้ำลายไหล เชฟตัวจริงมาเอง อธิบายส่วนผสมได้อย่างหมดจด แถมยังน่ารักอีกต่างหาก เคมีพระนางก็ยังดูลงตัว แม้จะรู้ว่ายังไงก็เป็นจริงไปไม่ได้ ทุกอย่างคือจินตนาการล้วน ๆ
นอกจากนี้ ผู้ชมก็ยังจะได้รู้เรื่องเกาหลีในช่วงเวลานั้นด้วยนะ เพราะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ต้องไปตามต่อข้างนอกนั่นเอง
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Bon Appétit, Your Majesty’
ยอนจียอง (ยุนอา จากซีรีส์ ‘King the Land’) เชฟสาววัย 27 ปี ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารฝรั่งเศส และชนะเลิศในการแข่งขันทำอาหารซึ่งทำให้เธอได้เป็นหัวหน้าเชฟของร้านมิชลินสามดาวในปารีส แต่ชะตาเธอกลับพลิกผัน ในวันที่เกิดสุริยปราคาเต็มดวง เธอถูกดูดข้ามมิติไปพร้อมกับคัมภีร์มังอุนรก คัมภีร์ทำอาหารจากยุคโชซอนเล่มหนึ่ง ร่างของเธอร่วงหล่นลงพื้นก่อนจะรู้ว่าตนอยู่ในยุคโชซอน รัชสมัยของพระราชา อีฮอน (อีแชมิน จากซีรีส์ ‘Hierarchy วังวนสงครามชนชั้น’) ที่เธอคุ้นเคยว่าเขาคือ ยอนกีฮุนจอมทรราช หรือพระราชาที่เลวที่สุดในโชซอน
แต่หลังเสิร์ฟเมนูอาหารให้ โดยไม่รู้ว่าเขาคือพระราชาผู้ซึ่งมีประสาทรับรสอันเป็นเลิศ ส่งผลให้อีฮอนโปรดปรานจียองเป็นพิเศษ ถึงขั้นออกอุบายพาเข้าวัง และแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าห้องเครื่องที่ต้องเสิร์ฟเมนูใหม่ไม่ซ้ำให้ทุกวัน
แต่ทว่า ในขณะเดียวกันนั้น จียองกลับต้องมารับมือกับภัยร้ายในวังหลวง เมื่อที่นั่น มีทั้งพระสนมซุกวอนคังมกจู (คังฮันนา จากซีรีส์ ‘Better Late Than Single ไม่สายที่จะหายโสด’) ผู้หลงใหลในตัวพระราชาแต่ริษยาในตัวแม่ครัวยอน ทั้งยังซุกซ่อนความปรารถนาในอำนาจไว้ข้างใน ส่วนอีกคนก็คือ พระหมื่นปี (ซออีซุก จากซีรีส์ ‘Red Swan’) ที่ตั้งใจเป็นปฏิปักษ์กับเธอซะเหลือเกิน
นอกจากนี้ ในวังก็ยังมีองค์ชายใหญ่เจซาน (ชเวกวีฮา จากซีรีส์ ‘Squid Game 3’) ท่านอาของพระราชา กำลังคิดการใหญ่ในฐานะศัตรูตัวฉกาจของกษัตรอีฮอนอีกด้วย ยอนจียองจะหาทางกลับเวลาปัจจุบันได้หรือไม่ หรือเธอจะต้องกลายเป็นชาววังไปตลอดกันนะ?
รีวิวซีรีส์ ‘เมนูรักพิชิตใจราชา’
พล็อตของซีรีส์เรื่องนี้มันก็ดูคุ้น ๆ ดีแฮะ นางเอกที่เชี่ยวชาญด้านอาหารในเวลาปัจจุบัน บังเอิญข้ามไปอยู่ในยุคโบราณ และต้องใช้ฝีมือการทำอาหารของตนเพื่ออยู่รอดและหาทางกลับบ้าน แต่ไม่ว่ายังไง มันกลายเป็นซีรีส์เกาหลีแนวแฟนตาซีผสมย้อนยุคไปแล้ว แถมยังเอาเกร็ดประวัติศาสตร์มาผสมผสานการเล่าได้น่าสนใจดีอีกด้วย
หยิบประวัติศาสตร์มาเล่า ในซีรีส์แนวข้ามเวลามาทำอาหาร
พระเอกเป็นพระราชาอีฮอน ซึ่งก็ถือว่าเป็นกษัตริย์ที่ถูกหยิบมาเขียนบทบ่อยมากพระองค์หนึ่ง หนนี้ มีรายละเอียดให้เราได้รับรู้ว่า พระองค์มีชื่อเสียงด้านเลวร้ายที่กลายเป็นภาพจำของคนในกาลปัจจุบัน อย่างการเกณฑ์และคัดเลือกหญิงสาวเพื่อเข้าวัง ทั้งเรื่องการล้างบางปัญญาชน ที่ทำให้ราษฎรไม่เลื่อมใส แถมหมกมุ่นฝักใฝ่แต่อิสตรี เป็นพระราชาที่ไร้พระมเหสี และมีเพียงพระสนมเท่านั้น
ซึ่งนั่นก็ทำให้คนเขียนบทสามารถใส่ตัวละครนางเอกเข้ามาได้นั่นแล
อีกอย่างที่เราได้รับรู้คือปมใจในอดีตตอนยังเป็นทรงพระเยาว์ ที่เคยได้เห็นภาพของแม่(ที่เป็นพระมเหสีในช่วงเวลานั้น)ถูกนำตัวออกไปจากวัง ความสูญเสียส่งผลให้พระราชาอีฮอนปรารถนาที่จะไขเงื่อนงำเกี่ยวกับการสิ้นพระชนม์ของท่านแม่ตนนั่นเอง
ทีนี้ ก็จะมีอีกตัวละครหนึ่ง นั่นคือ องค์ชายใหญ่เจซาน เจ้าของสำนักต้นเครื่องซาองวอน ผู้กำลังรอกาลเวลาเพื่อแก้ไขบางสิ่งให้ถูกต้อง ซึ่งเริ่มต้นนั้น เราจะไม่เห็นอะไรมากนักว่าสิ่งที่ทำให้เกิดความปรารถนาเช่นนั้นคือสิ่งใด คงต้องให้เวลาซีรีส์ค่อย ๆ เปิดเผยมัน
ถึงจะแอบกาว แต่มันก็เป็นซีรีส์อาหารที่น่าทานมากทีเดียว
ท่ามกลางเรื่องราวของยุคสมัยเบื้องหลัง อาณาจักรโชซอนที่มีพระเจ้าอีฮอนเป็นกษัตริย์ผู้ปกครอง และมีราชวงศ์หมิงมาคอยควบคุมอยู่ เรื่องเล่าที่จริงจังถูกคนเขียนบทจับมาห่อเรื่องรักชวนหัวของกษัตริย์นักชิมกับแม่ครัวข้ามเวลา ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์โชซอน ก็อาจจะไม่ได้เป็นปัญหาอะไรนัก เพราะเรื่องรักชวนหัวมันดูโดดเด้งกว่า
เราอาจพบว่า เมื่อตอนที่จียองข้ามเวลามาใหม่ ๆ ก็ได้เจอกับกษัตริย์ในทันที ช่วงเวลานั้นมันจะดูกาว ๆ ดูไม่สมจริง ก่อนที่จะเข้าสู่วังที่เรื่องมันเริ่มจะจริงจังขึ้นมา แต่ทว่าก็ยังไม่ทิ้งความกาวไปซะทีเดียว เมื่อบทวางให้คู่พระนางได้สร้างความสัมพันธ์กันอย่างบ่อย นางเอกที่เป็นเชฟทำแต่อาหารฝรั่งเศส ช่ำชองในการแข่งขันจนคว้าชัยชนะ พอข้ามเวลามาอยู่ในยุคโชซอน เรื่องก็ขีดเขียนให้เธอต้องใช้ทักษะอันล้ำเลิศในเชิงการทำอาหารมาเข้าประลองครั้งแล้วครั้งเล่า
การอยู่ในรัชสมัยของกษัตริย์ที่เป็นทรราชย์ผู้ที่สักวันจะต้องถูกโค่นล้ม ทำให้แทนที่นางเอกจะต้องเจอพระมเหสี แต่กลายเป็นต้องรับมือคังมกจู (คันฮันนา จากซีรีส์ ‘Frankly Speaking’) ผู้เป็นพระสนมลำดับสี่ ที่เคยอยู่ในหอนางโลมและองค์ชายใหญ่พาออกไปจากคุกแทน พระสนมซุกวอนผู้นี้เคยเป็นคนโปรดของพระราชา เลยคอยขัดแข้งขัดขานางเอกอยู่เป็นประจำ
แต่ด้วยความที่บทมันเขียนให้พระราชาเป็นผู้มีลิ้นรับรสเป็นเลิศ และนางเอกเป็นเชฟหลงยุค มันเลยส่งให้ทั้งเรื่องราวมีแต่ฉากการทำอาหาร ทั้งการเสิร์ฟเมนูใหม่ที่ไม่เคยมีในยุคนั้นให้พระราชาได้ชิม ทั้งการประลองครั้งแล้วครั้งเล่า เปิดให้ใส่ฉากโคลสอัปขั้นตอนการทำและฉากใส่เข้าปาก เสริมด้วยฉากเข้าพระเข้านาง เอ้ย ฉากความสัมพันธ์ที่ชวนจิ้น สิ่งนี้นี่แหละที่เป็นจุดเด่นของซีรีส์ที่ทำให้ผู้คนติดกันงอมแงม
ไหนเรื่องเคมีระหว่างอีแชมินกับยุนอาผู้น่ารักที่เข้ากันได้ดี ไหนจะมี ซอกิลกึม (ยุนซออา จากซีรีส์ ‘The Tale of Lady Ok’) ลูกคู่ของนางเอกที่จมูกหมา ไหนจะพ่อครัวที่สร้างเรื่องในห้องครัวได้สาระพัด จนทำให้เรื่องอาหารเป็นจานหลัก ส่วนอย่างอื่นถือเป็นจานรอง
แต่มันก็แทรกเกร็ดประวัติศาสตร์ไว้เยอะพอตัว
นอกเหนือเรื่องทำอาหารและความสัมพันธ์ระหว่างคู่พระนางแล้ว แต่เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นในยุคโชซอน มันเลยมีอะไรให้หยิบจับมาใส่ได้เยอะแยะ และทำให้คนดูที่ยังรู้เกี่ยวกับเกาหลียุคโบราณไม่มากนัก ได้พบกับความรู้ใหม่ๆ คำใหม่ๆ อย่างเพียบ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องป่าซัลโกจี กึมพโย พื้นที่หวงห้าม พื้นที่ล่าสัตว์ของพระราชา, กวีนยอ วิญญาณเพศหญิงที่พระราชาทรงเรียกนางเอก, ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับรัชสมัยของพระราชาที่ได้ชื่อว่าเป็นทรราชย์ที่วันหนึ่งถูกเรียกว่า ยอนฮีกุน โดยบทชี้ไปที่บาดแผลทางใจ อันส่งผลต่อความเครียดและส่งออกมาเป็นการกระทำ, การล้างบางปัญญาชน, การกวาดต้อนหญิงงามทั่วเมืองไม่สนลูกใครเพื่อเข้าวังไปรับใช้พระราชา, ช่วงเวลาที่โชซอนยังต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์หมิง
นอกจากนี้ เรายังได้รู้ว่าดอกไอริส ถูกเรียกว่าดอกพุตกตด้วยนะครับ
โดยรวมแล้วมันคือส่วนผสมที่เมื่อเคล้ารวมกันอย่างเหมาะสม มันจะกลายเป็นซีรีส์ที่ผู้ชมติดใจและสร้างยอดคนดูได้มากโข ทุกอย่างต้องมาจากการร่วมมือร่วมใจของทีมงานที่ดี ทั้งนักแสดงที่เคมีโดนใจ บทที่หยิบความจริงบวกจินตนาการได้ลงตัว การถ่ายทำ ตัดต่อ เทคนิคพิเศษ ความชวนหัวชวนฮา เกร็ดประวัติศาสตร์ที่พาคนออกไปตามต่อข้างนอกเรื่อง
ไม่แปลกใจเลยที่ซีรีส์เกาหลีในเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้ จะได้เสียงตอบรับที่มากมายจากคนดู
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
| ชื่อซีรีส์ | Bon Appétit, Your Majesty / เมนูรักพิชิตใจราชา / 폭군의 셰프 |
| ผู้กำกับ | Jang Tae Yoo/จางแทยู (เจ้าของผลงาน ‘Lovers of the Red Sky’ และ ‘My Love From the Star’) |
| ผู้เขียนบท | Park Kuk Jae (web novel) |
| นักแสดง | Lee Chae Min, Lim Yoon A, Kang Han Na, Choi Gwi Hwa |
| แนว/ประเภท | ดราม่า, แฟนตาซี, ประวัติศาสตร์, โรแมนติก, อาหาร |
| จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 12 ตอน |
| ช่องทางรับชม | Netflix |
| เริ่มออกอากาศ | 23 สิงหาคม – 28 กันยายน 2025 |
| ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | tvN, Studio Dragon, Netflix |
คะแนนรีวิวซีรีส์ เมนูรักพิชิตใจราชา
พล็อตและบท - 7
การถ่ายทำ และเทคนิคพิเศษ - 7.8
การดำเนินเรื่อง - 7.8
การแสดง - 8
ความสนุกระหว่างรับชม - 8
7.7
Bon Appétit, Your Majesty
เมื่อคนเขียนบทหยิบโชซอนสมัยพระเจ้าอีฮอนมาเป็นพื้นหลัง พานางเอกข้ามเวลาจากยุคปัจจุบันไปเป็นหัวหน้าห้องเครื่องผู้ต้องรังสรรค์เมนูใหม่เสิร์ฟพระราชานักชิมทุกวี่วัน มันจึงพาคนดูฟินไปกับฉากชวนจิ้นของคู่พระนาง บวกกับได้ชมฉากโคลสอัปอาหารที่ชวนน้ำลายไหล เชฟตัวจริงมาเอง อธิบายส่วนผสมได้อย่างหมดจด แถมยังน่ารักอีกต่างหาก เคมีพระนางก็ยังดูลงตัว แม้จะรู้ว่ายังไงก็เป็นจริงไปไม่ได้ ทุกอย่างคือจินตนาการล้วน ๆ นอกจากนี้ ผู้ชมก็ยังจะได้รู้เรื่องเกาหลีในช่วงเวลานั้นด้วยนะ เพราะมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ต้องไปตามต่อข้างนอกนั่นเอง













