รีวิวหนัง Ant-Man and the Wasp: Quantumania | มนุษย์มดตะลุยมิติควอนตัม

เชื่อว่าหลายคนคงติดตามจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลกันมานับทศวรรษกันแล้ว และในเมื่อเรื่องราวยังคงมีมาไม่หยุดหย่อน พวกเขาก็น่าจะยังคงตามต่อเรื่อยไปเช่นกัน เรื่องราวของเหล่าฮีโร่ที่ร่วมือกันกอบกู้โลกนั้นได้ดำเนินมาจนจบเฟส 4 ไปเรียบร้อย และบัดนี้ ก็ได้เวลาแห่งการเริ่มต้นเฟส 5 ที่นำโดยภาพยนตร์ภาคแยกของมนุษย์มดที่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมิติที่ไม่ควรยุ่ง ‘Ant-Man and the Wasp: Quantumania’ ชื่อไทย ‘แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์: ตะลุยมิติควอนตัม’ นั่นล่ะครับ

มนุษย์มด แอนท์แมน ภาคนี้มี Peyton Reed ผู้เคยกุมบังเหียนมาทั้ง ‘Ant-Man’ และ ‘Ant-Man and the Wasp’ รับหน้าที่การกำกับต่อเนื่อง พร้อมต้อนรับการมาถึงของวายร้ายตัวใหม่ จากที่โลกและจักรวาลนี้เคยมี ธานอส คอยป่วนทั้งจักรวาลจนทำให้ประชากรโลกหายไปครึ่งหนึ่งมาแล้ว บัดนี้ก็ได้เวลาของ แคง ตัวป่วนพหุจักรวาลอันเป็นจุดขายในเฟสใหม่กันบ้างแล้ว

ก่อนจะไปถึงรีวิว ขอเริ่มด้วยเรื่องย่อของหนังกันก่อนนะครับ

เรื่องย่อหนัง ‘Ant-Man and the Wasp: Quantumania’

ดูเหมือนครอบครัวแลงจะไม่ค่อยได้มีเวลาให้อยู่สุขกันเท่าไหร่นัก เมื่อ แคสซี่ แลง (Kathryn Newton จากหนังเรื่อง ‘Freaky’ และซีรีส์เรื่อง ‘Big Little Lies’) ลูกสาวตัวน้อยของ สก็อตต์ แลง (Paul Rudd จากหนังเรื่อง ‘Ghostbusters: Afterlife’ และ ‘Ant-Man’) พ่อมดตะนอยต่อยหนัก และ โฮป แวน ไดน์ (Evangeline Lilly จากหนังเรื่อง ‘The Hobbit: The Desolation of Smaug’ และ ‘Real Steel’) ที่เติบโตกลายเป็นสาวสวย ฉลาดเฉลียวจนสามารถสร้างอุปกรณ์ที่ใช้สื่อสารกับมิติควอนตัมได้ แต่มันได้กลายเป็นอีเวนต์ครั้งใหม่ที่เข้ามาทดสอบครอบครัวนี้อีกครั้ง

ด้วยอุปกรณ์ชิ้นนั้นมันดึงดูดทั้งครอบครัวให้เขาอยู่ในมิติควอนตัมอันกว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยทัศนยภาพอันแปลกตา มีสิ่งมีชีวิต และมีมหาวายร้ายรายหนึ่งยึดครองอยู่ แคง ผู้พิชิต (Jonathan Majors จากหนังเรื่อง ‘Da 5 Bloods’ และซีรีส์ ‘Lovecraft Country’) ที่มีจุดมุ่งหมายบางอย่างจากพวกเขา ภารกิจสำคัญสำหรับแอนท์แมน และเดอะวอส์ป ก็คือการพาทั้งครอบครัวกลับสู่โลกอย่างปลอดภัย แต่การจะทำเช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแม้แต่น้อย

รีวิวหนัง ‘แอนท์-แมน และ เดอะ วอสพ์: ตะลุยมิติควอนตัม’

มันคือเรื่องราวของครอบครัวที่กำลังมีความสุขกับชีวิต สก็อตต์ แลง เอง แม้จะมีคนจดจำเขาผิดอยู่บ่อยๆ แต่ก็ดูจะมีความสุขดีกับการเขียนหนังสือขาย ขณะที่ โฮป เองก็แฮปปี้กับมูลนิธิด้านมนุษยธรรม แต่เพราะการทำงานที่ผิดพลาดของอุปกรณ์สื่อสารที่แคสซี่สร้างขึ้น พาให้ทั้งครอบครัว รวมทั้ง เจเน็ต (Michelle Pfeiffer จากหนังเรื่อง ‘Murder on the Orient Express’ และ ‘Mother!’) และ ดร. แฮงค์ พิม (Michael Douglas จากหนังเรื่อง ‘Traffic’ และ ‘Wallstreet’) เองก็ต้องติดร่างแหไปด้วย

ไม่เพียงพวกเขาจะต้องเผชิญกับมิติที่ไม่น่าไว้ใจ พวกเขายังได้เจอกับ แคง วายร้ายตัวใหม่ที่ทรงพลังที่สุดใน MCU ตอนนี้

เรื่องราวที่ชวนคิดถึงจักรวาล Star Wars

ตัวละครที่เชื่อมต่อมาจากซีรีส์ ‘Loki’ หลังซิลวี่สังหาร ฮี ฮู รีเมนส์ ตัวแปรของแคง ส่งผลให้เกิดพหุจักรวาลมากมายนับไม่ถ้วน และแคงก็กลายเป็นตัวแปรที่มีพลังเหนือกาลเวลา ไปไหนมาไหนได้ตามใจชอบ ล่วงรู้อนาคต เมื่อทั้งครอบครัวถูกดูดเข้ามาสู่มิติลี้ลับแห่งนี้ ก็จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับวายร้ายจอมป่วนกาลเวลาอย่างไม่มีทางเลี่ยง และมันก็ทำให้ซูเปอร์ฮีโร่ตัวรองอย่าง แอนท์แมน ได้มีหนังเปิดเฟสใหม่ที่เล่นใหญ่ เจอกับวายร้ายตัวหลัก เมื่อต้องมาผจญกับจักรวาลลับที่ถูกผู้เขียนบทจินตนาการว่ามีอยู่จริง จึงไม่พ้นที่หนังจะใส่ CG มาอย่างเพียบ โดยที่คนดูต้องลืมโลกแห่งความเป็นจริงไปให้หมด

ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดมากมาย ทั้งมีสังคมในแบบของตนเอง (แม้จะอ้างอิงมาจากโลกที่เราอยู่ก็เถอะ) คงไม่แปลกอะไรถ้าดูแล้วจะคิดไปถึงหนังสงครามจักรวาลอย่าง ‘Star Wars’ เมื่อดูเครดิตผู้ออกแบบงานสร้าง Will Htay ที่มีเครดิตมาจาก ‘Han Solo: A Star Wars Story’ และ ‘Andor’ ก็คงไม่น่าแปลกใจอะไรนัก แต่สิ่งที่รู้สึกกว่านั้นคือ นอกจากภาพของวิถีชีวิตจะใกล้เคียงกันแล้ว แม้แต่บทหนังบางส่วนก็ชวนนึกภาพที่เคยพบเห็นในจักรวาลแห่งนี้มาก่อนอีกด้วย

หนังมนุษย์มด ที่ขนทัพนักแสดงมาเพียบ

จะว่าไป หนังนำพามุกตลกที่พาหัวเราะร่วนได้เป็นระยะ ทั้งเขียนบทให้คนดูเข้าใจง่ายแม้ไม่ต้องดูหรือทบทวนภาคก่อนหน้า เพราะช่วงเวลาที่สก็อตต์ แลง มีความสุขอยู่กับชีวิตของซูเปอร์ฮีโร่ที่เขียนหนังสือของตนเองก็เหมือนได้เล่าเรื่องราวคร่าวๆ ให้เราได้ย้อนนึกไปพร้อมกันด้วย ก่อนที่จะพาเราไปสู่มิติควอนตัมยาวๆ จนแทบไม่เห็นโลกมนุษย์ ในหนังมีสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดอยู่เพียบที่สามารถสร้างมุกฮาๆ ได้ แต่คงไม่มีตัวไหนจะตึงไปกว่า M.O.D.O.K. (Corey Stoll) ที่เป็นจอมขโมยซีนในภาคนี้ไปได้ [เข้าไปดูเอาเองก็แล้วกัน ว่าเขาเคยเป็นตัวไหนในภาคก่อน]

นอกจากจะพอถือได้ว่า Jonathan Majors เป็นนักแสดงหน้าใหม่ในจักรวาลมาร์เวลแล้ว ก็อึ้งพอควรที่เขาชักชวน Bill Murray (จากหนังเรื่อง ‘Ghostbusters’, ‘Lost in Translation’ และ ‘Moonrise Kingdom’) ให้มาร่วมงานในหนังเรื่องนี้ โดยนำบทของ ไครลาร์ ตัวละครที่อยู่ในมิติควอนตัมและเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับ เจเน็ต แวน ไดน์ ที่รับบทโดย Michelle Pfeiffer

ระหว่างทาง ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า แคทริน นิวตัน/Kathryn Newton ผู้รับบทเป็น แคสซี่ แลง ที่ทั้งคิดค้นอุปกรณ์ประหลาดที่พาครอบครัวให้ยุ่งเหยิงอยู่ในมิติควอนตัม แถมยังมีชุดของตนเองอีกนั้น เธอดึงดูดความสนใจด้วยความน่ารักและคาแรกเตอร์ของสาวเนิร์ดที่หลงใหลในเทคโนโลยีและเปี่ยมด้วยความอยากต่อสู้แบบซูเปอร์ฮีโร่

ความรู้สึกที่มีต่อ.. ตะลุยมิติควอนตัม

โดยรวมแล้ว มันคือ การร่วมมือกันต่อสู้เพื่อนำพาครอบครัวรอดพ้นจากภัยอันตรายอันใหญ่หลวงในมิติที่ไม่ใช่ของพวกเขา และเล่าไปถึงพลเมืองภายในมิติแห่งนั้นที่ต้องร่วมกันกอบกู้อิสรภาพของตนเองขึ้นมา โดยผสานความร่วมมือกับครอบครัวนี้ แม้หนังจะมีช่วงแผ่วอยู่บ้าง ตรงกลางอาจจะน่าง่วงหน่อย แต่ด้วยเรื่องราวที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ช่วงองก์สุดท้ายของหนังเป็นไปอย่างสนุกตื่นตาจนพาร์ทดราม่าแทบจะไม่ทำงาน

ในความคิดของนายแพท สิ่งที่ Peyton Reed และทีมงานทำได้สำเร็จ ก็คือการยกระดับซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นตัวรองมาตลอด ให้กลายเป็นตัวตึง ที่พาแฟนมาร์เวลไปพบเจอกับเฟสใหม่ในวันนี้นั่นแล

และก็คงเหมือนเดิม สำหรับคอหนังมาร์เวลคงรู้กันดี หนังมีฉากแถม 2 ตัว ตัวแรกคือระหว่างเครดิต และตัวที่สองตรงท้ายเครดิตเลย นั่นแปลว่า คนดูห้ามลุกไปไหน ดูกันยาวๆ แล้วจะกรี๊ดดังๆ ครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง